‘อุทัยธานี’ เผยกรณีสวมบัตรเลือกตั้ง ผู้ก่อเหตุเป็นคนงานตัดอ้อย เบื้องต้นยังต้องสอบสวน (คลิป)

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ได้มีการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งพื้นที่ จ.อุทัยธานี มีเหตุการณ์พบประชาชนรายหนึ่งลักลอบสวมบัตรประชาชนของผู้อื่นเข้ามาใช้สิทธิในการเลือกตั้ง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 13.20 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไร่ ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการประจำที่เลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง ประจำหน่วยเลือกตั้ง อบต.หูช้าง ว่าได้มีการควบคุมตัวชายรายหนึ่ง ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุบิน สมหอม อายุ 35 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 43 หมู่ 4 ต.หนองฮะ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ได้นำบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่น ซึ่งเป็นของนายประยูร ขันติวงศ์ (เสื้อแดง) อายุ 54 ปี เลขที่ตามบัตรฯ 34 หมู่ 5 ต.กุดหวาย อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ มาใช้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง จึงได้ทำการควบคุมตัวนายสุบินไว้ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับตัวนายสุบิน พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไร่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้ซึ่งรู้อยู่แล้วว่า ตนเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง หรือไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งนั้น พยายามออกเสียงลงคะแนนหรือออกเสียงลงคะแนนโดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือหลักฐานอื่นที่มิได้มีไว้สำหรับตนหรือปลอมแปลงขึ้นต่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเพื่อออกเสียงลงคะแนนนำบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่นไปใช้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของบัตร

ด้านนายพิทักษ์ คำอุ่น ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดอุทัยธานี เปิดเผยว่า มีคนมานำบัตรประชาชนของคนอื่นมาลงคะแนน ซึ่งทราบชื่อภายหลังคือ นายสุบิน ซึ่งได้นำบัตรประจำตัวประชาชนของนายประยูร ซึ่งทั้ง 2 คนนั้นเป็นคน จ.สุรินทร์ และได้เดินทางมารับจ้างตัดอ้อยอยู่ อ.บ้านไร่ ซึ่งวันเกิดเหตุจากการได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นว่า นายประยูร เจ้าของบัตรนั้น ทำงานอยู่ แต่ว่านายสุบิน คนที่นำบัตรมาใช้นั้น อยู่ในช่วงพักงานและได้ไปขอยืมหรือไปนำบัตรของนายประยูรมา แต่ไม่ทราบว่านายสุบินนั้น ได้นำบัตรประจำตัวประชาชนของตนมาใช้ทำอะไร จนถึงเวลาที่นายประยูรได้เดินทางมาทำการใช้สิทธิเลือกตั้งโดยนำบัตรประชาชนของตัวเองมายื่นต่อกรรมการประจำที่เลือกตั้งกลาง โดยกรรมการได้ตรวจสอบรายชื่อแล้วพบว่า ได้มีการใช้สิทธิลงไปแล้วจึงทราบว่ามีการลงคะแนนแทน ซึ่งในช่วงเวลานั้นนายสุบินก็ได้อยู่ที่บริเวณแห่งนั้นด้วยเช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมและส่งไปยัง สภ.บ้านไร่ ดำเนินคดีในฐานความผิดดังกล่าว

“ซึ่งข้อต่างที่ทำให้เกิดเหตุนั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 อย่าง คือ 1.ภาพในบัตรประจำตัวประชาชนส่วนใหญ่และจะมีภาพที่ดูอ่อนกว่าตัวจริง ประกอบกับทั้ง 2 รายนั้นมีหน้าตาที่ละม้ายคล้ายกันมาก และ 2.ช่วงเวลาที่มาใช้สิทธิในการเลือกตั้งนั้น ทั้งสองคนมาในชุดทำงานตัดอ้อยซึ่งค่อนข้างเนื้อตัวเปื้อนจึงทำให้สังเกตได้ยาก และส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมนั้น อยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.บ้านไร่ ซึ่งหากดูในตัวของบทลงโทษแล้วนั้นก็จะมีบทลงโทษสูง จำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และสามารถให้ศาลเพิกถอนสิทธิในการเลือกตั้งไปด้วย 20 ปี และจากกรณีที่เกิดขึ้นใน จ.อุทัยธานีนั้น วันนี้ กกต.อุทัยธานี จะเริ่มมีการอบรมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่จะปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ โดยได้ให้ผู้เกี่ยวข้องได้กำชับกรณีให้มีการตรวจสอบบัตรเลือกตั้งของผู้ที่จะมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มีความรอบคอบมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ปกติโดยส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่นั้นซึ่งจะทราบดีว่าเวลาผู้มีสิทธิถือบัตรมา จะทราบในเบื้องต้นแล้วว่าเป็นคนในหมู่บ้านใช่หรือไม่ ซึ่งจะรู้ง่ายกว่าที่นอกเขต” นายพิทักษ์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image