ผู้ว่าฯแปดริ้ว เด้งรับ! พปชร. สอบนายอำเภอท่าตะเกียบ หลังถูกห้ามใช้ที่หลวงจัดปราศรัย

“ผู้ว่าฯแปดริ้ว” ตั้งทีมสอบ นายอำเภอท่าตะเกียบ หลัง พปชร.โวย ถูกห้ามใช้ที่หลวงจัดปราศรัย “เด็กสุชาติ” จี้เด้งออกนอกพื้นที่

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายสุชาติ ตันเจริญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จังหวัดฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ร้องเรียนไปยัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ตั้งกรรมการสอบสวน นายฉันท์ แป้นเพชร นายอำเภอท่าตะเกียบ ที่ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่สนามบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอท่าตะเกียบ เป็นเวทีปราศรัยชั่วคราว เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 โดยเห็นว่าอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญนั้น

ล่าสุดมีความคืบหน้า โดยนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ลงนามในคำสั่งที่ 660/2562 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมี นายประสงค์ คงเคารพธรรม รองผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา เป็นประธาน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า
นายฉันท์ แป้นเพชร นายอำเภอท่าตะเกียบ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติที่ที่ว่าการอำเภอท่าตะเกียบ แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น โดยระบุว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ตามระเบียบและข้อสั่งการของทางราชการ ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไร ซึ่งขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอสงวนสิทธิไปชี้แจงต่อคณะกรรมการชุดดังกล่าว

ขณะที่ นายวิศิษฐ์ สินลือนาม ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 3 จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา ที่รับฟังและเข้าใจอุปสรรคปัญหาที่ โดยให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามที่ผู้สมัคร ส.ส.ได้สะท้อนขึ้นไป อย่างไรก็ตามตนเพิ่งทราบจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานเลือกตั้งของพรรคว่า เพิ่งได้รับสำเนาหนังสือจากนายอำเภอท่าตะเกียบ ลงวันที่ 12 มีนาคม ทางโทรสาร ระบุว่า อนุญาตให้ใช้สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเพิ่งปราศรัยหาเสียงในวันที่ 13 มีนาคม ตามที่ผู้สมัครเคยร้องขอไป โดยอ้างถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ให้หน่วยราชการต่างๆ สนับสนุนกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทำให้ไม่สามารถเตรียมเวทีปราศรัยได้ทันเวลา และต้องยืนยันใช้พื้นที่เอกชนปราศรัยเมื่อวันที่ 13 มีนาคม เนื่องจากผู้สมัครต้องแจ้งกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ล่วงหน้าว่าจะเปิดเวทีที่จุดใด ตามระเบียบของ กกต. ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ นายอำเภอ ควรจะทราบดี อีกทั้งยังมีในส่วนของการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่สนใจมาฟังปราศรัยได้รับทราบด้วย

Advertisement

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ข้ออ้างในหนังสืออนุญาตของนายอำเภอท่าตะเกียบนั้นขัดกับที่เคยอ้างในหนังสือปฏิเสธก่อนหน้านั้น ที่ยึดแนวนโยบายจากที่ประชุมสำนักงานเลขาธิการ คสช.เมื่อวันที่ 14 มีนาคมเท่านั้น ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ นายสุชาติ ตันเจริญ ได้ประสานชี้แจงกับ นายฉันท์ ทางโทรศัพท์ด้วยตัวเองไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการพิจารณาทบทวน แสดงให้เห็นว่า นายฉันท์ ไม่ได้ติดตามและทำความเข้าใจข้อสั่งการต่างๆ ของรัฐบาล และ คสช. ที่ออกมาหลายครั้งในการให้ส่วนราชการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองแต่อย่างใด

“ข้ออ้างของ นายอำเภอท่าตะเกียบ ที่ว่าได้ทำหน้าที่ตรงไปตรงมานั้น ต้องถามว่าเหตุใดจึงเปลี่ยนใจอนุญาต หลังที่ผู้สมัครร้องเรียนจนเป็นข่าวใหญ่ไปแล้ว อีกทั้งข้อสั่งการของราชการที่อ้างในหนังสือ 2 ฉบับก็เป็นคนละเรื่อง เป็นหลักฐานที่ยืนยันว่า นายฉันท์ ที่เป็นถึงนายอำเภอ เจ้าหน้าที่ปกครองระดับสูง กลับขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งยังขาดความรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ ที่จะต้องศึกษาหรือหาข้อมูลที่ชัดเจนเสียก่อน จนน่ากังวลว่า จะทำให้ประชาชนสับสนในช่วงเลือกตั้ง ดังนั้นผู้ว่าฯฉะเชิงเทราควรที่จะพิจารณาย้าย นายฉันท์ ออกนอกพื้นที่ชั่วคราว จนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จด้วย” นายวิศิษฐ์ ระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image