| ผู้เขียน | สุรีย์ประภา |
|---|
On the Basis of Sex หนังสิทธิสตรีที่เข้มข้น
อคติทางเพศมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย ผู้หญิงเป็นเพศที่ถูกกำหนดให้มีบทบาททางสังคมที่ด้อยกว่าผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด แม้ในประเทศที่มักถูกยกเป็นตัวอย่างเรื่องสิทธิและเสรีภาพอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา
On the Basis of Sex เป็นหนังดรามา-ชีวประวัติ ที่เล่าเรื่องผู้หญิงสุดสตรอง รูธ เบเดอร์ กินสเบิร์ก (เฟลิซิตี้ โจนส์) ที่หนังโปรยว่า It was a man’s world so she changed it.
รูธ ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกันของผู้หญิงและผู้ชาย เป็นฮีโร่แถวหน้าของกลุ่มเฟมินิสต์สมัยประธานาธิบดีโอบามา 2009 – 2017 เธอติดอันดับผู้หญิง 1 ใน 100 คนที่ทรงอิทธิพลที่สุดประจำปี 2009 ของนิตยสาร Forbes และติดอันดับผู้หญิงแห่งปี 2012 ของนิตยสาร Glamour
หนังสนุก ชวนติดตาม ไม่น่าเบื่อแม้จะเป็นการสร้างจากชีวิตจริงของผู้หญิงที่คนดูรู้อยู่แล้วว่า ท้ายสุดเธอประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน
ความดีประการแรกของหนังขอยกให้แก่ผู้กำกับหญิงคนเก่ง มิมี ลีเดอร์ ที่เคยกำกับหนังแอคชั่นสุดระทึก The Peacemaker ที่มีจอร์จ คลูนีย์ กับ นิโคล คิดแมน แสดงนำ และ Deep Impact หนังมหันตภัยอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่กำลังจะพุ่งชนโลก ซึ่งเป็นหนังที่ทำให้เธอได้รางวัล Best Science Fiction Film
จากความสามารถในการกำกับหนังหลากหลายแนว ทำให้ลีเดอร์สามารถตีโจทย์หนังอัตชีวประวัติของ รูธ หรือ กีกิ หญิงแกร่ง รากฐานเป็นคนยิว ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ได้ออกมาอย่างน่าสนใจ
เป็นหนังที่ลีเดอร์ตั้งใจว่า “ไม่ได้ต้องการสร้างหนังชีวประวัติ แต่ต้องการสร้างให้ตัวละครของเธอ เป็นต้นฉบับของเรื่องราวการกลายมาเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ในยุคปัจจุบันของผู้หญิงที่ไม่ยอมให้คำว่า ‘ผู้หญิง’ มาเป็นกรงขังที่ทำให้เธอไม่สามารถแสดงความสามารถได้เต็มที่”
หนังเริ่มเรื่องด้วยการเล่าชีวิตของรูธที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ตั้งแต่การเรียนกฎหมายใน Harvard Law School ที่ถูกเพื่อนชายข่ม อาจารย์ดูถูก และมองข้ามเพียงเพราะเธอเป็นหญิง แม้ผลการเรียนจะเป็นเลิศ แต่ระยะแรกเธอก็ไม่สามารถจะเป็นทนายความตามความใฝ่ฝัน ต้องผันตัวไปเป็นอาจารย์สอนกฎหมายในมหาวิทยาลัย
แต่ด้วยการสนับสนุนของมาร์ติน (อาร์มี แฮมเมอร์) สามีของเธอ รูธได้เป็นทนายร่วมกับมาร์ติน ในการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทางเพศในคดีภาษี ผลของคดีนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่หนังสรุปว่า Her story made history.
เฟลิซิตี้ โจนส์ ในบทของรูธ มีการแสดงที่ทรงพลังสมศักดิ์ศรีที่เคยถูกเสนอชื่อชิงรางวัลสำคัญในหลายเวที ทั้งออสการ์ ลูกโลกทองคำ และบาฟต้า เธอได้มีโอกาสพูดคุยกับรูธตัวจริง ซึ่งทำให้เฟลิซิตี้สามารถถ่ายทอดบทบาทตัวละคร รูธ เบเดอร์ กินสเบิร์ก ให้คนดูสัมผัสได้ถึงสมญา “ความเป็นวีรสตรีนักปฏิรูปที่ไม่เคยสูญเสียไฟในตัวไป”
นักแสดงอีกคนที่สาวๆ ต้องแอบกรี๊ดคือ อาร์มี แฮมเมอร์ (จากหนัง Call Me By Your Name และ The Social Network) ในเรื่องนี้รับบทมาร์ติน สามีทนายความสุดหล่อ มาดเท่ ซึ่งเป็นทั้งพ่อที่อบอุ่นเข้าใจลูก และเป็นสามีที่สุขุม รอบคอบ คอยให้กำลังใจภริยาในทุกสถานการณ์
เป็นหนังสร้างจากชีวิตจริงที่ดูสนุก บทสนทนาเข็มข้นและเฉียบคม ฉากรูธขึ้นศาลเป็นทนายความคดีภาษีเพื่อต่อสู้ให้เกิดความเท่าเทียมในเรื่องเพศ เป็นฉากเด็ดที่แม้รู้ตอนจบ แต่การปะทะกันด้วยสติปัญญาของทั้งฝ่ายโจทย์และจำเลยดุเดือด จนอดลุ้นไม่ได้
ผู้เรียนมาทางกฎหมายน่าจะชอบหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่ถึงไม่เรียนมาก็สามารถดูหนังได้อย่างสนุก และประทับใจพลังหญิงที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อสิ่งที่เธอต้องการ เป็นการต่อสู้ที่มุ่งมั่นชาญฉลาด จนสามารถลดอคติทางเพศที่มองว่า ผู้หญิงเป็นได้แค่แม่ เมีย หรือแม่บ้าน เท่านั้น
