ที่มา | คอลัมน์ เรียนไทยได้จีน |
---|---|
ผู้เขียน | ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร มฟล. |
เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (326) 成语故事 (三二六)
นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 上屋抽梯shànɡ wū chōu tī (ฉั้ง อู โชว ที) โดย คำว่า上shànɡ (ฉั้ง) แปลว่าขึ้น 屋wū (อู) แปลว่าบ้าน 抽chōu (โชว) แปลว่าดึงออก ชักออก 梯tī (ที) แปลว่า บันได เมื่อรวมกันแล้วหมายถึง ขึ้นบ้านชักบันได เป็นกลยุทธ์ที่จงใจปกปิดซ่อนเร้นและสร้างเงื่อนไขเพื่อหลอกล่อให้ศัตรูเป็นฝ่ายบุกเข้าโจมตีเข้ามา แล้ววางกำลังตีโอบศัตรูไม่ให้หลบหนีไปได้ มาดูตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตจีนนี้กัน
มีเรื่องเล่าว่า เชื้อสายราชวงศ์ฮั่นนามว่าหลิวเปี่ยว 刘表/劉表Liú Biǎo ได้สร้างคุณงามความดีต่อราชสำนัก จึงได้รับการปูนบำเหน็จให้ไปครองเมืองจิงโจว 荆州Jīnɡzhōu (เมืองเกงจิ๋ว) หลิวเปี่ยวครองเมืองนี้มานาน การเมืองภายในก็ดูสงบเรียบร้อยดี แต่บั้นปลายก็เกิดปัญหาภายในครอบครัวขึ้น เมื่อเขาเกิดความลุ่มหลงอนุภรรยาเป็นยิ่งนัก เมื่อรักมาก จึงเป็นไปได้ว่าผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าเมืองจิงโจวก็ย่อมตกเป็นของลูกชายอันเกิดจากอนุภรรยาคนนี้ เรื่องนี้จึงสร้างความกังวลใจกับลูกชายคนโตนามว่า หลิวฉี刘琦/劉琦 Liú Qí ยิ่งนัก เพราะเขาคือคนเดียวที่เป็นอุปสรรคต่อการสืบทอดตำแหน่งของลูกอนุภรรยา จึงเป็นที่มาของการมีข่าวลือต่าง ๆ นานาว่า มีการวางแผนกำจัดตัวหลิวฉีจากฝ่ายของอนุภรรยา หลิวฉีรู้ตัวดีว่าไม่อาจต่อกรกับอำนาจมืดของฝ่ายตรงข้ามได้ จึงคิดหาวิธีแก้ไขแต่ก็จนปัญญายิ่ง
จนมาวันหนึ่ง เมื่อขบวนทัพของหลิวเป้ย 刘备/劉備 Liú Bèi (เล่าปี่) มาขอพึ่งพาเจ้าเมืองจิงโจว โดยหนึ่งคนในผู้ติดตามหลิวเป้ยมาที่สำคัญคือจูเก๋อเลี่ยง 诸葛亮/諸葛亮Zhūɡé Liànɡ (จูกัดเหลียง หรือขงเบ้ง) หลิวฉี คุณชายผู้ตกยากจึงแอบเข้าพบและเล่าเหตุการณ์ทุกอย่าง พร้อมขอคำชี้แนะว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองพ้นภัย จูเก๋อเลี่ยงเกรงว่าคำแนะนำของตนจะทำให้เกิดความแตกแยกและเกิดภัยต่อเจ้านายของตน จึงบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้คำปรึกษา หลิวฉีรู้ดีว่าจะทำอย่างไร จึงกล่าวลาไป หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ให้คนเชิญตัวจูเก๋อเลี่ยงมาดื่มเหล้าที่คุ้มของตน เมื่อจูเก๋อเลี่ยงเดินทางมาถึง หลิวฉีก็เชิญเขาให้เดินขึ้นไปบนดาดฟ้าจุดสูงสุดของบ้าน ที่นั่น มีการจัดวางสุราอาหารอย่างพร้อมเพรียง เมื่อกินดื่มไปหลิวฉีก็ให้สัญญาณคนรับใช้ คนรับใช้ก็มายกบันไดออกไป ทำให้ไม่มีทางขึ้นหรือทางลงได้อีก เมื่อกินดื่มกันพอสมควรแล้ว หลิวฉีก็เอ่ยขอคำแนะนำจากจูเก๋อเลี่ยงอีกครั้ง จูเก๋อเลี่ยงทำทีมองซ้ายทีขวาที หลิวฉีจึงรีบพูดขึ้นว่า ณ ที่นี้ มีเพียงเราสองคน ในที่สูงสุดแห่งนี้ ไม่มีบันได จึงไม่อาจมีใครขึ้นมาบนนี้ได้
(ที่มาภาพ https://www.sohu.com/a/578031493_120629497)
ท่านโปรดวางใจ จูเก๋อเลี่ยงเห็นความตั้งใจของหลิวฉี และเห็นว่าไม่อาจบ่ายเบี่ยงได้อีกแล้ว จึงพูดเบา ๆ ขึ้นว่า ในยุคชุนชิว 春秋 Chūnqiū องค์ชายเฌินเฌิง 申生Shēn shēnɡ แห่งจิ้น晋国/晉國Jìn ɡuó (รัฐจิ้น) ดื้อแพ่งจะอยู่ในเมืองหลวง สุดท้ายก็ถูกใส่ความและประหาร ส่วนองค์ชายฉงเอ่อร์ 重耳 Chònɡ’ěr ละทิ้งลาภยศเงินทองทุกอย่าง แล้วหลบหนีทิ้งรัฐจิ้น จึงรอดปลอดภัยและสุดท้ายยังได้กลับมาครองเมืองอีก เมื่อฟังเช่นนี้แล้วหลิวฉีก็ตาสว่าง กล่าวขอบคุณจูเก๋อเลี่ยงทันที หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สบโอกาสเมื่อนายอำเภอคนหนึ่งที่อยู่อันไกลโพ้นของจิงโจวเสียชีวิตลง หลิวฉีจึงขอเสนอตัวเองไปเป็นนายอำเภอที่นั้น และก็สมหวังตามคำขอ เขาจึงรอดชีวิตมาได้จากการแย่งชิงอำนาจของเครือญาติวงศ์ตระกูล ต่อมาผู้คนจึงนิยมเอาอุบายที่หลิวฉีใช้เลี้ยงรับรองจูเก๋อเลี่ยงในครั้งนี้มาพูดเปรียบเปรยว่า ‘ปรึกษางานที่ลับสุดยอด’ แต่ต่อมาก็มีคนนำไปใช้เปรียบเปรยว่า ‘ล่อให้มาติดกับดัก’
ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้
成语比喻:进行极其秘密的谋划。也比喻诱人上当。
成語比喻:進行極其秘密的謀劃。也比喻誘人上當。
Chénɡyǔ bǐyù: Jìnxínɡ jíqí mìmì de móuhuà. Yě bǐyù yòu rén shànɡdànɡ.
เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: จิ้นสิง จี๋ฉี มี่มี่ เตอะ โหมวฮว่า. เหย่ ปี่ยวี่ โย่ว เหริน ฉั้งตั้ง
สุภาษิตเปรียบว่า ดำเนินการวางแผนที่เป็นความลับสุดยอด นอกจากนี้ยังเป็นอุปมาเพื่อล่อลวงผู้คนให้มาติดกับได้อีกด้วย
ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น
他的计谋进展得简直就像上屋抽梯一样,一步步的陷阱让敌人无法自拔。
他的計謀進展得簡直就像上屋抽梯一樣,一步步的陷阱讓敵人無法自拔。
Tā de jìmóu jìnzhǎn dé jiǎnzhí jiù xiànɡ shànɡ wū chōu tī yīyànɡ, yībù bù de xiànjǐnɡ rànɡ dírén wúfǎ zìbá.
ทา เตอะ จี้โหมว จิ้นจ่าน เต๋อ เจี่ยนจื๋อ จิ้ว เซี่ยง ฉั้ง อู โชว ที อี๋ย่าง, อี๋ปู้ ปู้ เตอะ เซี่ยนจิ่ง ร่าง ตี๋เหริน อู๋ฝ่า จื้อป๋า
แผนของเขาดำเนินไปได้ราวกับกลยุทธ์ขึ้นบ้านชักบันได โดยมีกับดักทีละขั้นลวงศัตรูไม่สามารถสลัดหลุดพ้นออกมาได้