ฉาววงการผ้าเหลือง!! สาวใหญ่แฉเจ้าอาวาสดัง คบหาแบบผัวเมีย ก่อนตีจาก คบสาวอื่น

ฉาววงการผ้าเหลือง!! สาวใหญ่แฉเจ้าอาวาสดัง คบหาแบบผัวเมีย ก่อนตีจาก คบสาวอื่น

วันที่ 8 มกราคม นางขวัญ(สงวนนามสกุล) สาวใหญ่อายุ 50 ปี นำหลักฐานเป็นคลิปและหลักฐานการพูดคุยผ่านโปรแกรมแชต มาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว โดยระบุว่าคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นภาพของชายใส่หมวก และตน ซึ่งทางสาวคนดังกล่าว กล่าวหาว่าชายตามภาพคือเจ้าอาวาสวัดชื่อดัง น อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ที่ตัวเองก็ยอมรับว่าพระรูปนี้ได้คบหาอยู่กับตนในเชิงชู้สาว มาเป็นเวลากว่า 2 ปี ตั้งแต่ต้นปี 62 แต่ระยะหลังเริ่มมีการตีตัวออกห่าง คุยกับผู้หญิงหลายคน และหว่านล้มตนโดยสัญญาว่าจะสึกมาอยู่กินกันแบบผัวเมีย แต่ก็ไม่ยอมทำตามข้อตกลง พร้อมให้คนมาข่มขู่ และทำร้ายตน ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งความไว้แล้ว

อีกทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัด(พศจ.) ชัยนาท ก็รับเรื่องไว้แล้ว แต่ทางเจ้าอาวาสเองยังปากแข็งไม่ยอมรับ ทั้งๆ ที่มีหลักฐานทั้งกล้องวงจรปิด ทั้งแชตไลน์ ที่ชวนออกไปเที่ยวที่ต่างๆ มีบทสนทนา การนัดแนะให้มารับกี่โมง และมีเสื้อผ้าชุดที่ใช้เปลี่ยนระหว่างไปเที่ยวที่ต่างๆๆ ด้วยกัน ทั้ง จ.สุพรรณบุรี เพชรบูรณ์ และ สุโขทัย

Advertisement

สาวคนดังกล่าว เปิดเผยเพิ่มเติมว่า แรกเริ่มความสัมพันธ์นั้น เมื่อ 2 ปีก่อนพระเริ่มมาจีบตนก่อน จากนั้นก็ชอบพอกัน นัดแนะไปเที่ยวกัน ที่คบตอนนั้นก็เพราะเหงา จนกลายมาเป็นความรัก ทั้งๆ ที่รู้สึกว่าผิดแต่ด้วยความรักจึงจำฝืนทนอีกทั้งมีความหวังจากคำสัญญาว่าจะสึกมาใช้ชีวิตคู่ แต่มาวันนี้ตนถูกหักหลังจึงอยากคืนความถูกต้องให้กับวงการพระศาสนา แม้รู้ว่าจะต้องถุกประณาม จนมาถึงตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว เพราะมีการส่งคนให้มาทำร้าย มาข่มขู่ ตนเคยแจกใบปลิว แฉพฤติกรรมมาแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครสนใจ ตนจึงอยากให้พระรูปนี้ พ้นผ้าเหลือง มาใช้ชีวิตปกติ ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นเหยื่อซ้ำสองเหมือนตนอีก ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ล่าสุดพระครูเกษมชัยสิทธิ์ เจ้าคณะตำบลวัดสิงห์ – มะขามเฒ่า พร้อมด้วยนางจิรประภา เอี่ยวเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดชัยนาท ได้ไปยังวัดเกิดเหตุ พร้อมชาวบ้าน 2 กลุ่ม รวมกว่า 40 คน เพื่อหาข้อเท็จจริงและแนวทางยุติข้อพิพาท ซึ่งเมื่อมวลชนทั้ง 2 ฝ่ายคือฝ่ายศรัทธาเจ้าอาวาสฯ และฝ่ายที่ไม่พอใจเรื่องเสื่อมเสียของเจ้าอาวาสฯ มาเจอกันก็มีการปะทะคารม เสียดสีกันไปมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัดสิงห์ จึงต้องเข้าระงับเหตุห้ามปรามทั้ง 2 ฝ่าย

Advertisement

แต่จนแล้วจนเล่าไม่ว่าเจ้าหน้าที่และเจ้าคณะอำเภอให้คนไปตามเจ้าอาวาสถึง 2 รอบ ก็ไม่มีการตอบรับหรือเปิดประตูกุฏิออกมาพูดคุย แต่พระในวัดยืนยันว่าอยู่ในกุฏิอย่างแน่นอน คณะสงฆ์จึงลงมติกันว่า จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยสงฆ์ขึ้น โดยมีเจ้าคณะอำเภอและพระชั้นผู้ใหญ่ร่วมไต่สวน และตัดสิน โดยจะเร่งหาข้อยุติให้ได้ภายใน 7 วัน ซึ่งชาวบ้านเองยอมรับฟังทั้ง 2 กลุ่มและแยกย้ายกันกลับบ้านไปในที่สุด

ขณะที่ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับพระลูกวัดหลายรูป ซึ่งทุกรูปปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ แต่ก็ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีมูล และเป็นปัญหาคาราคาซังกันมานาน แต่พระลูกวัดไม่อยากยุ่ง เพราะถือว่ามาบวชและก็อยากตัดทางโลก ไม่อยากมีปัญหากับใคร โดยเฉพาะเจ้าอาวาสที่ถือว่าเป็นพระผู้ปกครองซึ่งจะทำให้เดือดร้อนได้

โดยกลุ่มชาวบ้านที่ศรัทธาเจ้าอาวาสฯ เผยว่า ขอให้การสอบสวนพิจารณาโทษมีขั้นมีตอน เหมือนขึ้นศาล ต้องมีการไต่สวนก่อน อยู่ๆ จะมาลุกฮือ จับสึกเลยอย่างเดียวชาวบ้านที่เคารพศรัทธาก็ยอมไม่ได้ จึงต้องการให้คนที่มีอำนาจติดตามหลักฐานพยาน จึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

ด้านชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วย ก็บอกว่า จากหลักฐานทั้งหมดที่ปรากฎ ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการจับสึก เพราะเห็นอยู่ชัดเจนว่าประพฤติผิดร้ายแรง จะมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ตนเองได้อย่างไร จึงอยากให้มีการสอบสวนและตัดสินอย่างเป็นธรรม เพราะดูหลักฐาน ขนาดคนที่ไม่รู้เรื่อง ก็ยังตัดสินได้ว่า ควรทำอย่างไร อีกอย่างถ้าไม่ผิดแล้วทำไม วันนี้ต้องให้คนไปเรียกถึง 2 ครั้ง ไม่ลงมาพูดมาคุยกันให้รู้เรื่อง และหากผลการสอบสวนและตัดสินไม่เป็นกลาง หรือมีการปกป้องพวกพ้อง พวกตนก็พร้อมที่จะไปกดดันที่วัดอีกอย่างแน่นอน หากยังมีการเล่นพรรคเล่นพวกก็จะร้องเรียนไปถึง พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีให้ช่วยสั่งการสะสางเหลือบไรพระศาสนาต่อไปด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image