‘วีระ’ ลงเรือหางยาว ชัก ‘ตะขาบ’ เปิดงาน ‘รุกข มรดกของแผ่นดิน’ สวนลิ้นจี่โบราณบางขุนเทียน(คลิป)

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 15.30 น. ที่อุโบสถวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เขตจอมทอง กรุงเทพฯ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และคณะ อาทิ นายปรารภ เหล่าวานิช เลขานุการรัฐมนตรีว่าการวธ., นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำวธ., นายชัยพล สุขเอี่ยม รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.), นายมานัส ทารัตน์ใจ อดีตอธิบดีกรมการศาสนา, นางพิมพ์รวี วัฒนวรางกูร อดีตอธิบดีสวธ. พร้อมด้วยศาสตราจารย์เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ อดีตรัฐมนตรีว่าการวธ. เข้ากราบนมัสการพระมหาโพธิวงศาจารย์ เจ้าอาวาสวัดราชโอราสารามฯ เพื่อมอบหนังสือ ‘รุกข มรดกของแผ่นดิน’ เนื่องในการจัดกิจกรรม ‘วัฒนธรรมสู่การท่องเที่ยวต้นไม้ใหญ่ รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี สวนลิ้นจี่โบราณ’ จากนั้น เดินทางด้วยเรือหางยาวไปยัง ‘ภูมิใจการ์เด้น’ สวนอนุรักษ์พันธุ์ลิ้นจี่โบราณย่านบางขุนเทียน โดยมีนางสาวพรทิพย์ เทียนทรัพย์ เจ้าของสวนและนายปกครอง พลเมือง ผู้อำนวยการเขตจอมทองให้การต้อนรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระและคณะได้ร่วมรับประทานอาหารพื้นบ้านของชาวสวนบางขุนเทียน อาทิ ปลาแนม เมี่ยง ตะลิงปลิงแช่อิ่ม และน้ำตะลิงปลิง ซึ่งนำวัตถุดิบเกือบทั้งหมดมาจากสวนดังกล่าว นอกจากนั้นยังชมภาพถ่ายเก่าของสวนลิ้นจี่ และย่าน ‘คุ้งลิ้นจี่’ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนด้วยความสนใจ อีกทั้งเยี่ยมชมภูมิปัญญาพื้นบ้าน เช่น การปลูกต้นเคราฤาษี, พะอง สำหรับปีนเก็บลิ้นจี่, การสาธิตทะดอกไม้ทอด กระเพาะปลาวัดหนัง, ข้าวเกรียบว่าวย้อนยุค และขนมเบื้องญวน เป็นต้น รวมถึงการแสดง ‘กระตั้วแทงเสือ’ โดยคณะสุพล เจริญพร ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในชุมชนฝั่งธนบุรีตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

Advertisement

ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. เข้าสู่พิธีเปิดงาน ‘วัฒนธรรมสู่การท่องเที่ยวต้นไม้ใหญ่ รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี สวนลิ้นจี่โบราณ’ อย่างเป็นทางการ

นายสองพัน สำราญชัยธรรม ประธานชุมชนสามง่าม พัฒนา กล่าวว่า นับเป็นความภูมิใจของชาวชุมชนที่กลุ่มต้นลิ้นจี่บางขุนเทียนได้รับเลือกเป็น ‘รุกข มรดกแผ่นดินปี 2560 โดยเป็นหนึ่งใน 65 ต้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา 28 กรกฎาคม พ.ศ.2560

Advertisement

“เดิมพื้นที่ตรงนี้ขึ้นอยู่กับอำเภอบางขุนเทียน ปัจจุบันคือเขตจอมทอง 50-60 ปีก่อน ปลูกลิ้นจี่เป็นหลัก มีชื่อเสียงมาก เรียกคุ้งลิ้นจี่ มีลิ้นจี่สองฝั่งคลอง ลิ้นจี่ออกผลปีละครั้งแต่ระยะ 10 กว่าปีที่ผ่านมาไม่ค่อยออกผล เพราะสภาพอากาศไม่อำนวย แต่ชาวบ้านส่วนหนึ่งยังดูแลต้นเก่าแก่กว่าร้อยปีไว้ จากการสำรวจเมื่อ พ.ศ. 2560 พบว่าคงเหลือ 500 ต้น โดยสวนภูมิใจการ์เด้นมีมากที่สุด คือ ราว 100 ต้น” นายสองพันกล่าว

น.ส.พรทิพย์ เทียนทรัพย์ เจ้าของสวนภูมิใจการ์เด้น กล่าวว่า พื้นที่สวนแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานย้อนไปถึง พ.ศ. 2424 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ลิ้นจี่บางขุนเทียนปลูกด้วยเมล็ด จึงแข็งแรง มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เมล็ดเล็ก รสหวาน ไม่มีรสฝาดเจือ ชอบอากาศหนาว เก็บผลผลิตระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายน ใช้พะองไม้ไผ่ปีนเก็บ ขายเป็นลูก ไม่ชั่งกิโล ต้นที่เก่าแก่ที่สุดสูงถึง 20 เมตร มีภูมิปัญญาชาวบ้านคือ ‘ตะขาบ’ ทำจากไม้ไผ่ สำหรับกระตุกหรือชักให้เกิดเสียงดังเพื่อไล่ค้างคาวและหนูที่มากินผลไม้

จากนั้น นายวีระ  ได้ทำการ ‘ชักตะขาบ’ เปิดป้ายผ้าสวนลิ้นจี่โบราณอย่างเป็นทางการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาสตราจารย์เกียรติคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ ได้ให้คำแนะนำแก่นายวีระในการกระตุก ‘ตะขาบ’ ให้มีเสียงดังอีกด้วย โดยในงานดังกล่าวได้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งซึ่งอยู่อาศัยในพื้นที่มานานเข้าทักทายศาสตราจารย์เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรีด้วยความดีใจ เนื่องจากจดจำได้ว่าเคยอยู่อาศัยในย่านบางขุนเทียน อาทิ นางสาวปนัดดา สุวรรณานนนท์ อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นผู้อุทิศพื้นที่สวน 8 ไร่ย่านบางขุนเทียนเดิมให้เป็นสวนสาธารณะชื่อว่า สวนสุวรรณานนท์ ซึ่งในอดีตมีต้นลิ้นจี่ในสวนดังกล่าวจำนวนมาก แต่ปัจจุบันถูกทางการตัดโค่นลงแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image