เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา หลักสูตรปีการศึกษา 1/2557 (รหัส 57) มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี (มกธ.) กว่า 800 คนเตรียมยื่นฟ้องแพ่งมกธ. ให้จ่ายค่าเรียนในหลักสูตรดังกล่าวคืน จำนวน 147,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี เนื่องจากเรียนจบแล้วไม่สามารถขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาจากคุรุสภาได้ ว่า การที่ผู้สำเร็จการศึกษา ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากมหาวิทยาลัย ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง จะมาฟ้องศธ. หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไม่มีประโยชน์ เพราะโดยหลักการมหาวิทยาลัยต้องรับผิดชอบ การจัดการเรียนการสอนที่ไม่มีคุณภาพ
นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า การฟัองร้องถือเป็นสิทธิ์ ส่วนจะได้รับการชดใช้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ทั้งนี้ในส่วนของคุรุสภาเคยมีมติในเรื่องดังกล่าวไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกมีมติไม่อนุมัติใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาของมหาวิทยาลัย 4 แห่ง หนึ่งในนั้นคือ มกธ. ซึ่งรับนักศึกษาเกินกว่าที่สกอ.รับทราบ โดยสกอ.รับทราบเพียง 490 คน แต่มกธ.รับเกินไปถึง 2,500 คน ทำให้กระทบต่อคุณภาพการจัดการศึกษา
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นผู้ที่จบการศึกษาในขณะนั้น ได้ยื่นอุทธรณ์ ให้คุรุสภาเยียวยา ซึ่งคณะกรรมการคุรุสภาได้พิจารณา และมีมติเป็นครั้งที่ 2 ว่า ไม่เยียวยา และมีข้อแนะนำให้ผู้ที่สำเร็จการ นำวิชาที่เรียนเทียบโอนหน่วยกิต กับสถาบันที่ได้รับการรับรอง และเรียนเพิ่มเติมในส่วนที่ขาด ขณะที่ในส่วนของมกธ. ผู้สำเร็จการผู้ศึกษา สามารถนำวิชาที่เรียน ไปเทียบโอนได้ที่มกธ. โดยให้นำไปเทียบในปีที่หลักสูตรได้รับการรับรองคือ หลักสูตรปี2558และ2559 และเรียนเพิ่มเติมในส่วนที่ขาด ซึ่งเท่าที่ทราบในเบื้องต้น มหาวิทยาลัยได้แจ้งให้นักศึกษาได้รับทราบและให้เงินเยียวยาไปแล้วบางส่วน
“กรณีนี้ผู้สำเร็จการศึกษา ยังถือว่ามีศักดิ์และสิทธ์ในปริญญาที่จบมาทุกประการ เพียงแต่ไม่ได้รับใบอนุญาตฯ จากคุรุสภา ซึ่งคงไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นความผิดของใคร “นายสมศักดิ์ กล่าว
