เมื่อวันที่ 1 มีนาคม นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการทุจริต (ศปท.) ศธ.ที่มี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้ รับทราบการจัดทำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอซีที เพื่อติดตามกระบวนการตรวจสอบข้อร้องเรียน และปัญหาการทุจริตต่างๆ ให้รวดเร็ว และเป็นไปตามเวลาที่กำหนด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม นอกจากนี้ คณะกรรมการอำนวยการฯ ยังพิจารณาแผนยุทธศาสตร์ในการป้องกันการทุจริต ซึ่งมี 3 ยุทธศาสตร์ ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ป้องกันการทุจริตระดับชาติ มีทั้งยุทธศาสตร์ด้านการป้องกัน ติดตาม และประเมินผล ขณะเดียวกันยังมีการเสนอให้ตั้ง ศปท.ระดับภาค และระดับจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับงาน ศธ.
“ที่ประชุมยังรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาทุจริต ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ 620 เรื่อง โดยที่ประชุมขอให้ดึงเรื่องสำคัญ 8 เรื่อง เพื่อดำเนินการแก้ไข และสรุปผลอย่างเร่งด่วน คือคดีทุจริตสลากกินแบ่งรัฐบาลในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู, กรณีบริษัทบิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ทุจริตซื้อตั๋วสัญญากับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.), การจัดสร้างสนามฟุตซอล, การสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 20, การทุจริตสอบบรรจุครูผู้ช่วย ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีงบประมาณ 2556, การทุจริตของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม, การทุจริตปรับปรุงห้องเรียนอิเล็คทรอนิกส์ (E-Classroom) ของ สพฐ.และการทุจริตการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ตามโครงการ Safe Zone School ของ สพฐ.” นายกมลกล่าว
นายกมลกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องกับหลายองค์กร จึงให้นัดประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 9 มีนาคม ซึ่งจะเชิญกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ ว่ามีประเด็นใดที่ยังค้างอยู่ และขอให้นัดประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าประจำทุกเดือน จากนี้การตรวจสอบทุจริตทุกเรื่องจะต้องมีเงื่อนเวลาในการดำเนินงานที่ชัดเจน ไม่ให้เกิดความล่าช้า” นายกมลกล่าว
