| ผู้เขียน | สุรีย์ประภา |
|---|
Aladdin “อะลาดิน” ที่บันเทิง งดงาม และสนุกสนาน
ทันทีที่ดิสนีย์ปล่อยตัวอย่างอะลาดินเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่นออกมา วิลล์ สมิธ ในบทจีนี่ ยักษ์ตัวสีฟ้าในตะเกียงวิเศษ ก็ถูกวิจารณ์เละ บ้างก็บ่นคิดถึง โรบิน วิลเลียมส์ นักแสดงผู้ล่วงลับที่เคยพากย์เสียงจีนี่ในแอนิเมชั่นปี 1992 ได้อย่างน่าประทับใจ จนได้รางวัลลูกโลกทองคำเป็นกรณีพิเศษ
แต่ กาย ริชชี่ ผู้กำกับที่มีสไตล์หนังที่เป็นตัวของตัวเอง (เช่น Snatch, Sherlock Holmes, The Man from U.N.C.L.E., King Arthur: Legend of the Sword) ก็ไม่ได้หวั่นไหว ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า
“สิ่งที่ยอดเยี่ยมในบทจีนี่คือ การที่นักแสดงผู้สวมบทจะสร้างตัวละครนี้ให้เวอร์เกินจริง มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์และอยู่ที่ชั้นเชิงของนักแสดงว่า จะวาดลวดลายให้ตัวละครตัวนี้ออกมาในรูปแบบใด”
วิลล์ สมิธ ซึ่งชื่นชอบไอเดียของริชชี่ ที่ต้องการปฏิวัติหนังรีเมคอะลาดิน ก็บอกว่า “ผมมองเห็นว่า ผมน่าจะเติมอรรถรสในแบบฉบับของผมในส่วนไหน และจะให้เกียรติต่อความอาวรณ์และแสดงความเคารพที่มีต่อโรบินอย่างไร”
ทั้งยังพูดถึง โรบิน วิลเลียมส์ อีกว่า “ผมรู้ว่าจีนี่ไม่มีเท้า แต่รอยเท้าที่คุณได้ทิ้งไว้ มันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เท้าของผมจะวางทาบได้”
จีนี่ เวอร์ชั่นนี้ จึงไม่ได้เป็นแค่ยักษ์ในตะเกียงที่ดลบันดาลให้เจ้าของตะเกียงได้ในสิ่งที่ตนปรารถนาเท่านั้น แต่เป็นจีนี่ที่มีสีสันและอารมณ์แบบมนุษย์ ขี้เล่น ร่าเริง ตลก ทะเล้น มีอารมณ์โศกเศร้า และที่สำคัญมีความรัก คนรักของจีนี่คือใคร ไปหาคำตอบเอาเอง
วิลล์ สมิธ ทำให้หนัง Aladdin มีชีวิตชีวา เพลิดเพลินและดูสนุก มุขตลกเข้าท่าน่ารัก ทั้งร้องทั้งแร็ป ผสมลีลาอาหรับราตรี เป็นยักษ์จีนี่ที่ลูกเล่นแพรวพราย ช่างคิดช่างสอนและรู้จักให้คำแนะนำดีๆ ขี้เล่น จนเด็กๆ ดูแล้วต้องหลงรัก
หนังภาคนี้ค่อนข้างเคารพต้นฉบับที่เป็นแอนิเมชั่นปี 1992 มีทั้งความบันเทิงและทันสมัยมากขึ้น เจ้าหญิงจัสมิน (นาโอมิ สก็อตต์) เป็นเจ้าหญิงที่สตรองและมีความเป็นเฟมินิสต์สูง เธออยากเลือกคู่เองและอยากเป็นสุลต่าน “หัวใจของเธอมีไว้เพื่อประชาชนของเธอ” จัสมินหลบหนีออกนอกวังไม่ใช่เพื่อเที่ยวเล่น แต่เพื่อดูทุกข์สุขของประชาชนในเมือง
นอกจากวิลล์ สมิธ ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักแล้ว ตัวละครหลักตัวอื่นก็ถูกวิจารณ์ไม่ใช่น้อย แต่ถ้าไปดูจริงๆ จะเห็นว่า นาโอมิ สก็อตต์ เป็นเจ้าหญิงจัสมินที่งดงาม ทั้งรูปร่างหน้าตา คอสตูมอลังการช่วยเสริมให้เธอดูเป็นเจ้าหญิงที่งามสง่าและมีสมอง และยังเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ที่ร้องเพลงไพเราะมากคนหนึ่ง
หลายคนประทับใจเพลง A Whole New World (เพลงที่เคยคว้ารางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม) ที่อะลาดินร้องกับจัสมินขณะนั่งบนพรมวิเศษเที่ยวชมเมืองยามราตรี
มาคราวนี้มีเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่ Speechless (โดย อลัน เมนเคน ซึ่งเคยทำเพลงประกอบ Aladdin ฉบับแอนิเมชั่น แต่งร่วมกับ เบนจ์ พาเซก และจัสติน พอล เจ้าของรางวัลออสการ์จาก La La Land) นาโอมิ สามารถขับขานเพลงได้อย่างทรงพลังและไพเราะ จนหลายคนคาดว่าเพลงนี้น่าจะเป็นเพลงหนึ่งที่จะได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งต่อไป
มีนา มาซูด ในบทอะลาดินยามเป็นหัวขโมยในกรุงอัคราบาห์อาจจะดูธรรมดา แต่เวลาเข้าคู่กับจัสมิน ทั้งตอนเป็นหัวขโมยหรือเจ้าชายอาลี กลับกลายเป็นหนุ่มน้อยมีเสน่ห์ น่ารัก แถมร้องเพลงได้ดี
จาฟาร์ (มาร์เวน เคนซาริ) ตัวร้ายในเรื่องดูหล่อไปหน่อย แต่ท่าทางและสายตาเยือกเย็น ทำให้คนดูสัมผัสได้ถึงความอำมหิต เหี้ยมโหด
Aladdin เป็นหนังมิวสิคัลที่เพลงไพเราะ อลัน เมนเคน ดัดแปลงดนตรีให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น และแต่งเพลงใหม่เพิ่มอีกสองเพลง
ฉากสวยงามยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะฉากเพลง Prince Ali เอาความเป็นบอลลีวูด ใช้สีสันจัดจ้าน เครื่องแต่งกายสไตล์อาหรับ มาผสมผสานกับขบวนพาเหรดงานคาร์นิวัล ที่มีลีลาการเต้นทั้งระบำหน้าท้อง ฮิปฮอป และเบรกแดนซ์ เป็นฉากจัดเต็มที่น่าดู
อย่าไปติดยึดกับตัวอย่างที่เห็นแค่บางช่วงบางตอน ภาพรวมของ Aladdin เป็นหนังไลฟ์แอคชั่นที่น่าดูมาก โปรดักชันดี คอสตูมเลิศ สเปเชียลเอฟเฟกต์ตระการตา
ความเห็นส่วนตัวเห็นว่า เป็นหนังที่สร้างได้บันเทิง งดงาม สนุกสนานและดีกว่า Cinderella และ Beauty and the Beast เสียอีก
คลิกอ่าน “Beauty and the Beast” ความรักทำให้เรามองเห็นสิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใน
คลิกอ่าน King Arthur: Legend of the Sword พีเรียดแหวกแนว สนุกเกินคาด
