นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( สพฐ.)ตั้งเป้าพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคล ด้วยทักษะ 3 ด้าน คือ ทักษะทางวิชาการ ที่จะต้องสอดคล้องกับอนาคตในศตวรรษที่21 และการขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาล ทักษะอาชีพ เตรียมเด็กนักเรียนให้เข้าสู่งานอาชีพที่เหมาะสมกับความถนัดของเด็ก และ ทักษะชีวิต ซึ่งถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน เพราะเป็นการเข้าไปดูแลจิตใจให้เด็กคิดได้-ทำได้ โดยยึดหลักการทำงานเพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืนสำหรับเด็กนักเรียน โดยเริ่มโครงการนำร่อง “นักจิตวิทยาโรงเรียน” ใน 26 เขตการศึกษาทั่วประเทศไทย เพื่อนำนักจิตวิทยาเข้าไปแบ่งเบาภาระครู รวมทั้งปรับทัศนคติให้เด็กพร้อมกลับสู่ห้องเรียนในกรณีที่พบว่าเด็กอาจประสบเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงและเติมเต็มศักยภาพการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน ทั้งนี้ สพฐ. จะเป็นแกนหลักที่จะจัดให้มีนักจิตวิทยาโรงเรียนให้ครบทุกเขตพื้นที่การศึกษา ในเบื้องต้นมีนักจิตวิทยาโดยตรง จำนวน 26 เขตพื้นที่ฯ ซึ่งในระยะเร่งด่วน สพฐ. จะพัฒนาศึกษานิเทศก์ทุกเขตพื้นที่ให้เป็นนักจิตวิทยาโรงเรียน ซึ่งโครงการนักจิตวิทยาโรงเรียนถือเป็นโครงการใหญ่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“จากการลงพื้นที่เพื่อติดตามการทำงานของหน่วยงานที่มีภารกิจให้ความช่วยเหลือนักเรียนที่ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน (ฉก.ชน.) สพฐ. ดำเนินการอยู่นั้น แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ในการติดตาม ประสานงาน ช่วยเหลือนักเรียนอย่างเต็มกำลังความสามารถ หลังการทำงานทุกครั้งจะนำปัญหาที่เกิดขึ้นมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการช่วยเหลือเด็กนักเรียนให้มากที่สุด แต่หลายกรณีที่เกิดผลกระทบทางด้านสภาวะจิตใจเด็ก จึงจำเป็นต้องบูรณาการด้วยการนำความรู้ความเชี่ยวชาญของนักจิตวิทยาเข้ามาเยียวยา ด้วยการผสานทักษะและความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันในการก่อประโยชน์สูงสุดแก่ตัวเด็ก โดยศูนย์เฉพาะกิจฯ มีใจเกินร้อยที่จะให้ความช่วยเหลือเด็กให้คืนกลับสู่เส้นทางการเรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพและตั้งใจจะเป็นศูนย์ช่วยเหลือเด็กนักเรียนแบบครบวงจร”เลขาธิการกพฐ.กล่าว