‘อนันต์’ ลงสำรวจโบราณสถานเขาคลังนอก ยันไม่ให้บ.ขุดเจาะน้ำมัน ในพื้นที่ ‘เมืองโบราณศรีเทพ’ (คลิป)
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 10 มีนาคม ที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามและสำรวจพื้นที่บริเวณกลุ่มโบราณสถานเขาคลังนอก ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญของเมืองโบราณศรีเทพ ที่ล่าสุดเพิ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ให้ขึ้นบัญชีชั่วคราวมรดกโลก(Tentative List) แต่เนื่องจากเกิดปัญหากรณี บริษัทอีโค่โอเรียนท์รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด มีโครงการเปิดหลุมขุดเจาะปิโตรเลียม STN-2 ใกล้กลุ่มโบราณสถานบริเวณนี้ ฉะนั้นจึงเตรียมประกาศขยายพื้นที่เขตโบราณสถาน (บัฟเฟอร์โซน) เพิ่มเติม โดยให้ครอบคลุมกลุ่มโบราณสถานทั้งหมด ร่วมประชุมกับทางหัวหน้าอุทยานฯและนักโบราณคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะที่นายอนันต์ เดินทางมาถึงและกำลังเข้าห้องประชุม ทางเครือข่ายวัฒนธรรมโดยเฉพาะทางสภาวัฒนธรรมอำเภอศรีเทพ นำโดยนายประจวบ เทียนนาค ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอศรีเทพ และน.ส.กัญจน์ณัฏฐ์ ภารฤทธิ์ ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลศรีเทพ รวมทั้ง นายสุพล พูลพิพัฒน์ ประธานเครือข่ายองค์กรโลกสีเขียว ได้ยื่นหนังสือคัดค้านโครงการขุดเจาะปิโตรเลียม (หลุมSTN-2) ใกล้กลุ่มโบราณสถานเขาคลังนอก ต่อนายอนันต์ โดยกลุ่มเครือข่ายทั้งหมดต่างยืนกรานให้ทางบริษัทฯ ยกเลิกหลุมขุดเจาะ STN-2 ไม่ใช่แค่ชะลอโครงการเท่านั้น โดยทางกลุ่มย้ำว่า คัดค้านมาตั้งแต่วันแรกที่บริษัทฯ ไปรับฟังความคิดเห็นที่ศาลากลางจังหวัด และขอยืนหยัดให้เลิกทำโดยเด็ดขาดไม่ใช่ยั้บยั้งหรือแค่ชะลอ ให้เลิก ไปหาสถานที่อื่น เพราะสถานที่นี้ เป็นของบรรพบุรษและอนุชนคนรุ่นหลังไม่ใช่ของบริษัท
นายอนันต์ กล่าวว่า ตนขอชี้แจงว่ากรมศิลปากรได้ทำเรื่องไปถึงบริษัทฯเรียบร้อยแล้ว และทราบว่าหลุดขุดเจาะดังกล่าว อยู่ในเขตที่ไม่สามารถขุดเจาะได้ และกรมศิลปากรมีกฎหมายต้องปฏิบัติตาม ฉะนั้นไม่ต้องห่วง เพราะตนเป็นผู้นำเสนอเมืองโบราณศรีเทพ ขึ้นบัญชีมรดกโลก ซึ่งทางกรมศิลปากร ไม่ได้ละเลย และต้องให้ทุกคนช่วยเมื่อ กรมศิลปากรกำหนดบัฟเฟอร์โซน (พื้นที่กันชน) ซึ่งเรื่องนี้จะต้องอธิบายกับชาวบ้านมากๆ
“ผมถึงบอกว่ามีคนเรียกร้องให้กรมศิลปากร ต้องขยายอย่างนั้นอย่างนึ้ อย่างกรณีกรมศิลปากรผลักดันเมืองพิมาย จ.นครราชสีมา ให้ขึ้นบัญชีมรดกโลก แต่ยังไม่ทันประกาศเขตพื้นที่โบราณสถาน ซึ่งทับที่ดินและที่อยู่อาศัยของชาวบ้านในเขตอำเภอพิมาย แค่ขีดรอบๆกำแพงเมือง ผมก็โดนฟ้องไปเป็นสิบคดี เวลาเป็นแบบนี้ก็เหมือนมองมุมกลับ เหมือนที่นายวศิน ปัญญาวุธตระกูล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ให้ข่าวเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ว่ากรมศิลปากรไม่ได้เตรียมพร้อมอะไร ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้น คุณพูดเหมือนกับต้องให้ชุมชนมากระตุ้น กรมศิลปากรถึงจะดำเนินการอะไร ซึ่งที่จริงกรมศิลปากรจะไปออกข่าวทุกวันไม่ได้ กรมศิลปากรต้องทำตามกฎหมายอยู่แล้ว และผมนี่แหละไปชี้แจงคณะกรรมการมรดกโลก ผมก็ต้องไปชี้แจงและทางคณะกรรมการก็ต้องซักถามอยู่แล้ว”นายอนันต์กล่าว
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนมาคิดในมุมกลับการที่ทางบริษัทฯ มีการทำประชาพิจารณ์ เปิดเผยข้อมูล ไม่งุบงิบ อย่างน้อยก็มีคุณธรรม ทำให้ส่วนราชการและประชาชนได้เห็นว่าจะเจาะตรงไหน และแท่นขุดเจาะจะอยู่ตรงไหน เมื่อเห็นว่าไม่เหมาะสมก็คัดค้าน ส่วนที่นายสุพลระบุบว่ากรณีของเมืองโบราณศรีเทพครั้งนี้ เห็นว่ารุนแรงเกินไปนั้น ไม่อยากให้ใช้คำว่ารุนแรง เพราะยังเป็นเพียงแผนเจาะฐานวางหลุมผลิต หากไม่เห็นด้วยก็คัดค้านไป แต่หากยังดื้อดันก็ต้องสู้กันต่อ ซึ่งทางบริษัทฯก็แถลงการณ์ว่าจะชะลอ และจะไม่ฝืนทำหากมีผู้คัดค้าน เพราะพื้นที่ที่ได้รับสัมปทานยังมีพื้นที่ที่เหมาะสำหรับเจาะฐานวางหลุมอีกมาก 200-300 เมตร
จากนั้นเวลา 14.00 น. นายอนันต์พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่มหาสถูปเจดีย์เขาคลังนอก หมู่ที่ 11 บ้านสระปรือ ต.ศรีเทพ เพื่อสำรวจพื้นที่ทับซ้อนระหว่างเขตกลุ่มโบราณสถานเขาคลังนอก และบริเวณซึ่งคาดว่าจะเป็นหลุมขุดเจาะปิโตรเลียม (STN-2) โดยมีนางสุริยา สุดสวาท หัวหน้าอุทยานฯศรีเทพ พร้อมน.ส.ธนัชญา เทียนดี นักโบราณคดีประจำอุทยานฯ นำตรวจสอบ โดยพื้นที่เขตโบราณสถานที่อยู่ใกล้หลุมขุดเจาะ อยู่บริเวณด้านทิศตะวันตกของเขาคลังนอก และมีการปักเสาเขตกรมศิลปากรแสดงแนวเขตโบราณสถานไว้ โดยนักโบราณคดีแจ้งว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีการสำรวจพบโบราณสถาน
