| ที่มา | สกู๊ปหน้า 1 มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ปี่กลองการเมืองเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ หลังเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะชิงชัยกันในวันที่ 24 มีนาคมนี้ แต่ละพรรคไม่ว่าจะพรรคเล็ก พรรคใหญ่ พรรคใหม่ พรรคเก่า งัดสารพัดกลยุทธ์ขึ้นมาหาเสียง โชว์นโยบายสื่อสารไปยังประชาชนและผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 50 ล้านคนทั่วประเทศ เพื่อหวังแปรเป็นคะแนนเสียง มาเป็นจำนวนเก้าอี้ ส.ส. ในยุคไทยแลนด์ 4.0
เริ่มจากวิวาทะเดือด ระหว่างประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งและแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่่อไทย (พท.) อย่าง “คุณหญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ออกมาโชว์นโยบายของพรรค ล่าสุดว่าจะเสนอตัดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม 10% หรือประมาณ 2 หมื่นล้านบาทต่อปี เพื่อมาจัดตั้งกองทุนสร้างเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ หรือสร้างเถ้าแก่ใหม่
นำมาซึ่งการตอบโต้ของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แบบสั้นกระชับได้ใจความแฝงไปด้วยความดุเดือดว่า “ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน” ดูก็แล้วกัน
ตามมาด้วยการสั่งเปิดเพลงวันละ 3 เวลา
การหาเสียงกับคนรุ่นใหม่ อายุ 18 ปี ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งครั้งแรกกว่า 6 ล้านคน ก็มีการออกตัวแรง ด้วยวิธีต่างๆ นานา
อย่างในรายคุณหญิงสุดารัตน์ ก็เรียกเรตติ้งวัยรุ่น ด้วยการควงลูกสาว “จินนี่” น.ส.ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ ลงพื้นที่ย่านประตูน้ำ และสยามสแควร์ จนมีกระแสติดแฮชแท็กในโลกออนไลน์ อย่าง ทวิตเตอร์ เช่น #แม่ยายแห่งชาติ รวมทั้งมี “โอตะจินนี่” เข้ามาติดตามความเคลื่อนไหวของคุณหญิงสุดารัตน์ และ “จินนี่” ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ กันเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อีกหนึ่งแคนดิเดตนายกฯ ของ พท.ที่ตระเวนเดินสายหาเสียงพร้อมภาพลักษณ์ “อดีตรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งในปฐพี” ที่มักจะโชว์ภาพเบ่งกล้าม เพื่อตอกย้ำความแข็งแรงผ่านสื่อมวลชนที่ติดตามไปทำข่าวหาเสียงอยู่เสมอ จนกลายเป็นกระแสแฮชแท็กในทวิตเตอร์ว่า #แคนดิเดตนายกฯที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
ส่วนพรรคใหม่อย่าง “พรรคอนาคตใหม่ (อนค.)” ที่มี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯของ อนค. ที่เปิดตัวพรรคมาได้ไม่นาน ก็มีกระแสติดท็อปชาร์ตในโลกออนไลน์ ในทุกช่องทางทั้ง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม โดยมีวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ เข้าไปคอมเมนต์ กดไลค์ กดติดตามกันเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะ “#ฟ้ารักพ่อ” ที่เป็นควันหลงจากงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 73 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลายเป็นกระแสที่ส่งต่อและวิพากษ์ วิจารณ์กันกระหึ่มในโลกออนไลน์
หลัง “ธนาธร” นำทีมสมาชิกพรรค อาทิ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค เดินทางไปร่วมงาน มีคนจำนวนมากเข้ามาทักทาย และขอถ่ายรูป โดยเฉพาะนิสิต นักศึกษาหลายคนชื่นชมในตัวนักการเมืองหนุ่ม
ต่อมามีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง โพสต์คลิปขณะที่ “ธนาธร” เดินผ่าน และมีเสียงตะโกนขึ้นว่า “ฟ้ารักพ่อ” โดย “ธนาธร” หันมายิ้มให้ จนต่อมา #ฟ้ารักพ่อ ก็ปรากฏอยู่ในทุกอณูของโลกออนไลน์
ขณะที่กลุ่มนิวเดมของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อย่าง “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 13 เบอร์ 8 เขตบางกะปิ วังทองหลาง ปชป. และ “หมอเอ้ก” นพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ ผู้สมัครเขต ส.ส.กทม. บางซื่อ-ดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) ปชป. หมายเลข 15 นอกจากจะสื่อสารกับกลุ่มแฟนคลับ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นสมาชิก ปชป. ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียแล้ว
อย่างกิจกรรม “วันวาเลนไทน์” เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้ง “ไอติม” และ “หมอเอ้ก” ร่วมกันจัดกิจกรรม “FREE HUGS” กอดฟรี เพื่อเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสะท้อนปัญหาของประชาชน เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการจัดทำนโยบายและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ลองไปส่องดูว่าผู้สมัคร ส.ส.ในภูมิภาคกันบ้างว่ามีอะไรเป็นที่ฮือฮากันบ้าง
ที่ จ.นนทบุรี ป้ายหาเสียง “ผลงานที่ผ่านมาอุ้มหมาไปหาหมอ” และ “หวยแดกแลกไข่” ของ ทองใบ เสริฐสอน อดีต ส.จ.นนทบุรี ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 จากพรรครวมพลังประชาชาติไทย
ก็ปลุกกระแส ความสนใจได้ไม่น้อย
“ทองใบ” เผยว่าหลังสื่อโซเชียลแชร์ภาพป้ายหาเสียงของผมไป มีการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งติ และชม แต่มันเป็นผลงานที่ผมทำมาตลอดหลายปีจริงๆ ผมจะออกบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ทำกิจกรรมเสริมจากที่ทางเทศบาลเขาทำกันอยู่แล้ว จริงๆ แล้วชื่อโครงการไม่ใช่อุ้มหมาไปหาหมอ แต่เป็นอุ้มหมอไปหาหมา คือพาเจ้าหน้าที่ หรือสัตวแพทย์ไปลงชุมชนเพื่อฉีดวัคซีนตามบ้านของชาวบ้านในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีป้ายหาเสียง “ตัดผมฟรีตลอดปี ทำดีตลอดไป” ซึ่งจะทำช่วงวันหยุด โดยชาวบ้านจะโทรมาตามให้ไปตัดผมผู้ป่วยติดเตียง บางคนแก่ชรา สุขภาพไม่ดี จึงไปบริการให้ถึงที่บ้านเลย รวมทั้งป้าย “จ่ายไข่ธงฟ้า ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน” ป้าย “ขับรถตุ๊กตุ๊ก บริการฟรีทำดีด้วยหัวใจให้กับประชาชน”
“ที่ทำแบบนี้เพราะผมอยากนำผลงานที่ทำจริงที่ผ่านมา เอามาพรีเซ้นต์นำเสนอตัวเองเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เช่นโครงการ หวยแดกแลกไข่ เป็นอีกโปรเจ็กต์หนึ่งที่มาของขายไข่ธงฟ้า ทุกโครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ได้กำลังใจ แรงใจจากพี่น้องชาวปากเกร็ดเยอะพอสมควร ที่ผ่านมาลงพื้นที่เดินพบปะประชาชนวันละประมาณ 10 กิโลเมตร อีกทั้งถีบสามล้อปั่น ถีบจักรยาน ขับรถตุ๊กตุ๊ก พร้อมเครื่องเสียงออกตระเวนหาเสียงในพื้นที่” ทองใบสรุป
จ.สุราษฎร์ธานี ภาณุ ศรีบุศยกาญจน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ นั่งรถจักรยานยนต์พ่วงข้างสีฟ้าพร้อมขบวนรถหาเสียงติดภาพขนาดใหญ่ และข้อความ “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต” ติดคิวอาร์โค้ดเปิดช่องทางการเข้าถึงผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ออกพบปะประชาชนตามสถานที่ชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างคึกคัก
จ.นครราชสีมา บรรยากาศการหาเสียงในพื้นที่ เขต 1 เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะการติดป้ายหาเสียงของบรรดาผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคต่างๆ แย่งชิงพื้นที่ทำเลทอง เช่น ปากซอย, เสาไฟฟ้า, กำแพงวัด และรั้วสถานที่ต่างๆ เพื่อติดตั้งป้ายแนะนำตัวผู้ ชูนโยบายพรรค เรียกคะแนนเสียงกันอย่างเข้มข้น
แต่มีป้ายหาเสียงของนักการเมืองคนหนึ่ง เป็นที่สะดุดตาของชาวโคราชเป็นอย่างมาก คือป้ายหาเสียงของ อัคคชา พรหมสูตร ผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคประชาชาติ ที่มีข้อความขึ้นป้ายว่า “ด่านเยอะ เบื่อมั้ย ผมแก้ได้ใน 1 เดือน” และ “ด่านเยอะ รถติด น้ำท่วม เบื่อไหม” นับว่าถูกใจชาวโคราชพอควร เนื่องจากที่ผ่านมาโลกโซเชียลเคยตั้งฉายาให้เมืองโคราชว่าเป็น “เมืองหลวงของด่านตำรวจ” มาแล้ว ถึงขนาดประชาชน และนักธุรกิจในเมืองโคราช รวมตัวไปยื่นหนังสือกับ วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเข้าไปเจรจากับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา แต่ไม่เป็นผล
อัคคชา พรหมสูตร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 2 จ.นครราชสีมา พรรคประชาชาติ เล่าให้ฟังว่า ปัญหาของเมืองโคราชนั้น มีหลายมิติ แต่เรื่องด่านตำรวจถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบกับประชาชน และเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมาก ถ้าคนที่เคยมาเยี่ยมเมืองนครราชสีมา เมื่อขับไปทางไหนของเมือง ไม่ว่าจะกลางวัน หรือกลางคืน จะต้องเจอด่านตำรวจอย่างน้อย 2 ด่าน สร้างความรำคาญใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้การจราจรติดขัดแล้ว ยังทำให้การทำมาค้าขาย เศรษฐกิจซบเซาอีกด้วย
“วิธีที่นำเสนอเป็นนโยบายแก้ปัญหาตั้งด่านให้ได้ภายใน 1 เดือนนั้น คือเสนอให้มีบทลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเฉียบขาด โดยให้ประชาชนเป็นเครือข่ายจับผิด และปรับโครงสร้างตำรวจใหม่ โดยให้ตำรวจภูธรจังหวัด มาอยู่ในการกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัด เรื่องนี้เป็นความเดือดร้อนของชาวเมืองโคราชจริงๆ” อัคคชาสรุป
นี่เป็นส่วนหนึ่งของสีสันการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ที่ผู้สมัครดีไซน์ ออกมาใช้เป็นกลยุทธ์ ดึงดูดความน่าสนใจ เรียกคะแนนเสียง
