ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า การแยกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ออกจากกระทรวงศึกษาธิ (ศธ.) โดยรวมกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) และหน่วยงานวิจัยต่างๆ มาจัดตั้งเป็นกระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัยนั้น เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ และคิดว่าประเทศต้องการมากในขณะนี้ เพราะปัจจุบันต้องการสร้างกำลังคนที่เกี่ยวข้องกับสายวิทยาศาสตร์จำนวนมาก เมื่อควบรวม วท.เข้ามา หมายความว่าระบบการศึกษาของอุดมศึกษาจะให้ความสำคัญกับการวิจัยมากขึ้น
“มีความเป็นไปได้ที่จะจัดตั้งกระทรวงใหม่ทันใน 2-3 เดือน แต่สิ่งที่อยากจะย้ำในเรื่องการจัดตั้งกระทรวงใหม่นี้ คือต้องมุ่งไปที่เป้าหมาย อย่ามุ่งถึงวิธีการ กระบวนการเพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาของระบบราชการไทย ซึ่งท้ายสุดจะวนเวียนอยู่กับเอกสาร โครงสร้างการจัดการ ท้ายสุดแล้วไปไม่ถึงเป้าหมายเสียที” ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าว
ศ.ดร.สุชัชวีร์กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีผู้เสนอให้นำการเรียนการสอนด้านอาชีวศึกษาควบรวมในกระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัยด้วยนั้น โมเดลที่ยกร่างมา เท่าที่เห็นยังไม่มีการเสนอให้เอาอาชีวะเข้าควบรวมกับการจัดตั้งกระทรวงใหม่ แต่ตนเห็นด้วย และคิดว่าเป็นข้อเสนอที่ดี
ศ.พิเศษ ดร.ภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า หากรัฐบาลจะจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัยภายใน 2-3 เดือน ตามที่ นพ.อุดมระบุว่าทำได้นั้น ขึ้นอยู่ว่าจะเริ่มทำหรือไม่ ในส่วนของการควบรวมเอา วท.และหน่วยงานวิจัยต่างๆ เข้ามาให้กระทรวงใหม่ เห็นว่าการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัย ไม่สามารถแก้ปัญหาการศึกษาได้ทั้งหมด เพราะสิ่งที่ไม่ได้พูดถึงในการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัย คือ การรวมอาชีวะเข้าไปด้วย เนื่องจากบริบทของการศึกษา ทั้งอุดมศึกษา และอาชีวะ ต่างมีเป้าหมาย และพันธกิจร่วมกัน คือต้องการผลิตกำลังคนเข้าสู่ระบบการทำงาน หรือระบบวิชาชีพ หากต้องการแก้ไขปัญหาการศึกษาของประเทศให้ประสบความสำเร็จ ต้องเอาอาชีวะเข้ามารวมอยู่ในกระทรวงใหม่ และบริหารร่วมกัน เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพทางการศึกษา
