“ธรรมนัส” รับหนังสือรับรอง ส.ส.แทน “บิ๊กป้อม” ก่อนรายงานตัวบ่ายนี้ ปัดดีลลับเพื่อไทยหวังพลิกขั้วตั้ง รบ. ยันทุกพรรคเสนอชื่อ ชิง ปธ.สภาได้หมด ตีมึนชง “สุชาติ” ชิงเก้าอี้
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างเป็นทางการ ครบ 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน โดยวันนี้เป็นวันแรกที่สำนักงาน กกต. เปิดให้ ส.ส.ใหม่ทั้ง 500 คน เข้ารับหนังสือรับรองเพื่อเป็นหลักฐานสำคัญ ในการไปรายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎร
จากนั้น เวลา 10.18 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ เข้ารับหนังสือรับรองส.ส.จาก กกต. ในส่วนของตัวเองและรับมอบหนังสือรับรองฯ แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อนำไปรายงานตัวต่อสภาช่วงเวลา 13.00 น.ของวันเดียวกันนี้
ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์ว่า เชื่อว่าทุกคนดีใจที่ได้เดินทางมารับหนังสือรับรอง ส.ส. เพื่อไปรายงานตัวต่อสภา ส่วนตัวก็ได้รับมอบหมายให้รับหนังสือแทน พล.อ.ประวิตรด้วย เพราะท่านติดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตรจะไปรายงานตัวที่สภาด้วยตัวท่านเอง สำหรับทิศทางทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ ช่วงที่ผ่านมา เนื่องจาก กกต.ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ดังนั้น คณะกรรมการบริหารพรรค โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคได้มอบหมายให้ตนประสานงานกับ ส.ส.ทุกคนว่า “ให้อยู่เงียบๆ นิ่งๆ เพราะมารยาททางการเมืองที่ กกต.ยังไม่รับรอง ก็ไม่ควรมีการเคลื่อนไหวอะไรภายในพรรค”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทิศทางพรรคพลังประชารัฐ หลังจากนี้ จะเป็นอย่างไร จะมองเรื่องการพลิกขั้วกลับมาตั้งรัฐบาลหรือไม่ หากพรรคที่ได้เสียงข้างมากจัดตั้งไม่สำเร็จ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา คุยกันตลอด เนื่องจากอำนาจการตัดสินใจขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค ซึ่งหัวหน้าพรรคได้มอบนโยบายว่าโดยมารยาททางการเมืองในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ที่นิ่งเพราะต้องการให้พรรคที่ได้คะแนนเสียงมากสุดเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่หลังจากนี้ไปพรรคจะอยู่นิ่งๆ เช่นกัน จนกว่าจะมีการเปิดสภา
เมื่อถามว่า หากการโหวตนายกฯ ไม่สำเร็จ เนื่องจากติดล็อกที่ ส.ว. โอกาสที่พรรคพลังประชารัฐ จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยเป็นไปได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา จะมีข่าวดีลลับอะไรก็มา เรียนตรงๆ ว่าไม่เคยมีเรื่องพวกนี้ การกำหนดทิศทางของพรรคในอนาคตขึ้นอยู่กับการประชุมกรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ การเมืองเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของหลายฝ่าย หลายทิศทาง แต่ข้อเท็จจริงในฐานะที่ตนเองใกล้ชิดกับหัวหน้าพรรคและคุยกันทุกวันแล้วรับรองว่าไม่มีดีลอะไรทั้งนั้น
เมื่อถามว่าการโหวตเลือกนายกฯ พรรคพลังประชารัฐให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการประชุม ส.ส.เร็วๆ นี้ ถึงเรื่องทิศทาง แต่เบื้องต้น คงเป็นมติพรรคมากกว่า เมื่อถามย้ำว่า ควรเป็นพรรคอันดับหนึ่ง เป็นนายกฯ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า คิดว่ามี 2 ประเด็น 1.การโหวตประธานสภา เนื่องจากการเลือกประธานสภา เป็นเรื่องของ ส.ส. ก็เป็นสิทธิของ ส.ส.ที่จะโหวตใครเป็นประธาน 2.เรื่องนายกฯ เนื่องจากเป็นการโหวตของ 2 สภา ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องเคารพว่ากำหนดว่าอย่างไร แต่ทิศทางว่าจะเลือกใครนั้น ทางหัวหน้าพรรคให้นโยบายอยู่แล้วว่าควรจะให้พรรคที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน เสียงข้างมากในการรวบรวมจัดตั้งรัฐบาล และโหวตนายกฯ ต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า จะโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกลเป็นนายกฯ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นมติของพรรคว่า จะกำหนดอย่างไร แต่อย่าลืมว่าในสภา มี ส.ส. 500 คน ดังนั้น พรรคไหนที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากและชนะในการโหวตที่จะเลือกบุคคลมาเป็นนายกฯ ก็ต้องเคารพกติกา
