นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ก.ค.ศ.ที่มี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน กลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ ตนจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาแนวทางการจัดทำร่าง หลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่งมีการปรับใหม่ เบื้องต้นจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา ปรับเนื้อหาการสอบสอบภาค ก. ความรอบรู้และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพให้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับข้อสอบภาค ก. ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) โดยตัดเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพครูออกแล้วนำไปรวมในการสอบภาค ข. ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งแทน
“ก.ค.ศ.มีแนวคิดว่าในอนาคตอาจจะมีการใช้ผลสอบภาค ก.ร่วมกับทาง ก.พ. แต่ยังไม่ใช่ข้อสรุปหากบอร์ด ก.ค.ศ.ให้ความเห็นชอบ ก็จะต้องหารือและทำความตกลงกับทาง ก.พ.ในการใช้ผลสอบร่วมกัน คือผู้ที่สอบผ่านภาค ก.ของ ก.พ.สามารถมาสมัครสอบครูได้ ขณะเดียวกันผู้ที่จบสาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แล้วสอบภาค ก.ของ ก.ค.ศ.ก็สามารถนำผลสอบไปใช้สมัครข้าราชการพลเรือนได้ด้วย ซึ่งในส่วนของ ก.ค.ศ.ตอนนี้ค่อนข้างเปิดกว้างแล้วหาก ก.พ.เห็นด้วย คิดว่าจะเป็นผลดีนอกจากประหยัดขั้นตอนแล้ว ยังทำให้ผู้ที่เรียนในสาขาทั่วไป และผู้ที่เรียนสายครูมีทางเลือกมากขึ้น” นายพินิจศักดิ์กล่าว และว่า ทั้งนี้การสอบภาค ก. เป็นการสอบความรู้พื้นฐานทั่วไปแต่การคัดเลือกครูจะเน้นหนักในการสอบภาค ข. ซึ่งจะมีในส่วนของวิชาชีพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
นายพินิจศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับหน่วยงานที่จัดสอบนั้นโดยทิศทางอยากให้เป็นหน่วยงานกลางที่ได้รับความน่าเชื่อถือ ซึ่งสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ ก.ค.ศ.มองว่าได้รับการยอมรับ แต่อาจจะต้องดูในเรื่องการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุที่เพิ่งออกใหม่ด้วย ซึ่งทำให้เราไม่สามารถเจาะจงเลือกหน่วยงานได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะดำเนินการจัดสอบครูผู้ช่วยตามหลักเกณฑ์ใหม่ครั้งแรกได้ภายในเดือนสิงหาคม เพื่อบรรจุแต่งตั้งในภาคเรียนที่ 2/2561 หรือภายในเดือนกันยายนนี้ ส่วนการบรรจุครูผู้ช่วยในภาคเรียนที่ 1 นั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ชี้แจงแล้วว่า อัตราว่างกับจำนวนที่ขึ้นบัญชีมีจำนวนใกล้เคียงกัน ดังนั้นการบรรจุแต่งตั้งในภาคเรียนที่ 1 จึงไม่มีผลกระทบ
