‘ศธ.’ผุดระบบบริหารอัตรากำลังครู ปรับใหญ่ทุกองค์กรใช้บัญชีร่วมกัน

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมประสานภารกิจว่า ที่ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบและอนุมัติการรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 และการประชุมที่เกี่ยวข้องและปฏิญญาร่วมอาเซียน-ซีมีโอ รวม 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างเอกสารถ้อยแถลงร่วมบุรีรัมย์ของการประชุมรัฐมนตรี ด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13, ร่างเอกสารถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียน บวกสาม ครั้งที่ 7, ร่างเอกสารถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกด้านการศึกษา ครั้งที่ 7 และปฏิญญาร่วมว่าด้วย พื้นที่ร่วมด้านอุดมศึกษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ การประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 จะจัดขึ้นวันที่ 23-26 สิงหาคม ที่ จ.บุรีรัมย์ โดยมี ศธ.ไทยเป็นเจ้าภาพ

“สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) รายงานการจัดทำระบบสารสนเทศเพื่อบริหารอัตรากําลัง ศธ. หรือ (Information System for Workforce Management, the Ministry of Education : ISWM) ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยระบบดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการบริหารอัตรากำลัง การใช้บัญชีร่วมกันในการบรรจุการวิเคราะห์อัตรากำลังและต่อยอดไปถึงแนวทางพัฒนาทักษะรายบุคคลขององค์กร การใช้บัญชีร่วมกันในการบรรจุการวิเคราะห์อัตรากำลัง และต่อยอดไปถึงแนวทางพัฒนาทักษะรายบุคคลขององค์กร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างให้ส่วนราชการจัดทำข้อมูลลงระบบและระบบดังกล่าวจะทำให้ทราบว่าข้อมูลอัตราเกษียณอายุราชการในแต่ละปีมีจำนวนเท่าใด ข้อมูลนี้จะช่วยวางแผนกรอบอัตรากำลังไปถึงปี 2570 เพื่อจะได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าถึงการสับเปลี่ยนอัตรากำลังครูไม่ว่าจะเป็นการสอบบรรจุ การเกษียณ หรือการโยกย้ายกลับภูมิลำเนาเดิม” พล.ต.อ.เพิ่มพูน

รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้รายงานความก้าวหน้าการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาตามแนวทางของโครงการประเมินผลนักเรียนนานานชาติ หรือพิซา 2025 ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชุดพัฒนาความฉลาดรู้ ข้อสอบที่มี คู่มือการสอนสำหรับครูในการจัดกิจกรรมการเรียน ฯลฯ โดยอยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำการประเมินผลพิซาในครั้งนี้มาปรับใช้เพื่อพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศไทย ขณะเดียวกันยังรายงานการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณปี 67 ซึ่งพบว่ามีการดำเนินการตามเป้าหมายถึง 91% ถือว่าเป็นภาพรวมการใช้จ่ายงบที่ดีมากขึ้น พร้อมทั้งยังเร่งติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 กันยายน เพื่อให้การบริหารจัดการงบประมาณเกิดความคุ้มค่าต่อการจัดการศึกษาสูงสุด รวมทั้งการวางแผนใช้งบประมาณเหลือจ่ายด้วย ตามแนวทางการทำงาน ถูกต้อง รวดเร็ว ประโยชน์ ประหยัด เพื่อประโยชน์ของผู้เรียน ครู และผู้ปกครองเป็นสำคัญ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image