ที่มา | สกู้ปข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์มติชน 23 กุมภาพันธ์ 2562 |
---|
คาดหมายคูหาแตก
โหวตเตอร์ตื่น
24 มี.ค.62 ระทึก
1 ใน 7 เสือ กกต. ธวัชชัย เทอดเผ่าไทย คาดการณ์ว่า จะมีคนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง 80%
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งปีนี้ 51.4 ล้านคน ถ้า 80% ก็ 41.2 ล้านคน
โหวตเตอร์ หรือผู้มีสิทธิออกเสียง ที่ปกติไม่ออกมาใช้สิทธิเหล่านี้ สมัยก่อนจะเรียก พลังเงียบ
ที่ผ่านๆ มา ยามเกิดวิกฤต อยากให้ประชาชนตัดสิน ก็มักพยายามปลุก พลังเงียบ ออกมาใช้สิทธิ แต่ส่วนมากก็จะ เงียบ สมชื่อ
กล่าวคือ นั่งกุมคะแนนเงียบอยู่ที่บ้าน งวดนี้ถ้าออกมาจริงตามตัวเลข ก็ต้องใช้คำว่า ถล่มทลาย
คะแนนเทให้ใครจะกลายเป็นน้ำหนักสำคัญ มีนัยยะที่จะไปบิดเบือนบิดเบี้ยวไม่ได้
จับกระแสตอนนี้ จะพบว่า ปรากฏการณ์ต่างๆ สนับสนุนแนวโน้มที่คนจะออกมาเลือกตั้งกันมากๆ ทั้งสิ้น
อย่างคนที่มาลงทะเบียนใช้สิทธิล่วงหน้า เกิน 2.6 ล้านคนแล้ว ขอใช้สิทธิเลือกตั้งในต่างประเทศอีก 1.2 แสนคน
ก่อนหน้านี้ ในช่วงสมัครรับเลือกตั้ง 4-8 ก.พ. ยอดผู้สมัครทะลุหมื่นคน ทุบสถิติเดิมๆ ทั้งปี 2550 หรือปี 2554 กระจุยกระจาย
แต่ยอดผู้สมัคร อาจจะเป็นเพราะกติกา ระบบบัตรใบเดียว ให้โอกาสพรรคเล็กและพรรคขนาดกลางได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ขณะที่พรรคใหญ่จะได้ ส.ส.เขต ทำให้เกิดการตั้งพรรคมาเก็บคะแนน รวมๆ 7-8 หมื่น ก็ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1 คน
มาถึงผู้ใช้สิทธิ ถ้า กกต.คาดการณ์ระดับ 80% ถือว่าไม่ธรรมดา คำถามสำคัญคือ แล้วผู้มีสิทธิออกเสียงที่จะหลั่งไหลกันออกมาจะเทคะแนนให้ใครกัน
ในสนามเลือกตั้งตอนนี้ แบ่งคร่าวๆ เป็นพรรคหนุนลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกฯต่อไป กับพรรคที่ไม่เอาลุงตู่
ส่วนใครจะไปจัดแยกเป็นพรรคเอาทหาร – ไม่เอาทหาร ก็ว่ากันไป
คะแนนจะไปที่ขั้วไหนยังไง เชื่อว่า คงเป็นประเด็นฮอตอยู่ตามสภากาแฟทั่วประเทศ
ถ้าประชาชนที่หลั่งไหลกันออกมาใช้สิทธิ เทคะแนนให้กับบรรดาพรรคหนุน ลุงตู่ มีคะแนนขาดลอย โดยเฉพาะถ้าพรรคพลังประชารัฐเข้าป้ายเป็นที่ 1 ก็เป็นอันว่า เกมโอเวอร์ คสช.สบายตัวไป
ความหวาดหวั่นเรื่อง เสียของ ที่หลอกหลอนมานาน จะสลายหายไป
ส.ว.ที่เตรียมไว้ในกระเป๋าตุงๆ อุ่นๆ แล้ว 250 เสียง ซ้อมลงคะแนนหนุนลุงตู่ในที่ประชุม
รัฐสภาไว้แล้ว เป็นอันว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่ หลับๆ ตื่นๆ ไปแบบชิล..ชิล
เสถียรภาพของรัฐบาลจะปึ้กมาก เพราะการได้เสียงในสภาล่าง จำนวนมาก หรือขาดลอย ย่อมหมายถึง ความชอบธรรม ซึ่งไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ
งานประจำวันในสภา จะเป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่ใช่ว่าเจอสารวัตรเหลิม
หรือดาวสภาของอีกขั้วตั้งกระทู้ ยื่นญัตติ แค่ดอกสองดอก จะเกิดอาการระส่ำระสายไปไม่เป็น
หรือในอีกมุมหนึ่ง ถ้าคะแนนของบรรดา พลังเงียบ ไปเทให้พรรคขั้วตรงข้ามกับรัฐบาล นี่ก็จะเป็นเรื่องใหญ่
หากสถานการณ์กลายเป็นหนังคนละม้วนกับที่คาดการณ์ และออกแบบไว้ การเมืองก็จะมีโฉมหน้าไปอีกแบบ
แผนงานของรัฐบาล คสช.ที่เตรียมไปต่อ จะยากขึ้น
250 ส.ว.ที่เตรียมไว้ ต้องโด๊ปพลัง เตรียมพร้อมสถานเดียว
สุดท้ายแม้จะไปต่อตามแผนงานได้ แต่อายุการทำงานอาจไม่ยืดยาว อยู่ไปสักพักอาจสะดุด ต้องเลือกตั้งกันใหม่
เป็นสภาพที่ไม่ค่อยเป็นผลดีกับประเทศเท่าไหร่นัก
ทุกฝ่ายต้องเตรียมหารือกันแล้วว่า หากผลเลือกตั้งออกมาในแบบหลัง จะขับเคลื่อนประเทศไทยไปในแบบไหน
นี่ยังไม่นับปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น อย่างเช่น การยุบพรรคการเมือง ที่ตอนนี้ เริ่มพูดกันมากว่า พรรครุ่นใหม่ที่คะแนนมาแรง อาจไปเจอแจ๊กพ็อตหลังเลือกตั้ง ที่จะเพิ่มความยุ่งยากสับสนในสังคม ฯลฯ
แม้ทุกอย่างดีไซน์ไว้หมดแล้ว แต่เหนือ ดีไซน์ ยังมีเสียงประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียง