เมื่อวันที่ 25 มีนาคม นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ในฐานะโฆษก พศ. เปิดเผยว่า ตามที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาให้ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณาสั่งการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ประสานงานกับวัดทั่วราชอาณาจักรซึ่งมีศักยภาพเพียงพอ จัดตั้งโรงทาน ช่วยเหลือผู้ประสบความยากลำบากในสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 นั้น ทางพศ. ของทำความเข้าใจเรื่องการจัดตั้งโรงทาน ซึ่งเป็นศัพท์ของสงฆ์ หมายถึงการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพระระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ศูนย์นี้จะให้ความช่วยเหลือประชาชน ตั้งแต่เรื่องน้ำดื่ม มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความรู้และคำแนะนำในการดูแลตัวเอง หรือมีการทำอาหารพร้อมรับประทาน เพื่อให้ประชาชนมารับนำกลับไปกินที่บ้าน เป็นต้น โดย
นายสิปป์บวร กล่าวต่อว่า หลังจากได้รับพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช พศ. ดำเนินการส่งหนังสือ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ขอให้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ประสานงานกับวัดในพื้นที่ที่มีศักยภาพเพียงพอในการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชน และส่งหนังสือถึง เจ้าคณะจังหวัด และเจ้าคณะกรุงเทพฯ ทั้ง ธรรมยุติกนิกายและมหานิกาย ขอให้การสนับสนุนและดูแลวัดต่าง ๆ ที่มีการจัดตั้งโรงทาน ให้สามารถดำเนินการไปได้อย่างถูกสุขอนามัย รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามมาตรการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามในส่วนของงบประมาณ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการในครั้งนี้นั้น เบื้องต้น พศ.อาจพิจารณาเปลี่ยนแปลงงบปกติที่ไม่สามารถดำเนินการได้ในช่วงนี้ มาใช้สนับสนุนเรื่องดังกล่าว ส่วนจะใช้งบเท่าไรนั้น ไม่สามารถบอกได้
“ขณะนี้เรามีวัดทั่วประเทศกว่า 4 หมื่นแห่ง คาดว่าจะมีวัดที่มีศักยภาพ จัดตั้งศูนย์ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นแห่ง โดยคิดว่าแต่ละพื้นที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เนื่องจากทางพศ. เองได้จัดส่งรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไปแล้วก่อนหน้านั้น หากวัดใดมีศักยภาพและมีความพร้อม ก็สามารถดำเนินการได้ทันที”โฆษก พศ. กล่าว