เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา และชัยภูมิ เพื่อตรวจสอบปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ได้รับร้องเรียนใหม่ ปัญหาทุจริตที่ได้รับร้องเรียนเดิม และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ที่ต้องลงพื้นที่ด้วยตัวเองเพราะอยากไปป้องปราม เท่าที่ดูปัญหาทุจริตเกิดในภาคอีสานจำนวนมาก และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้อำนวยการโรงเรียนภาคอีสาน 5 คน เดินทางมาพบ แจ้งว่าทนพฤติกรรมผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ไม่ไหวแล้ว เรียกเก็บเงิน 10% ทุกครั้งที่มีโครงการลงไปที่โรงเรียน เช่น โรงเรียนอยากได้งบประมาณจัดทำโครงการใด ผู้อำนวยการ สพท.คนดังกล่าวจะเรียกเงินก่อน ถ้าไม่มีก็จะไม่อนุมัติโครงการ ซึ่งโรงเรียนไม่ให้ก็ไม่ได้
พล.ท.โกศลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบปัญหาทุจริตกรณีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 32 (บุรีรัมย์) 3 ราย จัดอบรมครูโดยไม่มีการอบรมจริง ซึ่ง ศธ.ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ล่าสุดนายอัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) สรุปผลสืบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นเสนอตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรงอดีตผู้อำนวยการ สพม.เขต 32 ทั้ง 3 ราย พร้อมเจ้าหน้าที่ ปัจจุบันผู้บริหารทั้ง 3 ราย ย้ายเป็นผู้อำนวยการ สพท.ในกรุงเทพฯ 2 ราย อีก 1 รายเป็นผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ ใน จ.นครราชสีมา ทั้งนี้ หลังจากตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแล้ว สามารถใช้มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งขึ้นอยู่กับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
“การลงพื้นที่ภาคอีสานครั้งนี้ ผมต้องการไปกำราบด้วยตัวเอง เพราะมั่นใจว่าภาคอื่นๆ มีปัญหาการทุจริตน้อยลงมาก แต่ภาคอีกสานเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร หรือคิดว่ามีใครอยู่เบื้องหลังถึงไม่กลัว นอกจากนี้ ยังถือโอกาสตรวจสอบโรงเรียนที่ได้รับงบก่อสร้างหลังคาคลุมเอกนกประสงค์ ซึ่งทุจริตใน 11 จังหวัดภาคใต้ และรัฐมนตรีว่าการ ศธ.สั่งให้ขยายผลสอบสวนไปในจังหวัดอื่นๆ ด้วย” พล.ท.โกศล กล่าว
พล.ท.โกศลกล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้า การตรวจสอบโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรืออควาเรียมหอยสังข์ ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา ล่าสุดนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ.และประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานเบื้องต้นว่าได้สรุปการใช้งบดำเนินการ 835 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแก้ไขสัญญา 6 ครั้ง และการเบิกจ่ายเงินล่วงหน้า แต่ยังไม่เห็นเอกสาร และยังไม่ทราบรายละเอียดว่าพบความผิดปกติหรือไม่ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะทราบรายละเอียด หากมีมูล ผู้เกี่ยวข้องที่ยังรับราชการอยู่ ต้องใช้มาตรการของ คสช.ถ้าเป็นข้าราชการระดับ 9 ขึ้นไป อาจต้องย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
