“โพธิคยาวิชชาลัย” สักการะพระเจดีย์พุทธคยา น้อมรำลึกพระพุทธองค์ สัญลักษณ์การหยั่งรากพุทธในไทย

สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 จัดกิจกรรมสักการะพระธาตุและวัดสำคัญในจังหวัดภาคเหนือ เป็นวันที่สาม อาทิ วัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี, วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดพระพุทธชินราช), วัดพระศรีโคมคำ จ.พะเยา, วัดพระแก้ว จ.เชียงราย, และวัดพระธาตุสายเมือง, พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่, พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุพญาภู จ.น่าน, พระธาตุจอมกิตติ พระธาตุผาเงา จ.เชียงราย, พระธาตุดอยตุง จ.เชียงราย, พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง และพระมหาเจดีย์ชเวดากอง(องค์จำลอง) อ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา

โดยมีพระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล, พระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา, พระเมธีวรญาณ (ท่านเจ้าคุณสายเพชร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ (ท่าพระจันทร์ กทม.) นายวินัย วีระภุชงค์ ประธานมูลนิธิวีระภุชงค์ และนวลละออ วีระภุชงค์ พร้อมครอบครัว นายชัช ชลวร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานชมรมโพธิคยาฯ นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานชมรม นายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบัน นายเกษม มูลจันทร์ รองเลขาธิการสถาบันร่วมกิจกรรม นอกจากนี้มีผู้ร่วมคณะ อาทิ พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ รอง ผบ.ทสส. และ พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ ประธานสมาคมมิตรภาพไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะเดินทางสักการะพระพุทธเจดีย์พุทธคยา(จำลอง) ที่วัดจองคำ พระอารามหลวง เป็นสถานที่แรก สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นด้วยประสงค์ที่จะทดแทนบุญคุณแผ่นดินไทย บุญคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และเพื่อเป็นการประกาศว่าพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านปริยัติหรือปฏิบัติ ยังคงเจริญรุ่งเรืองสืบมา รวมทั้งพุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศก็จะได้มีโอกาสมาสักการะบูชาพระมหาเจดีย์ สถานที่ที่พระพุทธองค์ตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณ รำลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าที่จะต้องเดินทางไปถึงประเทศอินเดีย

Advertisement

จากคณะนั้นเดินทางต่อไปยังวัดพระเจ้าตนหลวง วัดศรีโคมคำ (พระอารามหลวง) ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ศิลปะเชียงแสนตอนปลาย เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนองค์ใหญ่ที่สุดในล้านนาไทย สร้างขึ้นในรัชสมัยของพญายอดเชียงราย มีขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 16 เมตร สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ.2034-2067

พล.อ.ยศนันท์กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาร่วมกิจกรรมนี้ทำให้ได้รู้ถึงสภาวะแวดล้อมในพื้นที่ว่าพุทธศาสนิกชนที่มีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ยังมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง พุทธศาสนิกชนได้รับการสั่งสอนจากพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบในแต่ละพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เป็นการหยั่งรากลึกของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ก็ทำให้เราได้อิ่มเอมบุญไปด้วย

กิจกรรมครั้งนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับโครงการที่ทางชมรมโพธิคยาฯจะดำเนินการโครงการในครั้งต่อไป

////////////////

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image