ไลน์ครูรุมจวกคูปอง! โวยหลักสูตร ‘แซ่บอย่างเป็นทางการ’ แจกชีตสอน ‘นวดหน้า-เขียนคิ้ว’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) โดย สำนักพัฒนาครูและบุคลากรกทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพค.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้เปิดโครงการการจัดทำระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา หรือคูปองพัฒนาครู ที่เชื่อมโยงเกณฑ์วิทยฐานะใหม่ที่กำหนดให้ครูต้องพัฒนาตัวเองอย่างน้อย 12-20 ชั่วโมงต่อปี โดยจะจัดสรรเงินให้ครูรายละ 10,000 บาทต่อปีเพื่อเลือกช้อปปิ้งหลักสูตรในการอบรมพัฒนาตนเอง ทยอยอบรมกันตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมเป็นต้นมานั้น ปรากฏว่าในไลน์กลุ่มครูอาจารย์ได้มีการเผยแพร่การรีวิวคอร์สที่เข้าอบรมอย่างดุเดือด อาทิ

รีวิวคูปอง10,000 กับห่วยแตกของคนจัดงาน
เรื่องมีอยู่ว่าทางกระทรวงได้มีการผลักดันและประโคมข่าวเรื่อง การให้ครูไปอบรมโดยเลือกหลักสูตรการอบรมเองตามที่ครูแต่ละคนสนใจ โดยกระทรวงให้งบครูคนละ 10,000 บาท ส่วนตัวดิฉันก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที เพราะคิดว่าการที่ สพฐ ให้เงินครูค่าหัวเยอะขนาดนี้จะต้องเป็นการอบรมที่ดีและมีคุณภาพ ผ่านการคัดกรองจากทางกระทรวงมาเป็นอย่างดี และใจก็นึกว่าดิฉันต้องไปให้ได้ ต้องบอกก่อนว่าดิฉันเป็นครูบรรจุใหม่ที่มองภาพของ สพฐ ดีมาเสมอ แต่เมื่อได้เข้าอบรมครูคูปอง 10,000 บาท ทำให้รู้เลยว่า การทำงานของ สพฐ โดยการจัดอบรมของ “สมาคมนักธุรกิจ…” เป็นอะไรที่แย่มาก สมาคมฯนี้ได้มีการตั้งชื่อการอบรมให้น่าสนใจ เช่น แซ่บอย่างเป็นทางการ, ใครว่าครูอ้วน, กระเป๋าตังหายไปไหน, วิธีการขโมยความสำเร็จจากอนาคต, เรียนรู้วิธีการสอนออนไลน์รองรับยุคดิจิตอล 4.0 เป็นต้น และแต่ละหลักสูตร ค่าอบรมอยู่ที่ประมาณ 3,500-4,500 บาท ซึ่งถือว่าราคาค่าอบรมสูงพอสมควร ต้องบอกก่อนว่า ดิฉันลงอบรมหลักสูตรชื่อว่า แซ่บอย่างเป็นทางการ โดยก่อนไปได้อ่านวัตถุประสงค์ของการจัดอบรม คือ การให้ครูมีบุคลิกภาพที่ดี ซึ่งตอนนั้นในหัวคิดว่าจะต้องมีการอบรมที่สร้างความแตกต่างจากเดิมอย่างแน่นอน ด้วยหัวข้อการอบรมที่น่าสนใจ ชื่อผู้จัดโครงการก็น่าสนใจ และราคาอบรมสูง น่าจะมีอะไรที่แตกต่างจากที่เคยอบรมมา แต่สิ่งที่ได้รับมันช่างเลวร้ายมากค่ะ

1. วิทยากรที่มาอบรม อบรมเรื่อง การให้ครูมาแนะนำตัวร่วมกัน การให้ครูนวดหน้าด้วยตนเองโดยอ่านชีตแล้วก็สอน สอนการเขียนคิ้ว โดยให้เขียนลงในกระดาษ
2. อาหารกลางวันที่ครูรับประทาน เหมือนเป็นการดูถูกครูมากๆค่ะ ไล่ครูจากชั้น4ลงมาทานชั้น 1 พอมาชั้น 1 ไล่ให้ไปทานชั้น 4 ครูก็เดินวนไปๆมาๆคะ สุดท้ายอาหารที่เป็นบุฟเฟ่ต์ก็หมดค่ะ พอวันที่ 2 จัดเป็นข้าวกล่องมาแต่ในข้าวกล่องมีข้าวและทอดมัน 1 ชิ้นกับแกงอีกนิดนึงค่ะ แต่พอเดินมาด้านล่างมีทั้งร้านก๋วยเตี๋ยว ขนมนมเนยดีๆขายเต็มไปหมด คือถ้าจะให้ครูกินแบบนี้คิดว่าไปไม่ต้องเสียเวลาจัดอาหารจะดีกว่าคะ
3.มีระบบจัดการเรื่องเกียรติบัตรที่แย่มากๆ ครูบางคนต้องเดินทางกลับก่อนเนื่องจากบางคนท้องแก่ บางคนเดินทางมาไกล บางคนนำลูกเล็กมาเลี้ยงด้วย จึงต้องกลับก่อน เลยขอเกียรติบัตรกับทางทีมงาน สิ่งที่ได้รับคือ ให้ครูจดชื่อใส่เศษกระดาษและยืนรอหน้าห้อง ทีมงานก็ก็นั่งหาเกียรติบัตรกันตาเหลือก โดยที่ไม่มีระบบการจัดการที่เป็นระบบเลย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรเตรียมตัวมาก่อนล่วงหน้ามากกว่า ไม่ใช่มาทำหน้างาน
4.เรื่องสถานที่อบรม ตอนแรกบอกครูว่ามาอบรมโรงแรมในนครนายก แต่พอถึงวันใกล้จริงๆอบรมใช้สถานที ราชภัฎ
5.รีวิวจากเพื่อนครู ดิฉันสอบถามเพื่อนครูที่มาอบรมด้วยกัน ทุกคนบอกว่าไม่ได้อะไร มีคนหนึ่ง ลงเรียนเรื่อง เรียนรู้วิธีการสอนออนไลน์รองรับยุคดิจิตอล 4.0 เนื้อหาที่สอนคือสอนให้ครูเล่น LINE เล่นเฟสบุค

ต้องบอกก่อนว่าผู้เขียนไม่มีเจตนาจะเขียนเพื่อให้ใครเสียหาย แต่เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้
1. ไม่อยากให้ครูที่ต้องเข้าอบรมไปอบรมโดยไม่เกิดประโยชน์อะไร เสียเงิน เสียเวลา ทิ้งเวลาที่จะอยู่กับครอบครัวมาเพื่อจะมาเจออะไรแบบนี้
2. รัฐบาลนำภาษีของประชาชนมาทำแบบนี้ ในฐานะครูคนหนึ่งเสียดายแทนคะ
3.การกระทำที่สมาคมนักธุรกิจเอสเอ็มอีรุ่นใหม่จัดทำ เป็นการค้ากำไรเกินควรไปนะคะ
4.ในการจัดการอบรมครั้งนี้ ถือว่าไม่ให้เกียรติครูเลย ทั้งการจัดเลี้ยง เนื้อหาการอบรม

Advertisement

ความจริงดิฉันถ่ายรูปมาเป็นหลักฐานมากมายคะ แต่ด้วยระบบไม่อนุญาตให้ลงรูปคะ ถ้ายังไงอยากเห็นหลักฐานก็ request กันมานะคะ เผื่อทางทีมงานพันทิพจะดูแลระบบให้คะ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เพื่อครูจะไม่ตกเป็นเหยื่อคะ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีการแสดงความคิดเห็นว่าการอบรมคราวละหลายพันคน จะได้ผลหรือไม่

ด้านนางเกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้อำนวยการ สพค. สพฐ. กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ทีมระบบดูรายละเอียด จากนี้จะเชิญเจ้าของหลักสูตรทั้งหมดประชุมเพื่อหาแนวทางร่วมกันในการจัดการหลักสูตรที่ไม่มีคุณภาพ โดยจะรวบรวมผลการประเมินจากระบบ รวมทั้งความเห็นของครูจากโซเชียลมาให้หน่วยจัดได้รู้ รวมทั้งตนจะแจ้งข้อมูลไปให้ สถาบันคุรุพัฒนาประกอบการลงลิสต์และจะประกาศให้ครูทราบเพื่อไม่ให้เลือก ตลอดจนให้โอกาสผู้จัดที่อยากจะพัฒนาให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น เพราะงานหน่วยจัดยังไม่จบ ต้องตามครูไปที่ห้องเรียนด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image