คุม 3 ผู้ต้องหาฆ่าเผา ‘หลวงพ่อแต’ ทำแผน-หวิดชุลมุน พระบัญชาสารภาพ ขัดผลประโยชน์ภายในสำนักสงฆ์

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 กรกฎาคม พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ รอง ผบก.พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.โซ่พิสัย พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก ปพ.บก.สส.ภ.4 พ.ต.ท.ชาติชาย วัฒนาสุข รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.ภัควัฒน์ บงแก้ว รอง ผกก.สอบสวน สภ.โซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ หัวหน้าชุดสอบสวนคดีฆาตกรรมเผาทั้งเป็น พระสมจิต ขันติธโร หรือเกิดทรัพย์ อายู 53 ปี เจ้าสำนักสงฆ์พระประเสริฐเกิดทรัพย์ บ้านโพนทอง หมู่ 3 ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย หลังก่อเหตุได้หนีไปกบดานที่ภูมิลำเนา จนถูกชุดสืบสวนคลี่คลายคดีตามไปจับกุมตัวได้ที่จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 3 คน มีอดีตพระบัญชา ศุภกิจโจ หรือจันทร์คำ อายุ 37 ปี ชาว ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ 2.นายทะนงศักดิ์ โสดแก้ว อายุ 43 ปี ชาว ต.ขุนหาญ อ.ขุนหาญ และนายสมุทร์ วันอุบล อายุ 67 ปี ชาว ต.ขุนหาญ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พร้อมรถกระบะมิตซูบิชิ สีบรอนซ์ ทะเบียน ตต 9245 กรุงเทพมหานคร พาหนะที่นำมาก่อเหตุเมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค.โดยหลังจากแยกสอบสวน ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ จึงนำมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนมารอดูโฉมหน้าคนร้ายจำนวนกว่า 300 คน

โดยจุดแรก การทำแผนเริ่มต้นที่ถนนปากคาด-โซ่พิสัย ปากทางเข้าสำนักสงฆ์ ขณะที่รถจอดข้างทางอดีตพระบัญชาได้สั่งให้นายสมุทร์ กับนายทะนงศักดิ์จอดรถรอ จากนั้นพระบัญชา และพระสี (ที่ยังจับกุมไม่ได้) เปลี่ยนชุดเสื้อผ้าเป็นฆราวาส สวมหมวกไหมพรมอำพราง เดินถือแกลลอนน้ำมันก๊าซ เดินไปที่กุฎิพระสมจิตที่นอนอยู่ จากนั้นได้ลงมือทุบกระจกบานหน้าต่างจนแตก ก่อนจะนำเอาไม้พันผ้าเหลืองชุบน้ำมันแล้วจุดไฟโยนเข้าไปภายในห้องนอน และโยนแกลลอนน้ำมันที่เหลือเข้าไปเพิ่มเติมอีก พร้อมกับชะโงกหน้าเข้าไปดูเหตุการณ์ จนทำให้ไฟไหม้ที่หมวกไหมพรมที่สวมใส่ จึงต้องรีบถอยออกมาทำให้กระจกบาดมือด้านซ้ายเลือดสาดกระเด็นติดผนังและพื้นปูน ก่อนจะเซถลาล้มไปที่กอดอกไม้สวนหย่อมใกล้กัน ขณะที่ไฟกำลังโหมลุกไหม้ที่นอนและพรหมปูพื้น จึงลุกขึ้นรีบหนีไปขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯ เก็บเอาสิ่งของที่วัดแห่งหนึ่งแล้วหลบหนีไปอยู่บ้านเกิดที่ จ.ศรีสะเกษ

ส่วนบรรยากาศในการทำแผนท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าว และให้ความสนใจในคดีนี้มารอดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก และในขณะที่กำลังจะนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ มีลูกศิษย์ลูกหาพระผู้ตายเข้าไปเพื่อจะทำร้ายผู้ต้องหา บ้างตะโกนสาปแช่งว่ามาทำกับหลวงพ่อสมจิตทำไม ซึ่งท่านเป็นคนดีรับเลี้ยงอดีตพระบัญชา เป็นลูกบุญธรรม ให้ใช้นามสกุล อีกทั้งส่งเสียให้เรียนหนังสือ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบพาขึ้นรถตู้ออกไป โดยใช้เวลาทำแผนเพียงสั้นๆ ประมาณ 10 นาที และนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไปฝากขังต่อศาลจังหวัดบึงกาฬทันที

ด้าน พล.ต.ต.ทิวา ผบก.กล่าวว่า หลังจากจับกุมผู้ต้องหามาได้ทั้งหมดให้การรับสารภาพ โดยนายทะนงศักดิ์และนายสมุทร์ อ้างว่า พระบัญชาจ้างวานให้มาขนต้นเทียนเข้าพรรษา เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท โดยไม่รู้ว่าจะมีการฆาตกรรมกันเกิดขึ้น ขณะขับรถมาถึงปากทางเข้าวัด พระบัญชาให้จอดรออยู่ข้างทาง จากนั้นพระบัญชาและพระสีถือแกลลอนน้ำมันเดินเข้าไปยังที่พักสงฆ์ดังกล่าว จึงมาทราบภายหลังว่ามีการฆาตกรรมพระด้วยกันขึ้นก็รู้สึกไม่สบายใจกับการกระทำของพระในครั้งนี้ และพระสีที่ยังจับไม่ได้จะได้ขอหมายศาลออกจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายเหมือนกัน โดยขณะนี้มีผู้ร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้ทั้งหมด 4 คน

Advertisement

พระบัญชา อ้างว่า สาเหตุที่ก่อให้เกิดการฆาตกรรมในครั้งนี้สืบเนื่องจากการขัดผลประโยชน์ภายในสำนักสงฆ์เอง ซึ่งก่อนหน้านี้หลาย10 ปี พระบัญชาและพระสีได้ป่วยและมาให้พระสมจิตรักษาจนอาการหายขาด และจำวัดอยู่ด้วยกันมานานจนได้เป็นศิษย์เอก เมื่อปี 2560 มีเรื่องบาดหมางกันในหมู่พระสงฆ์ที่อยู่ในสำนัก จนเป็นเรื่องใหญ่โต พระสมจิตจึงไล่พระบัญชาและพระสีที่ไม่เชื่อฟังออกจากสำนัก แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่ และครั้งล่าสุดพระทั้ง 2 จะนำกฐินมาลงที่วัด แต่ทางวัดได้รับกฐินแล้ว จนสร้างความไม่พอใจให้กับพระทั้ง 2 รูปและอ้างว่าพระสมจิตเสพเมถุนและยุ่งเกี่ยวกับสีกา ทั้งนี้ ที่ทำลงไปเพียงต้องการสั่งสอนพระสมจิตเท่านั้น ตำรวจจึงตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองเอาไว้ก่อน

น.ส.กิ่งเพชร โพเทพา โยมอุปฐาก กล่าวว่า พระบัญชา หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าพระมหา เป็นศิษย์เอกที่หลวงพ่อแตรักมากที่สุด ถือว่าเป็นลูกบุญธรรมเลยก็ว่าได้ ใช้นามสกุลเดียวกัน ส่วนพระสีก็เป็นน้าของพระบัญชา หลวงพ่อแตเอาตัวมารักษาหลายปีที่แล้ว ตั้งแต่ยังไม่ก่อตั้งสำนักสงฆ์แห่งนี้ เมื่อปี 2560 สำนักสงฆ์เกิดปัญหากันขึ้น พระทั้ง 2 รูปไม่ยอมเชื่อฟังหลวงพ่อแต จึงขับให้ออกจากวัดไป ซึ่งไม่คิดเลยว่าศิษย์เอกที่หลวงพ่อรัก จะกลายมาเป็นคนฆ่า

Advertisement

นางผัน พันง้าว ชาวบ้านบ้านห้วยลึกที่เคารพนับถือ และเคยมารักษาตัวกับหลวงต่อแต กล่าวว่า ตนเคยป่วย มีโอกาสมารักษาตัวกับหลวงพ่อแต ก็หายจากอาการเจ็บป่วย ที่มาวันนี้อยากมาดูหน้าตาคนที่มีจิตใจต่ำช้า ฆ่าได้แม้กระทั่งพระ โหดเหี้ยมเกินคน มีอะไรก็น่าจะพูดจากันดีๆ ไม่ต้องถึงขั้นฆ่ากันแบบนี้ อยากให้ดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด ขอให้รับโทษไปตามเวรตามกรรม

ด้านนายสงวน ปัดสูงเนิน ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่รุนแรงเกิดขึ้นมาในหมู่บ้าน สร้างความหวั่นวิตกให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก หลายคน รวมทั้งลูกศิษย์ลูกหากลัวกับอิทธิพลมืดที่มองไม่เห็น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมขบวนการคนร้ายฆ่าพระมาได้ ส่วนตัวก็ดีใจที่เจ้าหน้าที่ทำงานได้รวดเร็วเพียง 7-8 วัน ก็จับคนร้ายมาได้ทำให้ชาวบ้านอุ่นใจ

“ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงาน ส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ส่วนสำนักสงห์แห่งนี้จะเปิดต่อไป หรือจะปิดก็ขึ้นอยู่กับลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อแต ว่าจะเอายังไงซึ่งจะมีการประชุมกันอีกครั้งหนึ่ง” นายสงวนกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image