‘หมอธี’ ไม่ฟันธง เดินหน้าทุนโอดอสรุ่น 5 สั่งทบทวนข้อดี-ข้อเสียเกณฑ์ให้ทุน

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม นายนายพะโยม ชิณวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ( กช.) ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ที่มีนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการศธ. เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมรับทราบข้อมูลจำนวนนักเรียนทุนที่จบการศึกษา และอยู่ระหว่างการศึกษา ทั้งในประเทศ และต่างประเทศรุ่นที่ 3(2555-2562)  และ รุ่นที่ 4 (2556-2563)  สำเร็จการศึกษาแล้ว 230 คน แบ่งเป็นรุ่น 3 225 รุ่น 4 จำนวน 5 คน โดยมีนักเรียนที่อยู่ระหว่างการรับทุน รวม 1,006 คน แบ่งเป็นในประเทศ 448 คน ต่างประเทศ 558  คน ขณะเดียวกันที่ประชุมยังเสนอให้พิจารณากรณีนักเรียนทุน 1 คน จบการศึกษาแล้ว จะขออยู่ในประเทศที่ศึกษาต่อไม่กลับมาทำงานในประเทศไทย  ซึ่งที่ประชุมไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะเห็นว่า เป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามสัญญาการรับทุน โดยขอให้ยึดตามสัญญาเป็นหลัก  นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรายงานข้อมูล จำนวนผู้รับทุนที่จบการศึกษาแล้ว 3,093 คน พบว่า ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพภาคเอกชน 57% ส่วนที่เหลือรับราชการ และประกอบอาชีพส่วนตัว

“ทั้งนี้ที่ประชุมยังไม่ได้ฟันธงว่า จะเดินหน้าโครงการในรุ่นที่ 5 หรือไม่ โดยนพ.ธีระเกียรติ หารือที่ประชุมว่า จะกำหนดแนวทางการให้ทุนอย่างไร  มอบหมายให้คณะกรรมการโครงการฯ ไปพิจารณาข้อดี ข้อเสีย ของการให้ทุน ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งภาพรวมทุนนี้เป็นการสร้างโอกาสคน  ทุกคนเห็นด้วยกับการให้โอกาสทางการศึกษา แต่ขอให้พิจารณาว่า  การกำหนดหลักเกณฑ์ลักษณะนี้จะเป็นการสร้างโอกาสที่แท้จริงหรือไม่  โดยขอให้คณะกรรมการฯ ไปหาข้อสรุป แล้วให้นำกลับมาเสนอให้ทุนประชุมพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป  ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า การใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวในการคัดเลือกผู้รับทุนมีปัญหามาตลอด เช่น การคัดเลือกเด็กยากจนแต่เรียนดีในพื้นอำเภอต่างๆ   แต่เมื่อไม่มีเด็กในพื้นที่เข้ารับทุน ก็มีการปรับหลักเกณฑ์ทำให้คนมีฐานะและไม่ได้ด้อยโอกาสจริง ๆ ได้ทุนเรียน  ดังนั้นจึงต้องกลับมาทบทวนว่า การให้ทุนที่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริงควรมีแนวทางอย่างไร  ที่สำคัญต้องมีกระบวนการในการเตรียมความพร้อมเด็ก ไม่ใช่ให้เด็กในพื้นที่ ไปเรียนต่างประเทศทันที ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของประเทศที่ไปศึกษาได้ สุดท้ายเรียนไม่จบ ก็ต้องกลับมา ดังนั้นจึงต้องกลับมาดูว่า แนวทางใดที่จะสามารถดำเนินโครงการที่เกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง”โฆษกศธ.กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image