รัฐบาลจัดงาน ‘วันเฉลิมพระเกียรติในหลวง – วันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา’ 22-28 ก.ค. พร้อม 11 ริ้วขบวน (คลิป)

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการวธ. เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในวันที่ 28 กรกฎาคม โดยมีผู้บริหารวธ. นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดวธ. ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ ที่ปรึกษาโครงการการแสดงดนดนตรีไทยเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา และนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เข้าร่วม

นายวีระ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมปีนี้ รัฐบาลมอบหมายให้ วธ.ร่วมกับหน่วยงานองค์กรภาครัฐ และเอกชน เช่น สำนักนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มหาเถรสมาคม, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ องค์กรศาสนา ภาคเอกชนและประชาชนทุกหมู่เหล่า พร้อมกันจัดกิจกรรมงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 28 กรกฎาคม ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาในประเทศไทยที่ยาวนานถึง 1,400 ปี และเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชของไทยทุกพระองค์ ตลอดจนเทิดทูนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นพุทธมามกะและทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก และทรงปกครองประเทศและดูแลพสกนิกรชาวไทยด้วยหลักทศพิธราชธรรมจึงขอให้ประชาชนมาร่วมกิจกรรมโดยพร้อมเพรียง

“กิจกรรมหลักที่จะจัดขึ้นใช้ชื่อว่า “พระบรมธาตุ พุทธศิลป์ แผ่นดินพระทรงธรรม” โดยมีริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุ พุทธศิลป์ แผ่นดินพระทรงธรรม ตั้งแต่สมัยทวารวดีถึงรัตนโกสินทร์ ประกอบด้วย 11 ริ้วขบวน ได้แก่ 1.ธรรมจักรยาตรา เป็นรถขบวนอัญเชิญธงธรรมจักร ธงฉัพพรรณรังสี และรถขบวนจำลองวงล้อธรรมจักรและกวางหมอบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา 2. เทียนพรรษาเสริมศาสน์ ขบวนจำลองแห่เทียนพรรษาสลักรูปพญานาคที่วิจิตรงดงาม เป็นประเพณีตั้งแต่โบราณกาลในวันเข้าพรรษา 3. บรมนาถทวารวดี เป็นรถขบวนจำลองโบราณสถาน และโบราณวัตถุสมัยทวารวดี เช่น วัดคูบัว จ.ราชบุรี พระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบาทศิลปะแบบทวารวดี ใบเสมาที่บอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ 4. เสริมศรีโคตรบูร เป็นรถขบวนจำลองพระธาตุพนม จ.นครพนม หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย 5. เจิดจำรูญศรีวิชัย เป็นรถขบวนจำลองเจดีย์พระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พระพุทธรูปปางมารวิชัยนาคปรก แบบศิลปะศรีวิชัย 6. ไตรภพลพบุรี เป็นรถขบวนจำลองพระปรางค์สามยอด จ.ลพบุรี และพระพุทธรูปทรงเครื่องปางนาคปรก แบบศิลปะลพบุรี” นายวีระ กล่าว

รัฐมนตรีว่าการวธ. กล่าวต่อว่า 7. ธรรมวิถีล้านนา เป็นรถขบวนจำลองพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง และประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ จ.เชียงใหม่ 8. เชิดบูชาสุโขทัย เป็นรถขบวนจำลองเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ วัดมหาธาตุ ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และประดิษฐานพระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก 9. เกษมสมัยอยุธยา เป็นรถขบวนจำลองเจดีย์พระศรีสรรเพชญ์ พระพุทธรูปทรงเครื่องวัดหน้าพระเมรุ จ.พระนครศรีอยุธยา 10.ธรรมารัตนโกสินทร์ เป็นรถขบวนจำลองพระศรีศากยะทศพลญาณจากพุทธมณฑล พระศรีรัตนเจดีย์ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ11.แผ่นดินศาสนูปถัมภก เป็นขบวนเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยริ้วขบวนจะมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสำคัญทั้งหมด 5 ยุค ได้แก่ ทวารวดี ล้านนา สุโขทัย อยุธยาและรัตนโกสินทร์ ซึ่งขบวนเฉลิมพระเกียรติฯ จะมีข้าราชการ ได้แก่ กองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ ตำรวจ ศิลปินดารา พสกนิกรและพุทธศาสนิกชน โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีปล่อยริ้วขบวน ในวันที่ 22 กรกฎาคม ถือว่างานนี้เป็นงานสำคัญในรอบปี

Advertisement

“แต่ละริ้วขบวนมีการแสดงฟ้อนรำและระบำของแต่ละยุคที่ได้รับการฟื้นฟูขึ้น โดยริ้วขบวนจะเคลื่อนจากบริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ผ่านถนนราชดำเนินไปยังท้องสนามหลวง เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแต่ละยุคไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการะบูชาและเวียนเทียนเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และชมนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุแต่ละยุค ตั้งแต่วันที่ 23-28 กรกฎาคม เวลา 08.00-20.00 น. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ดังนั้น จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมงานดังกล่าว และขอความร่วมมือแต่งกายด้วยชุดสีขาว พร้อมตั้งโต๊ะหมู่บูชาเพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ขณะที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่านจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ถึงมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ 22 กรกฎาคม เวลา 17.00 น.” นายวีระ กล่าวและว่า อีกทั้ง วธ.ได้จัดทำและเผยแพร่สารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ บทเพลงเฉลิมพระเกียรติฯ และภาพยนตร์ข่าวพระราชกรณียกิจที่สำคัญในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลและขับร้องเพลง “สดุดีจอมราชา” ในวันที่ 28 กรกฎาคม ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนวัฒนธรรม โทร 1765

ด้านนายมานัส กล่าวว่า ปีนี้นับว่าเป็นปีที่ฤกษ์ดี ยามดี มงคลดี วิถีดี เพราะวันสำคัญทางศาสนามาประจวบกับวันเฉลิมพระชนพรรษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ยากมาก กรมการศาสนาได้จัดกิจกรรมทางศาสนา ดังนี้ วันที่ 15-28 กรกฎาคม ส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระบรมธาตุเจดีย์หรือพระพุทธรูปสำคัญของแต่ละจังหวัด ส่วนกิจจกรรมวันเข้าพรรษา ในวันที่ 23 กรกฎาคม เวลา 13.30 น. มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์หล่อเทียนพรรษา 10 ต้น ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และวันที่ 25 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. มีพิธีปล่อยขบวนรถแห่เทียนพรรษา 10 ต้น ที่หล่อในวันที่ 23 กรกฎาคม นำไปถวายยังพระอารามหลวง 10 วัด ได้แก่ 1.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 2. วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม 3. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม 4. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 5. วัดบุรณศิริมาตยาราม 6. วัดบวรนิเวศวิหาร 7. วัดสุทัศนเทพวราราม 8. วัดชนะสงคราม 9. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และ 10. วัดปรินายก

“อีกทั้ง วันที่ 23-28 กรกฎาคม ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ช่วงเช้าถึงเย็นเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ และกิจกรรมธรรมะสู่คนทั้งมวลโดยปฏิบัติธรรม รักษาศีล เจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล อีกทั้งในวันที่ 23 กรกฎาคม เวลา 15.09 น. มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ ที่วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม และในวันที่ 26 กรกฎาคม เวลา 07.00 น. มีพิธีสวดมหามงคล 5 ศาสนาถวายพระพร ที่ทำเนียบรัฐบาล อีกทั้ง จัดงานอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาอาเซียนใน 16 จังหวัดตามแนวชายแดนของไทย ที่มีพื้นที่ติดกับกลุ่มประเทศอาเซียน รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม อาทิ ประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ ตอบปัญหาธรรมะ การสวดสาธิตโอ้เอ้วิหารราย การแสดงธรรม ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น” นายมานัส กล่าว

นายอนันต์ กล่าวว่า กรมศิลปากรรับมอบหมายจากรัฐบาลและ วธ. จัดกิจกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรม กรมศิลปากรจึงอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ตามจังหวัดต่างๆ ที่ได้ค้นพบมาจัดแสดงนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ และให้พี่น้องประชาชนได้เคารพบูชาโดยจัดแสดง ที่บริเวณท้องสนามหลวง กิจกรรมในวันที่ 24 กรกฎาคม มีคอนเสิร์ตชุมนุมนักร้องประสานเสียงนานาชาติ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และการแสดงเฉลิมพระเกียรติ “ใต้ร่มพระมหากรุณา มหาวชิราลงกรณ” ที่โรงละครแห่งชาติ เป็นการแสดงรำถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พัทธวิสัย” มหกรรมกลอง การละเล่นของหลวง “ระเบง”และการแสดงโขน ชุดน้อมพลีกายถวายภักดี

“กิจกรรมในวันที่ 25 กรกฎาคม มีการแสดงรำถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พัทธวิสัย” การบรรเลง-ขับร้องดนตรีสากล การแสดงบัลเล่ต์มโนราห์ การละเล่นของหลวง “โมงครุ่ม กุลาตีไม้” และการแสดงโขน ชุดศึกวิรุญจำบัง และวันที่ 26 กรกฎาคม การแสดงหุ่นละครเล็กเฉลิมพระเกียรติฯ วันที่ 28 กรกฎาคม มีการแสดงดนตรีไทยเฉลิมพระเกียรติฯ ที่เวทีกลางแจ้ง และหอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ วันที่ 25 กรกฎาคม มีกิจกรรมเสวนาวิชาการหัวข้อ “ใต้ร่มพระมหากรุณา มหาวชิราลงกรณ” ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป อีกทั้งจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน และส่วนภูมิภาค จะจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ตามจังหวัดต่างๆ เช่น จ.อุบลราชธานี อุดรธานี ชลบุรี สงขลาและเชียงใหม่ เป็นต้น” นายอนันต์ กล่าว

นายอนันต์ กล่าวต่อว่า มีกิจกรรม “จิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ” โดยจิตอาสาวัฒนธรรมร่วมทำความดีด้วยหัวใจและการทำความสะอาดโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์และศาสนสถานทั่วประเทศ และชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทั่วประเทศบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ถวายเป็นพระราชกุศล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image