พระราชทานเพลิงศพ ‘อาจินต์ ปัญจพรรค์’ แวดวงนักเขียนร่วมอาลัย ภรรยาเผยต้นฉบับลายมือที่ไม่เคยพิมพ์มาก่อน

เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่วัดตรีทศเทพ เขตพระนคร กรุงเทพ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุเคราะห์ในการพระราชทานเพลิงศพ นายอาจินต์ ปัญจพรรค์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ โดยเมื่อเวลา 10.00 น. มีการบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานในการออกเมรุ พระสงฆ์ 10 รูปสวดพระพุทธมนต์ แสดงพระธรรมเทศนา พระสงฆ์ทั้งนั้นถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน

ต่อมา เวลา 13.30 น. โดยประมาณ พระสงฆ์บังสุกุล เชิญหีบศพเวียนเมรุ แล้วเชิญขึ้นตั้งบนจิตกาธาน จากนั้นเวลา 15.30 น. พระราชทานผ้าไตร 5 ไตร ทอดถวายพระสงฆ์บังสุกุล แล้วพระราชทานเพลิง

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในงานมีคนในแวดวงนักเขียนและสื่อมวลชนเข้าร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก อาทิ ชาติ กอบจิตติ , สุทธิชัย หยุ่น , ป.บุนนาค, นายธนิศร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง เป่าขลุ่ย  , คำสิงห์ ศรีนอก หรือลาว คำหอมศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์,อารีย์ นักดนตรี,สุชาติ สวัสดิ์ศรี โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ อ่านบทกวีไว้อาลัย และชมัยภร แสงกระจ่าง อ่านประวัติชีวิตและผลงาน

Advertisement

ภายในงานยังมีการแจกหนังสือที่ระลึกซึ่งภาพปกเป็นรูปนายอาจินต์ ฝีมือ นายช่วง มูลพินิจ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ พ.ศ.2556 สนับสนุนการพิมพ์โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม โดยมีนางแน่งน้อย ปัญจพรรค์ ภรรยา เป็นบรรณาธิการ เนื้อหาส่วนใหญ่ประกอบด้วยข้อเขียนไว้อาลัยโดยบุคคลหลากหลายแวดวง โดยเฉพาะแวดวงนักเขียนและศิลปินจำนวนมากกว่า 200 ราย รวมถึงเรื่องสั้นคัดสรรของนายอาจินต์ จำนวน 11 เรื่อง นอกจากนี้ยังมีต้นฉบับงานเขียนด้วยลายมือที่เพิ่งค้นพบ ไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อนจำนวน 2 หน้ากระดาษ สำหรับรูปประกอบ รวยรวมโดยนายวีรยศ  ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดโดยช่วยเหลืองานนายอาจินต์มาตั้งแต่อายุ 16 ปี

นางแน่งน้อย กล่าวว่า สำหรับแผนการสืบสานเจตนารมณ์ของนายอาจินต์ จะขอใช้เวลาคิดอีกสักระยะหนึ่ง เนื่องจากที่ผ่านมาอยู่ระหว่างเตรียมงานในวันนี้ ซึ่งมีการจัดพิมพ์หนังสือโดยตนเป็นบรรณาธิการด้วยตัวเอง และที่ผ่านมายอมรับว่าค่อนข้างเหนื่อยมากตั้งแต่สามีเข้ารพ.นานกว่า 3 เดือน ตั้งแต่ 5 พ.ค. 2561 กระทั่งแพทย์แจ้งให้ย้ายกลับไปรักษาตัวที่บ้าน แต่กลับติดเชื้อในช่วงเวลาเพียง 1 วัน เพราะมีการเจาะคอ เปิดหน้าท้อง ใช้เครื่องช่วยหายใจ จึงต้องกลับเข้ารพ.และตัดสินใจย้ายไปอีกรพ.หนึ่งเพื่อให้ช่วยดูแลอีก 3 เดือน อาการขึ้นๆลงๆตลอดมา กระทั่งเสียชีวิต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image