John Wick 3 – The Hustle หนังแอคชั่นภาคต่อสุดระทึกกับหนังตลกเบาหวิว

John Wick 3 - The Hustle หนังแอคชั่นภาคต่อสุดระทึกกับหนังตลกเบาหวิว

John Wick 3 – The Hustle หนังแอคชั่นภาคต่อสุดระทึกกับหนังตลกเบาหวิว

John Wick: Chapter 3 – Parabellum

John Wick ภาค 2 จบแบบให้แฟนหนังทั่วโลกใจจดใจจ่อว่า จอห์น วิค จะหนีจากนักฆ่าล่าค่าหัวทั่วทุกมุมโลกได้อย่างไร ในเมื่อเขาละเมิดกฎของสภาสูง ฆ่าคนสำคัญของสภาในพื้นที่โรงแรมคอนติเนนตัล ซึ่งมีกฎเหล็กห้ามฆ่าหรือก่อความรุนแรงในสถานที่แห่งนี้อย่างเด็ดขาด

วินสตัน (เอียน แม็คเชน) ผู้จัดการโรงแรม ซึ่งเป็นพันธมิตรของจอห์น ต่อเวลาให้จอห์นหนีไปก่อนหนึ่งชั่วโมง ถึงโทรบอกศูนย์สั่งการของสภาเรื่องการละเมิดกฎนี้

คำประกาศจากสภาสูงคือตัดหางปล่อยวัดและอับเปหิจอห์น วิค มีการตั้งค่าหัว 14 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมยกเลิกสิทธิทั้งหมดที่เขาเคยได้ เช่น การเข้าพักในโรงแรม สนับสนุนอาวุธปืน หรือชุดเกราะกันกระสุน

Advertisement

จอห์นต้องหนีกระเซอะกระเซิงโดยหวังพึ่งใครในนิวยอร์คซิตี้ไม่ได้ สิ่งที่เขาพอมีเพื่อช่วยตัวเอง คือ เหรียญทองที่ใช้แทนเงินในวงการนักฆ่า และพันธะสัญญาเลือด (เหรียญประทับด้วยเลือดคนที่เป็นหนี้บุญคุณเจ้าของเหรียญ ซึ่งหากเจ้าของเหรียญเรียกร้องความช่วยเหลือ เจ้าของเลือดไม่มีสิทธิปฏิเสธ)

โซเฟีย (ฮัลลี่ เบอร์รี่) เจ้าแม่คลับใหญ่ในคาซาบลังกา เป็นเจ้าของเลือดที่เหรียญของจอห์น จอห์นดั้นด้นไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือให้จอห์นได้พบกับ ดิ เอลเดอร์ ผู้ใหญ่สูงสุดของสภาสูง เพื่อขอล้างมลทิน

ดิ เอลเดอร์ รับคำขอโดยมีข้อแม้ว่าจอห์นต้องสังหารวินสตัน ผู้ละเมิดกฎและช่วยยื้อเวลาให้จอห์นหนีล่วงหน้าหนึ่งชั่วโมง

Advertisement

จอห์น วิค ทั้งสองภาคทำมาตรฐานไว้สูงมาก จากหนังเหตุผลตื้นๆ ฆ่าล้างแค้นเพราะหมาที่เมียรักให้ไว้ถูกฆ่าตาย กลายเป็นหนังเปิดโลกให้คนดูรู้จักจักรวาลนักฆ่าที่ทรงอิทธิพล และมีกฎเหล็กที่เหี้ยมโหด

แชด สตาเฮลสกี้ ผู้กำกับทั้ง 3 ภาค พูดถึงหนังของเขาว่า “หนังทุกภาคมันมีเหตุผลเฉพาะตัวของมัน ภาคแรกมันยากเพราะเรายังไม่เข้าใจว่าเราอยากจะทำอะไร ภาคที่ 2 พวกเราต้องวางโครงสร้างใหม่ของโลกที่ไม่ได้คิดมาก่อน (จักรวาลนักฆ่า) ภาค 3 เราขยายมันให้กว้างมากขึ้น นำเสนอความครีเอทีฟให้กับผู้ชม มันไม่ใช่แค่ยิ่งใหญ่ แต่มันต้องเจ๋งมากขึ้น”

John Wick ภาคนี้กลับมาอย่างสมการรอคอย ได้เห็นความยิ่งใหญ่ของจักรวาลนักฆ่า ที่เมืองใหญ่ทุกเมืองทั่วโลกล้วนมีสาขาของโรงแรมคอนติเนนตัล ที่เหล่าอาชญากรสามารถเข้าไปใช้บริการ

เมื่อนักฆ่ากลายเป็นผู้ถูกไล่ล่าเสียเอง หนังยิ่งทวีความดิบ เถื่อน โหด ของฉากการต่อสู้ที่ไม่มีคำว่าปราณี นักฆ่าที่ใกล้ตายถูกกระหน่ำให้ชัวร์ว่าตายแน่ๆ ทั้งเปิดหมวกกันน็อกยิงเจาะหัวซ้ำ ทั้งใช้มีดดาบแทงเจาะกะโหลก หนังดุเดือด เข้มข้น ทั้งซาดิสต์ สนุก และมันสะใจแบบ Non Stop

ศิลปะการต่อสู้เป็นเสมือนหัวใจหลักของหนังเรื่องนี้ ลีลาการจับปืนยิงปืนสมจริง ยิงไปเปลี่ยนแม็กซ์ไป การต่อสู้ประชิดตัวดุเดือด หักคอ หักแขน แตะผ่าหมากกระทืบซ้ำ ใช้สิ่งของใกล้มือทุกชนิดแม้แต่หนังสือเป็นอาวุธ จากฆ่าคนได้ด้วยดินสอ ภาคนี้แม้ไม่มีอาวุธ ก็ถอดเข็มขัดสู้ได้อย่างสุดมัน

หนังยกระดับความรุนแรงขึ้นจากสองภาคที่ผ่านมา ได้เห็นฉากแอคชั่นหลากหลายรูปแบบที่สดใหม่และไม่จำเจ การต่อสู้บนหลังม้า การไล่ล่าสุดระทึกด้วยบิ๊กไบก์ที่ใช้ดาบญี่ปุ่นเป็นอาวุธ การต่อสู้ในพิพิธภัณฑ์อาวุธที่เต็มไปด้วยมีดดาบโบราณ การปะทะกันในห้องกระจก

แถมครั้งนี้จอห์น วิค ไม่ได้มาคนเดียว แต่มี ฮัลลี่ เบอร์รี่ (ดาราออสการ์หญิงยอดเยี่ยมจากหนัง Monster‘s Ball ที่คนดูคุ้นเคยจากหนังชุด X-Men) มาร่วมแจม ในฉากสุดแสนมันที่เธอมีสุนัขพันธ์เบลเยี่ยม มาลินอยส์ 2 ตัว มาร่วมต่อสู้ด้วย

คีอานู รีฟส์ พูดถึงหนังจอห์น วิค ว่า “ถ้าเป็นหนังมาร์เวล ตัวเอกสามารถตายในการต่อสู้และกลับมาได้ แต่ถ้าเป็นจอห์น ผมอยากให้จอห์นมีความสุข อยากให้เขาได้เดินออกไปข้างนอก มองดูพระอาทิตย์ตกดิน เขาต่อสู้เพื่อชีวิตเขา หากการต่อสู้ของเขาจบและเขาชนะ เขาจะได้จดจำความรักที่มีต่อเฮเลน และเดินออกไปข้างนอกในยามพระอาทิตย์ตกดินได้”

John Wick ภาคนี้จบแบบที่คีอานูหวังไหม? ต้องไปดูกันเอง นี่เป็นหนังสองชั่วโมงกว่า ที่สนุก ระทึก และไม่มีฉากน่าเบื่อเลยแม้แต่วินาทีเดียว

คลิกอ่าน John Wick: Chapter 2 ไม่ใช่แฟนหนังแอ๊คชั่นก็ยังดูสนุก

The Hustle

สนใจหนังเรื่องนี้เพราะมี แอนน์ แฮทธาเวย์ นำแสดง รู้จักเธอครั้งแรกจากบทเจ้าหญิงใน The Princess Diaries สวยสง่าน่ารัก จนติดตามดูเรื่อยมา

นอกจากรับบทเจ้าหญิงหลายครั้ง หรือบทราชินีในหนัง Alice Through the Looking Glass (2016) ที่เธอได้ใจคนไทยแบบเต็มๆ เพราะชุดที่ใส่ไปโปรโมทหนังเป็นแบรนด์ไทย DISAYA แล้ว แอนน์แสดงหนังหลากหลายแนว

มาสเตอร์พีซของเธอ คือ Les Miserables ที่เธอร้องเพลงได้อย่างไพเราะและน่าประทับใจ จนสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมมาครอง

ก่อนแสดงเป็น โจเซฟิน เชสเตอร์ฟิลด์ สาวต้มตุ๋นมาดไฮโซในหนัง The Hustle แอนท์เคยรับบทสาว 18 มงกุฎในหนังจารกรรมต้มตุ๋น Ocean’s Eight ที่ลุคออกมาแนวเดียวกับโจเซฟินในเรื่องนี้ คือ สวยเริดเชิดหยิ่ง ใน The Hustle เธอใช้ความสวยแบบมีระดับ เล่ห์เลี่ยม และเสน่ห์ หลอกลวงหนุ่มใหญ่ในสังคมชั้นสูง

รีเบล วิลสัน สาวอ้วนที่ชอบเล่นบทรั่วๆ ตลกแบบเจ็บตัว ที่คนดูคุ้นเคยจากหนัง Pitch Perfect หลายภาค แสดงเป็น เพนนี สาวต้มตุ๋นระดับล่าง ที่หากินโดยตอดเหยื่อจากชายตามผับตามบาร์

สองสาวโคจรมาพบกัน มองตาก็รู้ว่าใครเป็นไง โจเซฟินถ่ายทอดกลเม็ดการต้มตุ๋นให้สาวบ้านๆ แบบเพนนี แต่เกิดศึกแย่งพื้นที่หากินกัน เดิมพันคือใครสามารถเอาเงินจากโธมัส (อเล็กซ์ ชาร์ป) หนุ่มหน้าซื่อเจ้าของแอปพลิเคชั่นดัง ห้าแสนเหรียญได้ก่อน ถือเป็นผู้ชนะต้องหลีกทางให้อีกคน

หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังคลาสสิค Dirty Rotten Scoundrels ซึ่งเวอร์ชั่นเดิมผู้ชายเป็นนักต้มตุ๋น มาภาคนี้ เปลี่ยนเป็นผู้หญิง

แม้จะได้ดาราสาวสวยแบบ แอนน์ แฮทธาเวย์ มาจับคู่กับสาวอ้วนสายฮา รีเบล วิลสันที่เรื่องนี้นอกจากจะแสดงเองแล้ว ยังนั่งแท่นผู้อำนวยการสร้างอีกด้วย แต่การต้มตุ๋นของสองสาว ไม่ได้อาศัยกลยุทธอะไรที่ทำให้รู้สึกว้าวหรือตื่นเต้น เทียบไม่ได้กับหนัง Ocean’s Eight ที่มีการวางแผนที่น่าสนใจ

สองสาวไม่ได้ใช้ความฉลาดเฉลียวอะไรเป็นพิเศษ โจเซฟินใช้แค่มาดเลิศหรูและเสน่ห์เย้ายวนใจเป็นเครื่องมือหากิน ขณะที่เพนนีก็ใช้มุขเดิมๆ หลอกลวงเรื่องน้องสาวแสนสวยที่ถูกจับตัวไป เพื่อหลอกชายใจอ่อนให้จ่ายเงินให้เธอ

แต่หนังบรรลุวัตถุประสงค์ของการเป็นหนังคอมเมดี้ ด้วยสรีระและการแสดงตลกแบบหลุดโลกของ รีเบล วิลสัน ที่เข้ากับบทแบบนี้ หนัง ฮา ตลก ทะลึ่งเกือบๆ ลามก (ขอบอกว่าไม่ใช่หนังตลกสำหรับเด็กอย่างเด็ดขาด รอบที่ดูมีคนพาเด็ก 8- 11 ขวบไปด้วย) และไม่ค่อยสมเหตุสมผล

ดูแล้วสงสัยว่าทำไมผู้ชายในหนังมันถึงโง่ได้ขนาดนี้ หนังมีหักมุมแต่ไม่ถึงกับเซอร์ไพรส์เพราะคนดูบางคนอาจเดาออก

ถ้าชอบ แอนน์ แฮทธาเวย์ ก็ไปดูเถอะ เธอสวยน่าดูแทบทุกอิริยาบถ บทแบบนี้แอนน์แสดงแบบสบายๆ จนไม่ค่อยสมศักดิ์ศรีดารารางวัลออสการ์สักเท่าไหร่ ส่วนรีเบล วิลสันก็มาแถวถนัด ตลกขายหุ่น ลีลาซ้ำๆ โฉ่งฉ่าง บ้าๆ บอๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image