‘ปานปรีย์’ นำทีม พท.พบ ส.อัญมณีฯ ยันพร้อมหนุนทุกด้าน-เอกชนโอด 8 ปีที่ผ่านมาอยู่อย่างทรมาน

‘ปานปรีย์’ นำทีม พท.พบ ส.อัญมณีฯ ยัน ‘เพื่อไทย’ พร้อมหนุนทุกด้าน-เอกชนโอด 8 ปีที่ผ่านมาอยู่อย่างทรมาน ยันเลือกตั้งครั้งนี้เปลี่ยนประเทศ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 มีนาคม ที่อาคาร Jewely Trade Center ถ.สีลม พรรคเพื่อไทย (พท.) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค และโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม. เข้าพบปะหารือผู้ประกอบการอัญมณี สมาพันธ์อัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่า (ประเทศไทย)

โดย นายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานสมาพันธ์อัญมณีฯ กล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ได้ด้วยการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60-70% สินค้ากลุ่มอัญมณีสร้างรายได้เข้าประเทศนับแสนล้านบาท สร้างการจ้างงานนับล้านตำแหน่ง แต่ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่ทรมานของผู้ประกอบการอัญมณีเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้นำเสนอทางออกข้อเสนอแนะ แต่รัฐบาลไม่รับฟัง เพราะไม่มีการกระจายอำนาจ และการตัดสินใจรวมศูนย์ที่คนเดียว ทั้งนี้ หากพรรค พท.ได้เป็นรัฐบาล อยากเสนอให้ผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีของโลก ซึ่งไทยมีศักยภาพหากได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมอย่างดีเพียงพอ นอกจากนี้สมาพันธ์อัญมณีฯ เคยเสนอรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลดภาษีนำเข้าอัญมณี 20% เพื่อให้ผู้ประกอบการมียอดขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในขณะนั้นสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจอัญมณีในประเทศได้เป็นอย่างมาก ส่งผลให้แรงงานฝีมือมีรายได้ที่มากขึ้นด้วย

Advertisement

“ความหวังของผู้ประกอบการ การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเปลี่ยนประเทศไทย เป็นโอกาสของภาคประชาชนที่จะได้รู้ว่าปากกามีราคาอย่างไร ผมมั่นใจหากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ การค้า จากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะผู้นำจะนำพาผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มไปโรดโชว์ต่างประเทศพร้อมกัน ผมอยากเห็นผู้นำที่สร้างความเชื่อมั่นในระดับโลก อยากให้ดูรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา ยืนยันทุกรัฐบาล ทั้งรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ รับฟังเรา วันนี้เราถูกบีบจนหายใจไม่ออก” นายสมชาย กล่าว

ด้าน นายชมพล พรจินดารักษ์ อุปนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ กล่าวว่า ขอเสนอแนวทางการสนับสนุนอุตสาหกรรมอัญมณีไทย หากพรรค พท.เป็นรัฐบาล ได้แก่ 1.รัฐต้องอย่าขัดขวางผู้ประกอบการ กฎระเบียบ ต้องสนับสนุนผู้ประกอบการ เพราะขณะนี้ผู้ประกอบการได้สร้างความแข็งแกร่งด้วยตัวเอง 2.รัฐอย่าเป็นคู่แข่งของเอกชน เนื่องจากที่ผ่านมาในการจัดแสดงสินค้าต่างๆ รัฐเป็นผู้จัดงานแบบไม่มีความรู้ความเข้าใจ เช่น จัดงานในลักษณะ Business to Business (B2B) แต่นำนักเรียน นักศึกษา มาดูงาน ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ และยังเป็นการนำภาษีมาใช้โดยเปล่าประโยชน์

Advertisement

นายปานปรีย์ กล่าวว่า สินค้าสำคัญของไทย เป็นสินค้าที่สร้างชื่อเสียงให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก เวลานี้โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก ผู้ซื้อนิยมมาซื้ออัญมณีในไทยมากขึ้น หากจีนและอินเดียเติบโต จะทำให้อาเซียนเติบโตตามไปด้วย อยากให้ภาคเอกชนร่วมกันทำงาน หาก พท.ชนะเลือกตั้งได้จัดตั้งรัฐบาล พร้อมเข้าไปสนับสนุนเต็มที่ ทั้งอุตสาหกรรมอัญมณี และคนทำงานทุกด้าน รวมทั้งช่างฝีมือที่ยังรายได้น้อย อยากให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จะเป็นการสร้างโอกาสให้ประชาชนมากขึ้น

นายปานปรีย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในปัจจุบันเอสเอ็มอีมีปัญหาในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เนื่องจากไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หากสมาพันธ์อัญมณีฯ สามารถออกใบรับรองเอสเอ็มอี ในลักษณะเป็นกลุ่ม จะช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสามารถเพิ่มศักยภาพในการเข้าสู่ตลาดในประเทศและตลาดโลกได้ ส่วนด้านการส่งออก รัฐบาลมีความสำคัญอย่างมากในการจัดหาตลาด เพื่อแนะนำศักยภาพของอัญมณีไทย

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า แนวทางของพรรค พท.ในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ หรือ A new chapter of thailand มี 5 ด้าน ได้แก่ 1.A new chapter of Thailand of Investment ไทยจะกลายเป็นประเทศเปิดเชื่อมโลกผ่านการลงทุนจากต่างประเทศที่จะเป็นกลไกหลักขับเคลื่อนประเทศ ประเทศไทยจะกลายเป็น FDI intensive country ในบริบทใหม่ที่ต่างจากเดิม ด้วยการเปิดโอกาสให้กับเอสเอ็มอี ทั้งต้นทุน การจ้างงาน กฎหมายและการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อ โดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อของเอสเอ็มอี ผ่านการค้ำประกันสินเชื่อภาครัฐ รวมถึงการดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพจะมีการเปิดเขตธุรกิจใหม่นำร่อง 4 แห่ง ได้แก่ กทม. ขอนแก่น หาดใหญ่ เชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นการยกเว้นมีสิทธิประโยชน์ด้านภาษีรายได้ และภาษีนิติบุคคล

นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า 2.A new chapter of Thailand of Digital economy ระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ 3.A new chapter of Thailand of Logistic ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินด้วยโมเดล Multi Airport หลายสนามบินต้องทำงานร่วมกัน การใช้บริการสนามบินต้องไม่กระจุกตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิแห่งเดียว รถไฟความเร็วสูง เชื่อมเขตธุรกิจใหม่ผ่านทางรถไฟเชื่อมต่อลาว เชื่อมท่าเรือแหลมฉบัง เป็นต้น 4.A new chapter of Thailand of Education เชื่อม 3 ฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคการศึกษา เข้าด้วยกัน เอกชนจะมีส่วนร่วมในการกำหนดหลักสูตรมากขึ้น โดยเรามีแนวคิดสนับสนุนการออกใบรับรองความเชี่ยวชาญที่มีมาตรฐาน (Certificate) แทนใบปริญญา เพื่อให้ได้ต่าตอบแทนที่สูงขึ้น และ 5.A new chapter of Thailand of Tourism เรามองตลาดใหม่ๆ อย่างนักท่องเที่ยวอินเดีย ดึงดูดเข้ามาในประเทศ และจะให้ความสำคัญกับการจัดมหกรรมระดับโลก ทั้งนำมหกรรมต่างประเทศมาจัดในไทย และเทศกาลในไทยให้มีความเป็นสากลมากขึ้น

นายดนุพร กล่าวว่า พรรค พท.จะนำโครงการ ‘กรุงเทพเมืองแฟชั่น’ เพื่อยกระดับกรุงเทพมหานครให้เป็นจุดหมายปลายทางของแฟชั่นหลากหลายสาขา ทั้งเสื้อผ้า อัญมณี เครื่องประดับ ฯลฯ เราจะศึกษาความเป็นไปได้ในการลดภาษีสินค้าแบรนด์เนมในไทย เพื่อแย่งชิงตลาดการท่องเที่ยวกลุ่มชอปปิงจากเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น ฮ่องกง จากเดิมที่ประเทศไทยเป็นประเทศแห่ง Sea Sand Sun จะเพิ่มเรื่องการจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น จะเป็นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมา นอกจากนี้การลดภาษีบางรายการ จะทำให้เงินใต้โต๊ะหายไปด้วย

โดย หลังการหารือพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน ผู้แทนจากสมาพันธ์อัญมณีฯ พร้อมคณะของพรรค พท. ได้เยี่ยมชมร้านค้าจำหน่ายอัญมณีภายในอาคาร Jewely Trade Center ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image