มาคุ! ชร.ผอ.สพท.ขู่ยื่น’บิ๊กตู่’แก้โครงสร้างศธจ.เองถ้า’หมอธี’ไม่รับลูก ซัด 8 เดือนปัญหาอื้อ เล็งล็อบบี้พรรค

ธนชน มุทาพร

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน นายธนชน มุทาพร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)ชัยภูมิ เขต 1 ในฐานะประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ชร.ผอ.สพท.) และรักษาการเลขาธิการสมาคมนักบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย(ส.บ.พ.ท.) เปิดเผยกรณีมีข่าวว่า ชร.ผอ.สพท. ได้รวบรวมรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง 50,000 ชื่อเสนอนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)เพื่อขอให้ยกเลิกข้อที่ 13 ในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ระบุว่า “การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร ตามมาตรา 53 (3) และ (4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ ศธจ. โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.)เป็นผู้มีอํานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง” นั้นว่า เป็นความจริง โดยภายในเดือนธันวาคมนี้ จะขอเข้าพบนพ.ธีระเกียรติเพื่อหารือเรื่องดังกล่าว โดยหากไม่รับข้อเสนอไปเสนอผู้มีอำนาจพิจารณาแก้ไขคำสั่งคสช. ทางชร.ผอ.สพท.พร้อมด้วยสมาชิกส.บ.พ.ท. โดยมีองค์กรครูทั่วประเทศร่วมสมทบ จะขออนุญาตรัฐมนตรีว่าการศธ.ขอเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คสช.และคณะรัฐมนตรี(ครม.)ด้วยตัวเอง ทั้งนี้เนื่องจากชร.ผอ.สพท.ได้พยายามทำตามข้อเสนอของนพ.ธีระเกียรติ ที่ว่าให้สพท.และศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)ลองบูรณาการการทำงานในพื้นที่ภายใต้การไม่แก้ไขกฎหมายก่อน ชร.ผอ.สพท.ลองมาแล้วทุกทาง แต่พบว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากโครงสร้างใหม่ในภูมิภาค ไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากต้นเหตุของปัญหาคือ ข้อที่ 13 ของคำสั่ง คสช.ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ประธานชร.ผอ.สพท. กล่าวต่อว่า นับแต่วันที่ 3 เมษายนที่มีคำสั่ง คสช.ดังกล่าว ส่งผลให้เพิ่มขั้นตอน เสียเวลา สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ภาระงานไม่ได้ลดน้อยลง แต่บุคลากรน้อยลงเพราะถูกถ่ายโอนไปสังกัดศธจ.และสำนักงานศึกษาธิการภาค(ศธภ.) ขณะที่ในสำนักงานศธจ.และศธภ. มีคนมากกว่างาน ทั้งนี้ส่งผลให้เขตพื้นที่ฯ ต้องหางบประมาณมาจ้างบุคลากรทดแทนเพื่อมาทำงาน และยังส่งผลกระทบต่อครู โรงเรียนและเขตพื้นที่ฯ เช่น ข้าราชการครูบรรจุใหม่กว่าจะได้รับเงินเดือนต้องใช้เวลา 2-3 เดือน อาทิ สพป.ชัยภูมิ เขต 1 มีครูบรรจุใหม่ วันที่ 9 พฤศจิกายน กว่าจะได้รับเงินเดือนก้อนแรกคือเดือนมกราคม 2561 เนื่องจากติดขัดขั้นตอนทางราชการที่เพิ่มขึ้น, การประชุมของกศจ. 98% เป็นเรื่องงานบุคคล มีแค่ 2% ที่เป็นเรื่องแผนและยุทธศาสตร์ ฉะนั้นกศจ.จะมีเวลาไปบริหารงานตามเป้าหมายของโครงสร้างใหม่ได้อย่างไร, เลื่อนขั้นเงินเดือน โดยปกติเดือนตุลาคมเสร็จแล้ว แต่ปัจจุบันหลายคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.)ยังไม่ส่งเรื่องเลื่อนขั้นเงินเดือน เช่น มุกดาหาร สุรินทร์ เป็นต้น, การพิจารณาเรื่องขอมีและเลื่อนวิทยฐานะของครูล่าช้าซึ่งส่งผลต่อการปรับเงินเดือนอันจะนำไปใช้เป็นฐานเงินเดือนในการกู้ธนาคารออมสิน ส่งผลให้ครูไม่สามารถยื่นกู้ได้, การอนุมัติการลาออกของข้าราชการครูหรือการแต่งตั้งรักษาการรองผู้อำนวยการโรงเรียนและรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนล่าช้าเพราะต้องเพิ่มขั้นตอนที่ต้องเสนอศธจ. เป็นต้น ขณะนี้ 225 เขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งคสช.ที่มอบอำนาจตามมาตรา 53 ให้กับศธจ.และกศจ.

“ขณะนี้เราอยู่ระหว่างสำรวจสพท.ทั่วประเทศ 3 เรื่อง คือ 1.ผลกระทบของทุกเขตจากคำสั่ง หัวหน้าคสช.ที่ 19/2560 2.ภาระงบประมาณที่เพิ่มมากขึ้นจากการต้องตั้งงบสำหรับค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าพาหนะที่เกิดจากการส่งเอกสารทางราชการไปยังศธจ. เช่น สพป.นครราชราชสีมา เขต 6 ต้องตั้งงบเพื่อการนี้ถึง 1 ล้านบาทจากเดิม 5 แสนบาท สพป.นครราชสีมา เขต 5 มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเดือนละ 20,000 บาท เป็นต้น และ3.วาระการประชุมของกศจ.เพื่อเปรียบเทียบวาระการประชุมด้านงานบุคคลกับงานแผน/ยุทธศาสตร์ ทั้งนี้หลังจากได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วจะนำเสนอรัฐมนตรีว่าการศธ.ประกอบการพิจารณาแก้ไขบทบาทหน้าที่ของกศจ./ศธจ.ใหม่ โดยให้กศจ.ดูแลแค่เรื่องแผน/ยุทธศาสตร์/บูรณาการในจังหวัดในฐานะเสนาธิการในจังหวัด ส่วนงานบุคคล ขอให้เป็นหน้าที่ขององค์คณะบุคคลกลาง หรือคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดหรือดึงคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่ฯ กลับมา แต่วางระบบการคัดกรองและตรวจสอบที่เข้มข้นเพื่อป้องกันการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนในอดีตที่เกิดขึ้นกับบางคนและบางเขตซึ่งเป็นส่วนน้อย” นายธนชนกล่าว

นายธนชน กล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยืนยันว่าไม่ใช่เพื่อล้มศธจ. เราขอแค่ให้ปรับบทบาทหน้าที่เท่านั้น เพราะตอนนี้เดินหน้าไม่ได้ ต้องยอมรับว่าปัญหาเกิดมาจากการปฏิรูปการศึกษาที่ไม่ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมแต่ต้น ถือเป็นจุดบอดของการปฏิรูปครั้งนี้ เป็นความล้มเหลวที่เรียกว่าบูรณาการจำแลง ไม่ใช่บูรณาการอย่างแท้จริง ส่วนที่ถามว่าถ้ารัฐบาลไม่รับข้อเสนอตามที่เรียกร้อง จะเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น ตนยืนยันได้ว่าจะไม่มีการประท้วงด้วยการหยุดสอนเด็ดขาด ไม่มีการเดินขบวนด้วย แต่จะเคลื่อนไหวอย่างวิญญูชนอย่างสุภาพบุรุษ เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นโดยการเมือง เราก็จะแก้ไขด้วยวิธีการทางการเมืองคือหากพรรคไหนมีนโยบายที่จะรับเรื่องนี้ไปแก้ไขให้ ครูทั่วประเทศก็พร้อมจะเลือกพรรคนั้น ซึ่งเร็วๆ นี้เราจะประชุมเรื่องนี้อีกครั้ง

Advertisement

อ่านเพิ่มเติม

– มาคุ! ชร.ผอ.สพท.ขู่ยื่น’บิ๊กตู่’แก้โครงสร้างศธจ.เองถ้า’หมอธี’ไม่รับลูก ซัด 8 เดือนปัญหาอื้อ เล็งล็อบบี้พรรค
ศธ.ออกประกาศแบ่งส่วนราชการ “เขตพื้นที่ฯ” มอบภารกิจ 12 ด้าน แต่ไร้อำนาจบริหารงานบุคคล
ศธ.เตรียมชง ‘คปภ.’ คืนอำนาจ ม.53 ให้ผอ.สพท.บางส่วน หลังผอ.สพป.งัดข้อศธจ.ปฏิเสธร่วมงาน
‘หมอธี’ปัดตอบกรณีความขัดแย้ง ‘สพท.-สป.ศธ.’ โบ้ยถามปลัดศธ.
คำตอบของเลขาฯ กพฐ. ต่อกรณีผอ.สพท.งัดข้อศธจ./สป.ศธ. ปฏิเสธร่วมงาน “ทราบ-ไม่ไป”
โผล่อีก! ผอ.สพป.เชียงราย 1 ตอบปฏิเสธสป.ศธ.เชิญร่วมประชุมลูกเสือ-เนตรนารี “ทราบ-ไม่จำเป็นต้องไป”
‘หมอธี’แจงไร้อำนาจแก้โครงสร้าง’ศธจ.’ หลังชมรม ผอ.เขตล่า 5 หมื่นชื่อจี้คืนอำนาจบรรจุแต่งตั้ง
ปฏิกิริยา ผอ.สพป.โคราช 7!! หลังฟังคลิปเสียงปลัด ศธ.ปรามกรณีตอบหนังสือ ศธจ. “ทราบ-ไม่ไป”
‘การุณ’ รับคลิปเสียงตัวเองจริง ย้ำให้กำลังใจศธจ.ทำงานเข้มแข็ง อย่าแตกแยกกับสพท.
ชมรมผอ.สพท.ต้านโครงสร้างศธจ. ล่า5หมื่นชื่อจี้รมว.ศธ.คืนอำนาจเขตพื้นที่ฯ
แชร์ว่อน!! คลิปเสียงปลัดศธ. กำราบผอ.สพป.โคราช7หลังงัดข้อศธจ.ปฏิเสธหนังสือเชิญ “ทราบ-ไม่ไป” (คลิป)
ผอ.สพป.โครราช 7 แจงปฏิเสธร่วมงานประดับอินทรธนูครูบรรจุใหม่ เหตุ ‘ศธจ.’ ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาครูโดยตรง
แค่หนังตัวอย่าง’สพป.โคราช7ต้าน’ศธจ.’!! นักวิชาการจี้คสช.ลดอำนาจต้นสังกัด ให้ร.ร.เป็นนิติบุคคล
ศธ.รับ’ศธจ.-สพท.’ขัดแย้ง เรื่องปกติช่วงปรับโครงสร้าง เล็งโยกอำนาจ’ลงโทษทางวินัย-แต่งตั้งรก.’กลับสพท.
ฮือฮา!! ผอ.สพป.โคราช 7 ปฏิเสธหนังสือศธจ.โคราช เชิญร่วมงานครูบรรจุใหม่ “ทราบ-ไม่ไป”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image