เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บรรยากาศการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 44 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 14 (Bangkok International Book Fair 2016) ยังคงมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมงานอย่างต่อเนื่องจนแน่นเต็มพื้นที่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ สำหรับบูธสำนักพิมพ์มติชน โซนพลาซา ยังคงมีประชาชนเข้ามาซื้อหนังสือต่างๆ อย่างเนืองแน่น โดยอันดับหนังสือขายดี 5 อันดับ ได้แก่ ทางของเรา ต้องก้าวเอง, ในสาธารณรัฐไวมาร์ ฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง, The Selfish Gene-ยีนที่เห็นแก่ตัว, ยอดกุนซือทะลุมิติ 4 และไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต
ขณะที่สินค้าพรีเมียม อาทิ เสื้อ ชั้นวางหนังสือ ถุงผ้า ที่ออกแบบโดยนายรักกิจ ควรหาเวช สตรีตอาร์ติสต์กราฟิตี้ชื่อดัง ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้เยี่ยมชมบูธ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษ ลุ้นรับบัตรชมภาพยนตร์ The Man Who Knew Infinity หนังชีวประวัติของ ศรีนิวาสะ รามานุจัน อัจฉริยะคณิตศาสตร์ชาวอินเดีย ที่จะเข้าฉายในวันที่ 12 พฤษภาคม รางวัลละ 2 ที่นั่ง เมื่อซื้อหนังสือ รามานุจัน อัจฉริยะไม่รู้จบ
เวลา 13.00 น. นายสรกล อดุลยานนท์ หรือหนุ่มเมืองจันท์ ผู้เขียน “ทางของเรา ต้องก้าวเอง” ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมผู้เขียนพบปะนักอ่านที่บูธสำนักพิมพ์มติชน โดยมีประชาชนมายืนต่อแถวขอลายเซ็นและถ่ายรูปกันจนแน่นเต็มพื้นที่ และในเวลาเดียวกันที่เวทีเอเทรียม สำนักพิมพ์มติชนได้จัดกิจกรรมเสวนา เปิดตัวหนังสือ The Selfish Gene-ยีนที่เห็นแก่ตัว โดยมีนายนำชัย ชีววิวรรธน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายสื่อวิทยาศาสตร์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และนายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้แปลหนังสือดังกล่าวเป็นวิทยากร
นายเจษฎากล่าวว่า หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่สร้างความเปลี่ยนในวงการวิทยาศาสตร์อย่างมากมาย ผู้เขียนคือ ริชาร์ด ดอว์กินส์ ซึ่งเป็นนักเขียน นักวิทยาศาสตร์ที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก แต่ในระดับโลกนั้นดังมาก ทั้งนี้เป็นอย่างที่ทราบกันว่าดีเอ็นเอเป็นสารพันธุกรรม เป็นตัวกำหนดรหัสพันธุกรรม จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ส่วนตัวรู้สึกยินดีและดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสแปลหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาไทย เพราะหนังสือของเขาได้ส่งผลกระทบต่อสังคมโลกสูงมากในหลายๆ มิติ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ และวิทยาศาสตร์ หนังสือเล่มนี้จะทำให้เราสามารถตอบคำถามได้ว่าเราเกิดมาทำไม ทำอย่างไรจึงจะอยู่รอดต่อไปได้ และการอยู่รอดแบบเห็นแก่ตัวนั้นแท้จริงแล้วเต็มไปด้วยการเกื้อกูลคนอื่น และหนังสือเล่มนี้ยังมีข้อดีอย่างอื่นอีก นั่นคือเล่าเรื่องด้วยความสนุก เต็มไปด้วยการใช้เหตุผล และมีอะไรใหม่ๆ ในทุกประโยคที่เขียน
ด้านนายนำชัยกล่าวว่า ริชาร์ด ดอว์กินส์ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้มีหลายบทบาทในชีวิต หนึ่งในนั้นคือการทำสารคดีและเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้จัดทำละครโทรทัศน์หลายเรื่อง ทั้งนี้เขามีเอกลักษณ์ส่วนตัวคือไม่นิยมถกเถียงใครเวลามาวิจารณ์หนังสือ แต่จะใส่คำอธิบายกับคำถามและข้อวิจารณ์ต่างๆ เหล่านั้นลงในหนังสือเมื่อมีการตีพิมพ์ซ้ำในครั้งถัดไป กล่าวได้ว่าริชาร์ด ดอว์กินส์ เป็นคนมีจุดยืนและมีบุคลิกที่ชัดเจนในการแสดงความคิดเห็นอย่างดุดันและตรงไปตรงมา ซึ่งได้แสดงออกให้เห็นในหนังสือเล่มนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเสร็จสิ้นการเสวนาวิทยากรทั้ง 2 คนได้มาร่วมกิจกรรมพบปะผู้อ่านและแจกลายเซ็นที่โซนพลาซา บูธสำนักพิมพ์มติชน โดยมีประชาชนที่เข้าฟังเสวนาเดินตามมาที่บูธเพื่อขอลายเซ็นเป็นจำนวนมาก สำหรับหนังสือ “ยีนเห็นแก่ตัว” ได้รับความนิยมจากผู้อ่านเป็นอย่างมาก จนต้องพิมพ์ซ้ำครั้งที่ 2 ในระยะเวลาเพียงเดือนเดียว
สำหรับกิจกรรมอื่นๆ ที่บูธสำนักพิมพ์มติชนในวันนี้ ตั้งแต่เวลา 16.00-19.00 น. ยังคงมีนักเขียนสับเปลี่ยนกันเข้ามาร่วมกิจกรรมพบปะผู้อ่านอย่างต่อเนื่อง ทั้งนายภาณุ ตรัยเวช เจ้าของผลงานในสาธารณรัฐไวมาร์ ฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง, น.ส.วีรพร นิติประภา เจ้าของผลงาน ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต และ “ครูเปิ้ล” สุดารัตน์ ศรีสุรกานต์ เจ้าของผลงาน Mind Director กำกับใจให้ชนะทุกด่านของชีวิต
