เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่หอประชุมพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์พระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พร้อม นพ.มโน เลาหวณิช อดีตพระวัดพระธรรมกาย ได้เดินทางมายื่นคำฟ้องกล่าวหาสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ข้อหาล่วงละเมิดพระธรรมวินัย โดยมีนายสมชาย สุรชาตรี ผู้ตรวจราชการ พร้อมด้วยนายสมเกียรติ ธงศรี ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) และนายประดับ โพธิกาญจนวัตร รองโฆษก พศ.เป็นผู้แทนรับหนังสือ
นายไพบูลย์ เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือร้องใน 3 ประเด็น คือ 1.การกระทำของผู้ถูกกล่าวหา รับเงิน และสะสมไว้ในบัญชีธนาคาร เป็นการละเมิดพระธรรมวินัย สิกขาบทที่ 8 (ห้ามรับเงินทอง) 2.การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาในการนำเงินของตนเองที่มีอยู่ในธนาคารกรุงเทพ ไปซื้อรถยนต์โบราณยี่ห้อเมอเซเดสเบนซ์ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร เป็นการละเมิดพระธรรมวินัย สิกขาบท 9 (ห้ามทำการซื้อขายด้วยรูปิยะ) และ 3.การกระทำของผู้ถูกกล่าวหา ได้ยื่นขอจดทะเบียนรถยนต์โบราณเป็นชื่อของตน ซึ่งเป็นรถที่ผิดกฎหมาย หากผลตรวจสอบของดีเอสไอชี้มูลว่าผู้ครอบครองผิด เป็นการล่วงละเมิดพระธรรมวินัยหลายประการ
“การฟ้องกล่าวหาสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ในครั้งนี้ ผมได้แนบหลักฐานใบสั่งจ่ายเช็คเงินสด 1 ล้านบาท ระบุชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สั่งจ่ายให้กับอู่วิชาญ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยหลักฐานดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ขอให้คณะกรรมการ มส.พิจารณาเรื่องที่ผมยื่นฟ้องด้วยความระมัดระวัง เพราะผู้ที่ถูกกล่าวหาท่านเป็นถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่สำคัญขอให้ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่หาเรื่องตัดตอนก่อนจะนำไปสู่กระบวนการไต่สวน” นายไพบูลย์กล่าว
