เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่วัดแก้วไพฑูรย์ ซอยเอกชัย 14 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการจัดงานทำบุญเลี้ยงเพลพระภิกษุ และปิดทองรูปหล่อหลวงปู่บุญ พระอธิการรูปแรกของวัด โดยเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมฉลองกุฏิเจ้าอาวาส และสมโภชศาลาการเปรียญยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์หลังการบูรณะนานหลายปี กระทั่งเสร็จสมบูรณ์อย่างงดงาม นอกจากนี้ยังมีการเปิดศาลสการเปรียญดังกล่าวให้ประชาชนเข้าชมความสวยงามหลังการบูรณะพร้อมนิทรรศการที่แสดงข้อมูลและภาพถ่ายขั้นตอนการอนุรักษ์ รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับภาพจำหลักบนฝาปะกนรอบศาลาเรื่อง “สุธนุชาดก”
บรรยากาศในช่วงเวลาตั้งแต่ 17.00 น. มีประชาชนทะยอยเข้าชมศาลาอย่างต่อเนื่องโดยเดินชมไม้จำหลักรอบศาลาด้วยความสนใจ
นางญาดา ศิลปชัยวงษ์ อายุ 65 ปี กล่าวว่า ตนเดินทางมาจากซอยวิภาวดี 48 โดยตั้งใจมาที่วัดแห่งนี้เพื่อชมศาลาการเปรียญโดยเฉพาะ เนื่องจากทราบข่าวว่ามีการบูรณะได้อย่างสวยงาม เมื่ออ่านข้อมูลจากแผ่นป้ายนิทรรศการยิ่งทำให้เข้าใจง่ายขึ้น ส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นเรื่องดีที่มีผู้เห็นคุณค่าและร่วมกันอนุรักษ์ เนื่องจากเป็นสมบัติที่ปู่ย่าตายายสร้างไว้
นาย ประวิช สง่ารักษ์ อายุ 43 ปี กล่าวว่า ตนเป็นชาวบ้านย่านคลองบางประทุน โดยเคยบวชเรียนที่วัดแห่งนี้ จึงรู้สึกผูกพัน ในวันนี้เห็นศาลาการเปรียญเก่ากลับมาสวยงามอีกครั้ง ก็มีความปีติอย่างมาก ทำให้นึกถึงเรื่องที่เล่าต่อกันมาว่า เคยมีโจรมางัดฝาปะกนทั้งที่เป็นภาพชาดก และภาพดอกไม้ใบไม้ออกไป โดยใช้วิธีโยนลงคลองบางประทุน ให้ไหลไปตามน้ำเพื่อหลบเลี่ยงสายตาชาวบ้าน จากนั้นจึงไปเก็บจากน้ำบริเวณที่เป็นสะพานปูนข้ามคลองบางประทุนบนถนนเอกชัยในปัจจุบัน เนื่องจากไม้ดังกล่าวเป็นไม้สักเก่า ไม่จมน้ำ
“รู้สึกปีติมาก ที่มีการซ่อมศาลานี้ และยังสลักไม้ที่สูญหายไปมาเติมให้ครบถ้วน ตอนที่คุณขรรค์ชัย บุนปาน ประธานบริษัท มติชนฯ มาสำรวจสภาพความทรุดโทรมของศาลาและเตรียมวางแผนบูรณะ ผมยังบวชเป็นพระอยู่ที่นี่ เมื่อรู้เรื่องก็ดีใจตั้งแต่ตอนนั้น วันนี้สึกออกมาแล้ว ก็กลับมาชมศาลาอีกครั้ง” นายประวิชกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณวัดยังมีการจัดมหรสพต่างๆ อาทิ ลิเกคณะพระเอกบัณฑิต, วงกลองยาว รวมถึงรำวงย้อนยุค ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบุคคลต่างๆจำนวนมาก อาทิ พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, นายธวัชชัย ทองสิมา ผู้อำนวยการองค์การสัมพันธ์และกิจกรรมสังคม รพ.นครธน, นายสุทธิชัย วีรกุลสนุนทร หรือ เฮียล้าน อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตจอมทอง , พ.ต.ท. สมชาย ขำสัจจา รอง ผกก.สส. สภ. บางศรีเมือง เป็นต้น
พระครูวิมลรัตนาธาร หรือหลวงพ่อจรินทร์ กระต่ายแก้ว เจ้าอาวาสวัดแก้วไพฑูรย์ กล่าวว่า ในวันที่ 25 กันยายน ทางวัดยังจัดการฉลองศาลาการเปรียญ อีก 1 วัน โดยมีภิกษุจากวัดหลายแห่งในย่านบางขุนเทียนเข้าร่วม ส่วนในเวลาเย็นเป็นต้นไป ยังคงมีมหรสพต่างๆ และเปิดให้ประชาชนเข้าชมศาลาการเปรียญในยามค่ำคืน
•‘สมเด็จพระเทพฯ’ เสด็จฯไปทรงยกช่อฟ้าศาลาการเปรียญ วัดแก้วไพฑูรย์
ทั้งนี้ ศาลาการเปรียญวัดแก้วไพฑูรย์ สร้างขึ้นในยุคต้นรัตนโกสินทร์ ในยุคสมัยของ “หลวงปู่บุญ” พระอธิการของวัดระหว่างรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมเรือนไทย ใต้ถุนสูง หลังคาปีกนก ลดชั้น ได้รับการยกย่องจาก น. ณ ปากน้ำ นักปราชญ์คนสำคัญของไทย ว่าเป็น “เรือนไม้อันวิเศษ” เนื่องจากมีความสวยงามด้วยภาพจำหลักไม้ทั้งหลังบนฝาปะกน เป็นเรื่อง “สุธนุชาดก” ในปัญญาสชาดก จำนวน 44 ช่องรอบศาลา เรียงลำดับทวนเข็มนาฬิกา ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “ธรรมาสน์” ยุคปลายกรุงศรีอยุธยา
ต่อมา ศาลาการเปรียญดังกล่าว ทรุดโทรมลงอย่างมาก นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพพร้อมด้วยผู้มีใจศรัทธาและกลุ่มนักวิชาการตั้งแต่ปี 2554 ก่อนวางแผนปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ร่วมกับกรมศิลปากร ภายใต้ โครงการ “แบ่งปันความรู้ เชิดชูศาสนา พัฒนาแหล่งน้ำลำคลอง” ในวาระเข้าสู่ปีที่ 35 ของเครือมติชน ร่วมด้วยมูลนิธิ ดร.โกวิท วรพิพัฒน์ และมูลนิธิบรรจง พงศ์ศาสตร์ ดำเนินการบูรณะในปี 2555 กระทั่งเสร็จสมบูรณ์ในพ.ศ. 2558 อันเป็นปีมหามงคลที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน พ.ศ. 2558
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงยกช่อฟ้าศาลาการเปรียญวัดแก้วไพฑูรย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2561 เวลา 17.30 น.
