| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า กรณีที่นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารธนชาต ได้ทำหนังสือชี้แจงถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสื่อมวลชน เรื่องเกี่ยวกับกรณี สกสค.จะฟ้องแพ่งธนาคารธนชาต เพื่อขอให้คืนเงิน 2,100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยอ้างว่าการอนุมัติถอนเงิน และปิดบัญชีเงินฝากที่ สกสค.ฝากไว้กับธนาคารธนชาต เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ไม่ถูกต้องนั้น โดยธนาคารธนชาตยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไข ตามระเบียบของธนาคารว่าด้วยการถอนเงินและการโอนเงินทุกประการ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมติกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) โดยเจ้าหน้าที่ของธนาคารไม่มีสิทธิ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และการกล่าวหาว่าเป็นการกระทำที่ขาดความระมัดระวังของผู้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ จึงไม่เป็นธรรมต่อธนาคารอย่างยิ่ง และทำให้ธนาคารได้รับความเสียหายนั้น ไม่ขอพูดรายละเอียดในเรื่องนี้ แต่ได้รายงานผลการดำเนินการทั้งหมด รวมถึง เสนอความเห็นของที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ซึ่งได้เสนอแนะแนวทางการดำเนินการให้นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ประธานคณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการ ศธ.แล้ว เพื่อให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.พิจารณา ส่วนฝ่ายกฎหมายจะเสนอให้ฟ้องธนาคารธนชาต หรือให้ดำเนินการอย่างไรบ้างนั้น ไม่สามารถบอกได้ เพราะต้องรอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ตัดสินใจ
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวว่า ยังไม่เห็นข้อเสนอของนายพินิจศักดิ์ แต่คงไม่รออ่านจากเอกสาร จะให้นายพินิจศักดิ์ และฝ่ายกฎหมาย มาชี้แจงขั้นตอน และพูดคุยในรายละเอียดกันให้ชัดเจน โดยจะให้ทีมกฎหมายของตนมาร่วมรับฟังด้วย
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก และอะไรที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ยังไม่กล้าตอบเร็ว กลัวจะไปเข้าทาง หรือผิดช่อง ยิ่งคู่กรณีเป็นเอกชน หากพูดเร็วไปจะไม่ดี แต่ถ้าฝ่ายกฎหมายเสนออะไรมาผมก็พร้อมดำเนินการ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ และธนาคารธนชาตเองก็มีชื่อเสียง จะไปทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ต้องถามชัดเจน” พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว
แหล่งข่าวระดับสูงจากผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินจะทบทวนการวินิจฉัยเรื่องดังกล่าวก็ต่อเมื่อ ศธ.ร้องขอมา แต่กรณีของธนาคารธนชาตมีความผิดชัดเจนตามระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่หากพบว่าธนาคารประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ต้องยอมรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งประเด็นของธนาคารธนชาต ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าธนาคารมีความประมาทจริง ซึ่งธนาคารก็ต้องรับผิดชอบ
