| ผู้เขียน | สุรีย์ประภา |
|---|
Hardcore Henry หนังมุมมองบุคคลที่หนึ่งสไตล์วิดีโอเกม ฮาร์ดคอร์สมชื่อ
คนที่ชอบหนังเรื่องนี่น่าจะเป็นผู้ชาย ชอบเล่นเกม โดยเฉพาะเกมยิงปืนมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS : First Person Shooter) รุ่นบุกเบิกอย่าง Wolfenstein 3 D (1992) หรือเกมคลาสสิคอย่าง Doom ชอบหนังแอคชั่น และชอบของแปลก
ที่พูดอย่างนี้ เพราะหนังเรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ เริ่มจากทิเมอร์ เบกแมมบีตอฟ ผู้กำกับหนัง Abraham Lincoln :Vampire Hunter และ Wanted ไปดูเอ็มวีของวงร็อครัสเซีย Biting Elbows ซึ่งอิเลีย ไนซูลเลอร์ นักร้องนำของวงเป็นผู้กำกับ เพลง The Stampede และ Bad Motherfucker เอ็มวีออกแนวบู๊แบบหนังแอคชั่น ดุเดือดเลือดสาดกระจาย และยังถ่ายทำโดยใช้เทคนิคเกมคอมพิวเตอร์มุมมองแบบบุคคลที่หนึ่ง (First Person)
ทิเมอร์จึงชวนอิเลียให้มากำกับหนังโดยตนเองนั่นแท่นเป็นโปรดิวเซอร์
Hardcore Henry กำกับและเขียนบทโดยอิเลีย เป็นหนังแอคชั่นที่แหวกแนว ถ่ายทำด้วยเทคนิคนอกกรอบและแปลกใหม่ จนได้รับการคัดเลือกเข้าฉายเทศกาล SXSW (South By Southwest Film Festival) ซึ่งเป็นเทศกาลสำหรับหนังที่มีนวัตกรรมแปลกใหม่และสร้างสรรค์ และคว้ารางวัลขวัญใจมหาชนสาขา Midnight Madness ในที่สุด
ก่อนหน้านี้ก็มีหนังบางเรื่องที่ถ่ายทำแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง แต่เป็นเพียงบางช่วงเท่านั้นเช่น The Blair Witch Project (1996) Cloverfield (2013) หรือ Gravit (2013)
แต่ Hardcore Henry ใช้เทคนิค First Person Point of View ตลอดทั้งเรื่อง โดยอิเลียนำใช้กล้อง GoPro ที่ผลิตเพื่อถ่ายวีดีโอแนวเอกซ์ตรีม มาติดตั้งกับหมวกที่คิดขึ้นเพื่อใช้ถ่ายทำ ภาพที่ออกมาโลดโผน ฉับไว น่าตื่นเต้น แต่ถ้าไม่คุ้นเคยกับการเล่นเกมลักษณะนี้มาก่อน อาจรู้สึกคลื่นเหียนวิงเวียนได้
เนื้อเรื่องเริ่มต้นด้วยเฮนรี่ฟื้นขึ้นมาพบว่า ร่างกายเขาอยู่ในสภาพที่ยับเยิน และจำอะไรไม่ได้ สาวสวยนักวิทยาศาสตร์นามเอสเทลล์ (เฮลีย์ เบนเน็ตต์) อ้างตัวว่าเป็นภริยา และพยายามซ่อมแซมร่างกายให้เขากลายเป็นมนุษย์ไซบอร์ก แต่ห้อง lab ถูกอะคัน (คานิลา โคชโลฟสกี้) บุกรุกและเอสเทลล์ถูกจับตัวไป เฮนรีบุกตลุยไปช่วยภริยาโดยมีจิมมี่ ( ชาร์ลโต คอปลีย์) คอยช่วยเหลือ แต่เขาก็จำจิมมี่ไม่ได้เช่นกัน
หนังเต็มไปด้วยฉากต่อสู้ไล่ล่ากันแบบ Non Stop ระหว่างเฮนรี่กับอะคันและสมุน รุนแรง จัดหนักและจัดเต็ม ประเภทเลือดสาดมันสมองกระจาย กระโหลกแบะ มีดเสียบคาหน้าผาก ใครชอบหนังแอคชั่นระห่ำแบบนี้ คงสะใจ สนุกและรู้สึกมัน แต่อีกมุม หนังดิบ เถื่อน และโหด ฉากโป๊เปลือย โจ่งแจ้ง จนไม่แปลกที่ถูกจัดเรท R ระดับ 18+
โชคดีที่การถ่ายทำลักษณะนี้ได้ภาพที่ไม่ค่อยชัดเจน ทำให้ความสยดสยองลดน้อยลง แต่ต้องยอมรับว่าเป็นหนังที่ฮาร์ดคอร์สมชื่อเรื่องจริงๆ
ความแปลกอีกอย่างของหนังคือ แม้เฮนรี่จะเป็นพระเอกของเรื่อง แต่ตลอดทั้งเรื่องผู้ชมจะไม่เห็นหน้าและได้ยินเสียงเฮนรีเลย เห็นแต่มือเท้าและภาพสะอิดสะเอียนที่เฮนรีแหวะท้องตัวเองเพื่อใส่พลังงานเข้าไปใน
บทเฮนรีต้องใช้สตันท์ที่มีสภาพร่างกายที่แข็งแรงแสดงแทนถึงสิบสองคน เพราะเป็นหนังแอคชั่นตลอดทั้งเรื่อง ฉากต่อสู้มีทั้งประเภทหนึ่งต่อประมาณร้อยคน ทั้งกระโดดจากที่สูง หรือขี่มอเตอร์ไซด์ไล่ล่า
แต่แอคชั่นเหล่านี้ไม่ค่อยใช้เทคนิคสร้างภาพ CGI แต่ใช้สตันท์แสดงเป็นส่วนใหญ่ และใช้เทคนิคภาพคอมพิวเตอร์ CGI ปรับปรุงให้ดีขึ้น ภาพที่ออกมาจึงค่อนข้างจะสะใจคอหนังแอคชั่น
หนังเรื่องนี้ขายความแปลกของการถ่ายทำ แม้จะโฆษณาว่าดูแล้วเสมือนอยู่ร่วมในเหตุการณ์หรือเป็นตัวเฮนรี แต่คนดูหลายคนกลับรู้สึกว่าไม่เหมือนกำลังดูหนัง เหมือนเล่นวีดิโอเกมมากกว่า
เนื้อหาไม่น่าสนใจ เละเทะไม่มีที่มาที่ไป ดีที่สุดในหนังน่าจะได้แก่ เพลงประกอบ มีเป็นสิบกว่าเพลงและหลากหลายอารมณ์ จนเกือบจะพูดได้ว่าเป็นหนังแอคชั่นผสมหนังเพลง ทั้งเพลงเพราะที่คุ้นหูแบบเพลง My Girl เพลงจังหวะคึกคักที่เข้ากับฉากการต่อสู้ เพลงที่ออกแนวกวนๆ
นี่อาจเป็นหนังยาวเรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายของผู้กำกับก็เป็นได้ เพราะความแปลกแบบนี้ หนังเรื่องอื่นน่าจะเอาไปเป็นแบบอย่างยาก
