วธ.ประสานกต.-ตั้งคณะทำงาน ทวงคืน’โบราณวัตถุ-ศิลปวัตถุไทย’

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมการติดตามโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ(กต.) กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมว่า ที่ประชุมได้หารือปัญหาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุไทยที่ถูกนำออกไปยังต่างประเทศจำนวนมาก เนื่องจากขณะนี้มีการเผยแพร่ข้อมูลและภาพถ่ายโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุของไทยที่กระจัดกระจายอยู่ในต่างประเทศ ผ่านสื่อต่างๆ อาทิ สื่อออนไลน์ สื่อสิ่งพิมพ์ เป็นต้น ซึ่งกรมศิลปากร (ศก.) ได้รายงานว่า โบราณวัตถุและศิลปวัตถุไทยส่วนหนึ่งถูกลักลอบนำออกไปสู่ต่างประเทศ ทำให้กระจัดกระจายอยู่ในพิพิธภัณฑ์ สถาบันการศึกษา มูลนิธิเอกชน และสถาบันการประมูลในประเทศต่างๆ

รัฐมนตรีว่าการวธ. กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการติดตามโบราณวัตถุฯ ประกอบด้วย 1.สำรวจและรวบรวมข้อมูลและภาพถ่าย โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุของไทยที่กระจัดกระจายอยู่ในต่างประเทศ รวมทั้งจัดหมวดหมู่และลำดับความสำคัญเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการติดตาม 2.ประสานงานกับ กต. แจ้งสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศ ดำเนินการตรวจสอบโบราณวัตถุและศิลปวัตถุของไทยเพื่อติดตามและขอคืนกลับสู่ไทย 3.แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาและคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบข้อมูล กำหนดมาตรการและวางกรอบแนวทางในการปฏิบัติ 4.ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย เปรียบเทียบข้อมูลทางวิชาการโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ เพื่อพิสูจน์ความเป็นของแท้ดั้งเดิม การกำหนดแบบศิลปะ อายุสมัย และยืนยันแหล่งกำเนิดในประเทศไทย 5.ศึกษาแนวทางการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยวิธีห้ามและป้องกันการนำเข้า ส่งออก และโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทางวัฒนธรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมายขององค์การ การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ค.ศ. 1970 และอนุสัญญาสถาบันระหว่างประเทศเพื่อทำให้กฎหมายเอกชนมีเอกภาพว่าด้วยวัตถุทางวัฒนธรรมที่ถูกโจรกรรมหรือส่งออกโดยผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องและติดตามโบราณวัตถุฯ ในต่างประเทศ ทั้งนี้ เบื้องต้นที่ประชุมได้มอบหมาย ศก.ทบทวนเนื้อหาร่างแก้ไขพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถาน พ.ศ.2535 ให้สอดคล้องกับอนุสัญญาฯทั้ง 2 ฉบับ 6.สำรวจเพื่อจัดทำข้อมูลจากการสำรวจโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุในความครอบครองของเอกชน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูล 7.การควบคุมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุในการนำออกและนำเข้าภายในประเทศ 8.ควบคุมสถานการค้าและการจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ให้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยขึ้นทะเบียนร้านค้าโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ 9.บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และ 10.เปิดเวทีให้ความรู้และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image