เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเชิญ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หารือว่า ได้พูดคุยถึงความคืบหน้าการดำเนินการสอบเรื่องทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุนของ พศ.ในระยะที่ 1-3 ส่วนระยะที่ 4 ยังไม่มีการพูดคุยกัน โดยหลักการและนโยบายได้ให้กองบังคับการป้องกันและปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.ตร.) และคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการไปตามหลักฐานและอำนาจที่มีในส่วนของ พศ. จะทำหน้าที่ตรวจสอบข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเพิ่มเติม นอกจากนั้นได้กำชับเรื่องการใช้งบประมาณปี 2561 เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ ซึ่งเป็นไปด้วยดี มีเจ้าหน้าที่ดูแลในสามส่วน ทั้งงบการอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด งบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และงบอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา-แผนกธรรม-แผนกบาลี แต่หากมีความจำเป็นหรือพบจุดอ่อน หรือหากผลสอบสวนออกมาแล้วพบว่ามีข้อเสนอแนะอื่นๆ ก็จะให้ตำรวจและสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พิจารณาต่อไป เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างรัดกุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องให้วัดที่ได้รับการพิจารณาเข้ามาร่วมฟังถึงหลักเกณฑ์การใช้จ่ายงบประมาณหรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ได้พูดคุยกับพศ.ให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ พศ.จังหวัด ที่ต้องทำงานร่วมกับเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ และพระสังฆาธิการระดับบน หรือเจ้าคณะภาค เจ้าคณะหน โดยสิ่งที่จำเป็นตอนนี้คือ ทาง พศ.จังหวัดจะต้องพิจารณาเรื่องการใช้งบประมาณและเงินอุดหนุนที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และทำงานร่วมกันเจ้าคณะจังหวัด-อำเภอ และเจ้าอาวาสที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกอย่างถูกต้อง ซึ่ง พศ.มีการประชุมระดับผู้บริหารและจังหวัดอยู่แล้ว ดังนั้น เรื่องการจ่ายงบประมาณมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนเรื่องคดีและการสอบสวน ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่สอบสวนดำเนินการ ส่วน พศ.มีหน้าที่ประสานอำนวยความสะดวกในการสนับสนุนข้อมูลและพยานต่างๆ เพิ่มเติม
เมื่อถามว่า ผอ.พศ.รายงานถึงวาระการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ในวันนี้จะมีการหยิบยกเรื่องการถอดสมณศักดิ์พระผู้ใหญ่ซึ่งถูกดำเนินคดี รวมถึงถอดออกจากตำแหน่งกรรมการ มส.ด้วยหรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องการประชุมของ มส.แต่อย่างใด ต่อข้อถามกรณีที่ลูกศิษย์ของนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ ไม่เห็นด้วยกับการจับกุม และจะเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ นายสุวพันธ์ุกล่าวเพียงว่า “ไม่เป็นไร”
