The Spy Who Dumped Me ไม่น่าประทับใจ

The Spy Who Dumped Me ไม่น่าประทับใจ

The Spy Who Dumped Me ไม่น่าประทับใจ

ปี 2015 มีหนังแอคชั่นคอมเมดี้ที่ตั้งใจล้อเลียนหนังสายลับเรื่องดังๆ อาทิ เจมส์ บอนด์ 007 ฯลฯ ชื่อ Spy ตัวเอกเป็นดาราสาวอ้วนตุ้ยนุ้ย เมลิสซ่า แม็คคาร์ธี่ ที่ทำงานแบบหลังไมค์คอยสนับสนุนการปฏิบัติการของสายลับ แต่วันดีคืนดีต้องออกไปเป็นสายลับซะเอง

นางเอกอ้วนกลมอย่างนั้น หนังจะสนุกได้ยังไง แต่ผิดคาด หนังฮามาก ตลกหน้าตาย ทั้งคำพูด ท่าทาง เป็นหนังที่ผสานฉากตลกกับแอคชั่นได้อย่างลงตัว จนเมลิสซ่าซึ่งไม่ใช่ผู้หญิงสวย กลายเป็นน่ารัก จนตั้งใจว่าถ้ามีภาคต่อจะรีบไปดู

มาปีนี้ หนังสายลับ The Spy Who Dumped Me เอาผู้หญิงสวยขนาดเคยได้รับการโหวตให้เป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก จากนิตยสารขวัญใจหนุ่มๆ FHM อย่างมิล่า คูนิส มาเป็นนางเอก

แม้ระยะหลังเธอจะแสดงหนังแนวคอมเมดี้เป็นส่วนใหญ่ เช่น Bad Moms และ Ted แต่ไม่เคยลืมว่า ฉากเลิฟซีนเลสเบี้ยนที่เธอแสดงคู่กับ นาตาลี พอร์ตแมน ใน Black Swan ปี 2010 ถูกกล่าวขวัญถึงอย่างมากมาย

Advertisement

มิล่า ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ สาขานักแสดงสมทบหญิง ในขณะที่นาตาลี คว้ารางวัลออสการ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

เท่านั้นยังไม่พอ มีดาราตลกหญิงที่เคยได้รางวัลเอ็มมี่ เคท แมคคินนอน ที่มีผลงานเช่นเรื่อง Ghostbusters, Saturday Night Live และ Masterminds มาร่วมสมทบเพิ่มความฮา

แถมผู้กำกับยังเป็นผู้หญิง ซูซานนา โฟเกล ที่เคยกำกับหนังโรแมนติกคอมเมดี้ Life Partners (2014) เรื่องนี้ โฟเกลทั้งกำกับและเขียนบทเองร่วมกับ เดวิด ไอเซอร์สัน จากซีรีส์ Mad Men และ Mr.Robot

Advertisement

เธอบอกว่า เธอชอบหนังที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเพื่อนซี้ ในหนังเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องราวของสองสาวเพื่อนสนิท ออดรีย์ (มิล่า คูนิส) และมอร์แกน (เคท แมคคินนอน) ที่ตกกระไดพลอยโจนกลายเป็นผู้รับผิดชอบต้องนำแฟลซไดรฟ์เก็บความลับ ที่อดีตคนรัก ดรูว์ (จัสติน เธอโรซ์) ที่ออดรีย์เพิ่งทราบว่าเป็นซีไอเอ สั่งเสียไว้ก่อนถูกยิง ให้นำไปให้บุคคลลึกลับคนหนึ่งที่เวียนนา

สองสาวถูกติดตามและไล่ล่าจากองค์กรที่ต้องการแฟลซไดรฟ์ ทั้งจาก เซบาสเตียน (แซม ฮิวแฮน) ที่มาจาก MI6 และผู้ก่อการร้ายที่มีทีมงานเป็นสาวนักฆ่าหน้าโหด นาดยา (อิวานนา ซัคห์โน)

สาวบ้านๆ สองคนต้องพยายามเอาชีวิตรอด และส่งของให้ถึงมือคนที่สมควรได้รับ ตามที่คนรักของเธอฝากฝังไว้

ผู้หญิงมีบทบาทในเรื่องนี้ ทั้งแสดงนำ ทั้งเป็นผู้ร้าย และเป็นผู้กำกับ เมลิสซ่า แม็คคาร์ธี่ จาก The Spy เคยทำให้รู้สึกว่า ผู้หญิงไม่สวยและตุ้ยนุ้ยขนาดนั้น ยังทำให้หนังสายลับออกมามีเสน่ห์ สนุก และน่าติดตาม สาวเซ็กซี่ระดับมิลา คูนิส ก็น่าจะทำได้เช่นกัน

แต่ผิดคาด แม้จะทำใจว่าหนังแอคชั่นคอมเมดี้ยากจะหาความสมเหตุสมผล แต่ The Spy Who Dumped Me เป็นหนังเลื่อนเปื้อนไร้สาระ แม้จะไม่หวังตรรกะและความสมจริง แต่ทุกอย่างในเรื่องเป็นไปไม่ได้ จนเหมือนสร้างหนังให้คนปัญญาอ่อนดู

สองสาวหนีออกจากบ้านอย่างฉุกละหุก มีแต่เสื้อผ้าติดตัวแต่บังเอิญมีพาสปอร์ตทิ้งไว้ในรถ (เรื่องนี้พอรับได้) แต่การที่เธอมีเงินเดินทางไปยังเมืองต่างๆ เกือบทั่วยุโรป เวียนนา ปราก ปารีส เบอร์ลิน อัมสเตอร์ดัม ฯลฯ เพื่อหลบหนีและส่งแฟลซไดร์ฟ เธอเอาเงินจากไหน

และเมื่อรู้ว่าทางการสามารถติดตามเธอได้จากพาสปอร์ต สองสาวก็ใช้วิธีขโมยพาสปอร์ตคนอื่นไปใช้แทนเสียดื้อๆ เนื้อเรื่องเลอะเทอะ พฤติกรรมตัวละครขัดแย้งกัน จนเหมือนหนังไทยสมัยก่อน พระเอกถูกยิงแขนใช้การไม่ได้ข้างหนึ่ง ในหนังมีการบอกด้วยว่าจะเป็นเช่นนี้นานเท่าไหร่ แต่ฉากต่อมากลับปรากฏตัวในลุคหล่อ ไม่มีสายคล้องไหล่ แขนกลับใช้การได้ปรกติ

ส่วนออดรีย์แม้จะเป็นนางเอก แต่การปรากฏตัวคู่กับมอร์แกนเกือบทุกซีน ทำให้ถูกขโมยซีนอย่างไม่ประทับใจ ด้วยบทรั่วๆ ล้นๆ ของมอร์แกน ที่แม้แต่ดรูว์ก็บอกว่า มอร์แกนเป็น “คนเกินๆ”

บทพูดของมอร์แกนไร้สาระ สัปดน ไม่รู้จักกาลเทศะ ประเคนใส่เพื่อสร้างความขบขัน แต่มันกลับสร้างความรำคาญยังไงไม่รู้ ปรกติไม่ใช่คนเส้นลึก แต่หนังเรื่องนี้ไม่มีตอนไหนที่น่าหัวเราะ ดูแบบปลงๆ และสรุปว่า ผู้กำกับหญิง ซูซานน่า โฟเกล มือไม่ถึงในการกำกับหนังสไตล์นี้

รู้สึกใจร้ายมากที่ต้องขอพูดว่า The Spy Who Dumped Me เป็นหนังที่เสียดายค่าดู และเสียเวลา มิล่า คูนิส ไม่สวยอย่างที่เคยเห็น การแสดงก็พื้นๆ ส่วน เคท แม็คคินนอน ล้น รั่ว เลอะเทอะ ไร้สาระ จนอยากให้หนังจบเร็วๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image