ครูเตรียมอุดมฯ พุ่งชม ‘โกลเด้นบอย’ เก็บข้อมูลสอนนร. หวังเข้าใจรากเหง้าปวศ.

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม สืบเนื่องกรณี รัฐบาล โดย กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) รับมอบมอบโบราณวัตถุ จำนวน 2 รายการ ได้แก่ 1. ประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ (The Standing Shiva) หรือ Golden Boy และ 2.ประติมากรรมรูปสตรีพนมมือ (The Kneeling Female) จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน หรือ เดอะ เมท (The Metropolitan Museum of Art หรือ The MET) นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กลับคืนสู่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด กรมศิลปากร ได้เชิญชวนประชาชน ชมความงามของ ‘โกลเด้นบอย’ และประติมากรรมสตรีพนมมือ ได้ที่ห้องศิลปะลพบุรี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม เป็นต้นไป

สำหรับบรรยากาศ การเข้าชมวันแรกหลังจากนำประติมากรรมทั้ง 2 รายการเคลื่อนย้ายจากพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ไปจัดแสดง ที่ ชั้น 2 ห้องศิลปะลพบุรี อาคารมหาสุรสิงหนาท มีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางเข้ามารับชมประติมากรรมทั้ง 2 อย่างหนาแน่นตลอดทั้งวัน โดย ประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ (The Standing Shiva) หรือ Golden Boy จัดแสดงอยู่บริเวณกลางห้อง และ ประติมากรรมรูปสตรีพนมมือ (The Kneeling Female) จัดแสดงอยู่บริเวณขวามือของห้อง ซึ่งทั้ง 2 ประติมากรรมได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากและบางส่วนได้ถ่ายรูปคู่กับประติมากรรมทั้ง 2 หลังจากที่ทางกรมศิลปากรอนุญาตให้สามารถเก็บภาพได้

Advertisement

นายจิรายุ เอื้อจารุพร ข้าราชการครู โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า สมุทรปราการ หนึ่งในผู้เข้าชม ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้ทราบข่าวการนำโกลเด้นบอยกลับสู่ประเทศไทยจากไลฟ์สตรีมเพจเฟซบุ๊กของกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ประติมากรรมชิ้นนี้ กลับคืนสู่ประเทศไทย ตนจึงมารับชมตั้งแต่วันแรกเพราะอยากเห็นในสิ่งที่เราเคยมี เดิมมันเป็นอย่างไร และนำไปประกอบกับการเรียนการสอนที่จะใช้กับเด็กนักเรียนเกี่ยวกับศิลปะลพบุรี

“พอได้มารับชมรู้สึกภูมิใจและดีใจที่ศิลปะของประเทศไดักลับมาสู่มาตุภูมิของเรา เป็นสิ่งที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และเป็น 1 ในชิ้นที่ยังครบถ้วนสมบูรณ์อย่างมาก โดยหากมีชิ้นอื่นๆ ที่มีการตรวจสอบแล้วว่าเป็นของประเทศไทยและทางเจ้าของเดิมอยากจะส่งคืนให้ มองว่าจะเป็นผลดีอย่างมากต่อการศึกษา เพราะเราจะสามารถศึกษาได้ว่าประเทศของเรามีรากฐานมาจากอะไร และเราจะสามารถทำอะไรได้บ้างในอนาคต และสิ่งนี้เป็นจุดขายของประเทศมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเชิงของการท่องเที่ยว เชิงของประวัติศาสตร์เองก็ตาม” นายจิรายุกล่าว

 

Advertisement

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image