ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ ฉบับใหม่ ผุดกองทุนส่งเสริมฯ จูงใจต่างชาติผลิตภาพยนตร์ในไทย

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ กล่าวหลังประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าและให้ความเห็นชอบในหลักการเรื่องการปรับปรุงแก้ไขร่างพ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (ฉบับที่..) พ.ศ…. ซึ่งขณะนี้จัดทำเสร็จแล้ว ร่างพ.ร.บ.มี 40 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ อาทิ กำหนดให้มีกองทุนส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อใช้จ่ายเป็นทุนหมุนเวียนอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการถ่ายทำภาพยนตร์เพื่อช่วยจูงใจให้มีการมาถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย และให้มีคณะอนุกรรมการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ โดยมีปลัด วธ.เป็นประธาน ทำหน้าที่ควบคุมการใช้จ่ายเงินหรือทรัพย์สินของกองทุนในการถ่ายทำภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังกำหนดให้มีการจำแนกประเภทหรือจัดเรตติ้งวีดิทัศน์ที่เป็นเกมการเล่น โดยมีคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ตรวจอนุญาต และดำเนินการจัดเรตติ้งวีดิทัศน์ที่เป็นเกมการเล่นให้เหมาะสมกับผู้เล่นแต่ละช่วงวัย ได้แก่ ผู้เล่นทั่วไป ผู้เล่นอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ผู้เล่นอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ผู้เล่นอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ผู้เล่นอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และวีดิทัศน์ที่ห้ามเผยแพร่ในราชอาณาจักร ตลอดจนกำหนดให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน จากนี้จะเสนอร่างพ.ร.บ.ตามลำดับขั้นตอนต่อไป

“ที่ประชุมได้รับทราบมูลค่าอุตสาหกรรมคอนเทนต์ของประเทศไทย ในช่วงปี 2554-2558 ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งแอนิเมชั่น เพลงคาราโอเกะ เกมและโทรทัศน์ โดยในปี 2558 มีมูลค่าในภาพรวมทั้งหมดกว่า 2.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้ มีแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นไปในทิศทางที่ดี นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบอนุญาตให้จัดฉายภาพยนตร์ 7 เรื่อง จาก 8 ประเทศ อาทิ œMustang ของสาธารณรัฐตุรกี œDev Bhoomi The Land Of Gods ของสาธารณรัฐเซอร์เบียและสาธารณรัฐอินเดีย œI am a girl ของเครือรัฐออสเตรเลีย เป็นต้น โดยจะนำไปจัดฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 มีนาคม 2560 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิล์ด ซีเนม่า ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิล์ด กรุงเทพฯ นอกจากนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ใช้ตราสัญลักษณ์ œCONTENT THAILAND เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ภาพยนตร์ไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อออกแบบวิธีการจัดวางตราสัญลักษณ์ให้เหมาะสม และนำมาเสนอต่อคณะกรรมการภาพยนตร์ฯ อีกครั้ง” รองนายกฯ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image