ผู้การ ตร.แจง สื่ออย่าคิดเอง ออกหมายจับคนช่วยเจ้าคุณจำนงค์ ต้องรอ ผบ.ตร.สั่ง

พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีเงินทอนวัด หลัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการระดมกำลังกองปราบ และตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ จ.นครพนม เพื่อติดตามจับกุมตัวอดีตพระพรหมเมธี หรือเจ้าคุณจำนงค์ เอี่ยมอินทรา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ กทม. หนึ่งในผู้ต้องหาความผิดเกี่ยวกับคดีเงินทอนวัดที่หลบหนีมาในพื้นที่ จ.นครพนม ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน โดยมีการทิ้งหลักฐานเป็นรถตู้ พบรถตู้โตโยต้า อัลฟาร์ด สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 3 กภ 8672 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าคุณจำนงค์ใช้ในการเดินทางหลบหนีมาจาก กทม. นำจอดทิ้งไว้ใกล้กุฏิเจ้าอาวาสวัดป่าสุคนธรักษ์ บ้านค่ายเสรี ต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม หลังการหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดมาตรวจสอบและสืบสวนหาเบาะแสจนกระทั่งล่าสุดมีการประสานงานจับกุมตัวได้หลังหนีไปประเทศเยอรมนี

โดยกุญแจสำคัญที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวเจ้าคุณจำนงค์ได้ คือ สีกาคนสนิท 1 คน ที่ให้การดูแลช่วยเหลือ ซึ่งตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวย เป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง นอกจากนี้ยังมีสามีไปประกอบธุรกิจทำเหมืองแร่ใน สปป.ลาว ทำให้รู้ช่องทางในการเลี่ยงการจับกุม และสามารถพาหนีออกนอกประเทศได้ง่าย รวมถึงมีลูกศิษย์คนสนิทอีก 1 คน รวมถึงชาวลาวอีก 3 คน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า สีกาคนสนิท รวมถึงลูกศิษย์อีกคนอยู่ในการควบคุมของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ยังไม่มีการดำเนินคดี หรือออกหมายจับ ซึ่งทางตำรวจกำลังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน

ทั้งนี้ ทางด้าน พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยข้อมูลว่า เกี่ยวกับคดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำกับดูแลควบคุมการทำงานด้วยตัวเอง ตั้งแต่การสืบสวนจับกุม ในส่วนของตำรวจนครพนมเป็นเพียงผู้ปฏิบัติงาน และไม่สามารถจะตัดสินใจในการดำเนินการตามกฎหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลหรือการออกหมายจับใครก็ตาม ทั้งนี้ต้องรอคำสั่งจากทาง ผบ.ตร. เพราะเป็นคดีสำคัญ ต้องมีหลายขั้นตอน อยากชี้แจงสื่อ หรือการนำเสนอข้อมูลอย่าคิดเอง เกรงว่าจะเกิดความสับสน รวมถึงกระทบต่อการทำงานของตำรวจ ล่าสุดยังไม่มีการออกหมายจับบุคคลเกี่ยวข้อง ยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน ตามคำสั่งของ ผบ.ตร.หากมีความชัดเจน หรือมีข้อมูลที่เปิดเผยได้ ทางผู้บังคับบัญชาจะมีการเปิดเผยให้ข้อมูลตามขั้นตอนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image