‘ชัชชาติ’บุกตลาดเช้ากรุงเก่า เจอแม่ค้าบ่นขายของไม่ดี รายได้น้อย กู้เงินยาก

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรคเพื่อไทย และนายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขต 1 (อ.พระนครศรีอยุธยาและอ.อุทัย) หมายเลข 1 และนายนพ ชีวานันท์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 (อ.บางปะหัน, มหาราช, ท่าเรือ, นครหลวง, ภาชี และบ้านแพรก) หมายเลข 9 เดินพบปะประชาชนที่ตลาดเจ้าพรหม สักการะศาลพระพรหม ลองทำขนมครก และแจกบัตรประชาสัมพันธ์หาเสียงเลือกตั้ง

มีพ่อค้าแม่ค้ามอบดอกกุหลาบให้นายชัชชาติ ขณะที่บางคนเล่าให้ฟังว่าช่วงนี้ค้าขายไม่ดี อีกทั้งการกู้เงินมาลงทุนขนาดเล็ก 1-2 หมื่นบาท ทำได้ยาก ไม่เหมือนการกู้เงินลงทุนก้อนใหญ่ ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องหันไปพึ่งหนี้นอกระบบซึ่งดอกเบี้ยราคาแพง ซึ่งนายชัชชาติรับเรื่องนำไปเป็นนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อแก้ปัญหาหลังเลือกตั้ง

นายชัชชาติ กล่าวว่า หลังจากที่ลงพื้นที่ตลาดเช้า พบว่าแม้จะเริ่มสายแล้วแต่ของในตลาดก็ยังเหลือเยอะอยู่ พ่อค้าแม่ค้าบอกว่าทุกวันนี้กำลังซื้อในตลาดน้อยลง พ่อค้าแม่ค้ารายได้น้อยลง และที่สำคัญคือไม่มีทุนมาหมุนเวียน กู้เงินในระบบยาก เพราะไม่มีผู้ค้ำประกัน ต้องไปกู้หนี้นอกระบบ ซึ่งดอกเบี้ยสูงราวร้อยละ 20 ต่อเดือน ยิ่งสร้างภาระให้พ่อค้าแม่ค้ามีปัญหามากขึ้น

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ตนมองว่าปัญหาเรื่องทุนและหนี้เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไข รัฐบาลต้องหาแหล่งทุนให้ เห็นว่าไม่ใช่เป็นเพราะธนาคารไม่มีเงิน เพราะจากข่าวธนาคารมีเงินล้นระบบอยู่ 3.6 ล้านล้านบาท ที่ยังไม่ได้ปล่อยกู้ เงินฝากเหล่านี้ไม่สามารถปล่อยกู้ให้คนตัวเล็ก แต่ปล่อยกู้ให้นายทุนรายใหญ่เป็นพันล้านกลับง่ายกว่า ทำให้บริษัทรายใหญ่ชนะรายเล็กเนื่องจากมีความสามารถในการแข่งขันมากกว่า

Advertisement

ดังนั้นจึงต้องดูที่สถาบันการเงินให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้น เพราะผู้ค้าที่มีแหล่งทำมาหากินเป็นหลักแหล่งอัตราการหนีหนี้น้อย เพื่อให้เงินทุนลงมาถึงระดับรากหญ้าในอัตราที่เหมาะสม เพราะแหล่งทุนไฟแนนซ์ถูกกฎหมายที่มีอยู่ก็ยังคิดดอกเบี้ยค่อนข้างสูง หากรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้จะทำให้เศรษฐกิจหมุนได้ในระดับล่าง ขณะเดียวกันต้องให้คำแนะนำและความรู้เรื่องการเงิน การตลาด และการลงทุนควบคู่กันไปด้วย เพื่อไม่ให้ประชาชนกลับเข้าไปสู่วงจรของการเป็นหนี้ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ ซึ่งหากเริ่มจากโมเดลเล็กๆให้ประสบความสำเร็จก่อนก็จะสามารถขยายไปสู่ระดับประเทศได้

นายชัชชาติ กล่าวว่าอีกประเด็นที่น่าสนใจคือ พบร้านเครื่องเขียนในตลาดนำเด็กนักเรียนมาช่วยฝึกงาน ตนเห็นว่านักเรียนนักศึกษาควรที่จะฝึกงานเพื่อเรียนรู้ ฝึกทักษะและหาความชอบของตัวเอง และยังมีรายได้เสริมด้วย ซึ่งภาคเอกชนจะช่วยตรงนี้ได้ เพราะภาครัฐเล็กกว่าเอกชน หากรัฐบาลร่วมมือกับเอกชน โดยให้เอกชนนำนักศึกษาไปฝึกงานและภาครัฐเพิ่มแรงจูงใจด้านภาษีหรือด้านต่างๆ เด็กก็จะได้เรียนรู้ตัวเอง มีรายได้เพิ่มและมีประสบการณ์ทำงานที่เพิ่มขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image