“สัมพันธ์” เตรียมยื่นศาล ให้การแบ่งเขตเลือกตั้งสุโขทัย เป็นโมฆะ
“สัมพันธ์” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุโขทัย พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมร้องศาลปกครองสูงสุด ให้การแบ่งแขตเลือกตั้งจ.สุโขทัยเป็นโมฆะ ฉะ กกต.แบ่งเขตพิสดาร เอาหลายตำบลมายำรวมเป็นเขตเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.สุโขทัย พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงราชกิจจานุเบกษาประกาศการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ของจ.สุโขทัย ว่า ตนถือว่าเป็นการแบ่งเขตที่พิสดาร และไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายเลย ซึ่งการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.นั้น กฎหมายได้กำหนดวิธีการแบ่งไว้มาตราเดียว คือ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 27 คือ
1. สิ่งหนึ่งที่กฎหมายกำหนดในการแบ่งเขตเลือกตั้งคือ การเคยอยู่ในเขตเลือกตั้งเดียวกันมาก่อน แต่จากการแบ่งเขตเลือกตั้งจ.สุโขทัยของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในครั้งนี้ปรากฏว่า เขตเลือกตั้งที่ 3 กกต.นำเอาพื้นที่ของอำเภอศรีสำโรงและอำเภอเมืองไปรวมกับพื้นที่ของอำเภอทุ่งเสลี่ยมและอำเภอสวรรคโลก ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา อำเภอเหล่านี้ไม่เคยอยู่ในเขตเลือกเดียวกันมาก่อน นี่คือการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. อันผิดต่อกฎหมายในข้อที่ 1
2. หลักของการแบ่งเขตเลือกตั้งตาม มาตรา 27(1) คือ ให้รวมอำเภอต่างๆเป็นเขตเลือกตั้ง ถ้ารวมอำเภอแล้วมีราษฎรมากหรือน้อยเกินไป ก็ให้แยกตำบลของอำเภอนั้นออก หมายความว่า ในแต่ละเขตเลือกตั้ง ต้องยึดเขตอำเภอเป็นหลักก่อน ในเขตนั้นเมื่อมีอำเภอหลักแล้ว จึงแบ่งย่อยตำบลของอำเภออื่นมาเสริม แต่การแบ่งเขต ส.ส.ของจ.สุโขทัยในครั้งนี้ กกต.กลับเอาแต่ละตำบลของหลายๆอำเภอมายำรวมกันในเขตเดียว โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 3 จึงผิดหลักการของกฎหมายอย่างยิ่ง
3. หลักกฎหมาย มาตรา 27(2) การแบ่งแยกตำบลนั้นให้คำนึงถึงชุมชนที่ราษฎรมีการติดต่อกันเป็นประจำในลักษณะการเป็นชุมชนเดียวกัน การยิ่งแบ่งหลายอำเภอในเขตเลือกเดียว จึงเป็นการยิ่งขัดต่อกฎหมายมาตรานี้ เพราะลักษณะการเป็นชุมชนเดียวกัน โดนเฉพาะราษฎรในพื้นที่คุ้นชินกับการติดต่อราชการภายในอำเภอเดียวกันมากกว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งจึงต้องคำนึงถึงการแบ่งแยกอำเภอให้น้อยที่สุด และ 4. การแบ่งเขตเลือกตั้งในรูปแบบที่ 3 เป็นการแบ่งเขตเลือกตั้งที่เป็นไปตามกฎหมายมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่เคยอยู่ในเขตเลือกเดียวกันมาก่อนเมื่อการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2554 และเป็นการแบ่งแยกอำเภอน้อยอำเภอมาก มีอำเภอหลักในแต่ละเขตเลือกตั้ง และนำตำบลอื่นมาประกอบเพื่อให้จำนวนราษฎรใกล้เคียง
“ผมไม่กลัวเลย ว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นรูปแบบไหน เพราะผมลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องตลอด 9 ปี แต่การแบ่งเขตเลือกตั้ง กกต.ต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายเป็นหลัก ไม่ใช่แบ่งตามใจตัวเองหรือตามใครสั่งมา เพราะฉะนั้นเมื่อการแบ่งเขตเลือกตั้งพิสดารแบบนี้ ผมจึงจำเป็นต้องพึ่งบารมีศาล โดยจะไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด ตามมาตรา 17 ของ พ.ร.ป.ส.ส.ในวันจันทร์ที่ 20 มี.ค.นี้ ให้การแบ่งเขตของจ.สุโขทัยในครั้งนี้เป็นโมฆะ และหากศาลสั่งให้เป็นโมฆะ คงต้องฟ้อง กกต. ต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)กรณีปฏิบัติหน้าที่อันมิชอบ และไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป แล้วเจอกันที่ศาลปกครองสูงสุด”นายสัมพันธ์ กล่าว