High Strung หนังน่าดูสำหรับคนรักดนตรี

High Strung หนังน่าดูสำหรับคนรักดนตรี

High Strung หนังน่าดูสำหรับคนรักดนตรี

เรื่องราวของความรักและความฝันของหญิงชายคู่หนึ่งที่ต่างคนต่างมีดนตรีในหัวใจ รูบี อดัมส์ (คีแนน แคมปา) เป็นนักเต้นนักเรียนทุนอนาคตไกลของสถาบันดนตรีชื่อดังของแมนฮัตตัน ที่เต้นบัลเล่ต์โดยยึดระเบียบแบบแผน เพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบในการเต้น ส่วน จอห์นนี แบล็คเวลล์ (นิโคลัส กาลิตไซน์) นักดนตรีหนุ่มโรบินฮูดจากอังกฤษที่ลักลอบอยู่อเมริกา ยังชีพด้วยการเล่นไวโอลินเปิดหมวกข้างถนน มีทัศนคติว่าการเรียนดนตรีในสถาบันดุริยางค์ศิลป์คือ “การทำตามกฎและการเมืองของโรงเรียนดัง ที่ยกย่องความสำเร็จมากกว่าศิลปะ”

High Strung นอกจากจะแปลว่าความตึงเครียดแล้ว ยังหมายถึงสายไวโอลินที่ขึงไว้แน่น ซึ่งน่าจะหมายถึงจอห์นนี่ ผู้เล่นดนตรีในแบบฉบับคนเจ้าอารมณ์ ในสไตล์ที่ตนอยากเล่นและเล่นเมื่อมีอารมณ์อยากเล่น โดยไม่ยอมอยู่ในกรอบใดๆ หนังโปรยว่า A Dance that didn’t fit in, A Musician who didn’t belong.

เข้าไปดูตอนแรกคิดว่าเป็นหนังแข่งขันเต้นรำเหมือนเรื่อง Step Up ความจริงไม่ใช่ การแข่งขันในหนังเรื่องนี้ใช้ชื่อว่า “String & Dance” การเล่นไวโอลินจึงเป็นประเด็นหลัก ซึ่งอาจจะมากกว่าการเต้นด้วยซ้ำ พระเอกนางเอกไม่ได้ลงแข่งขันเต้นรำร่วมกัน แต่พระเอกสีไวโอลินในสไตส์ที่ผสมผสานแนวเพลงทุกรูปแบบทั้งคลาสสิคและเพลงป๊อป นางเอกเต้นประกอบดนตรี โดยใช้เพลงป๊อปยุคใหม่ที่ดนตรีบีทแรง มีแสงสีและเอฟเฟตเร้าใจ แต่เป็นการสร้างท่าเต้นขึ้นใหม่ที่หลอมรวมกันระหว่างบัลเล่ต์อันอ่อนช้อย Contemporary Dance และ Hip Hop ที่แข็งแกร่งดุดัน

ดนตรีประกอบหนังเรื่องนี้ ยังทำลายขอบเขตของดนตรีทั่วๆ ไปที่คนคุ้นเคย ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะผู้กำกับหนังเรื่องนี้คือ ไมเคิล ดาเมียน อดีตนักดนตรีศิลปินเพลงป๊อปชื่อดังยุค 80s และนักแสดงละครบรอดเวย์ ที่จับมือกันกับภริยา จานิน ดาเมียน นักบัลเล่ต์ระดับนักเรียนทุนของโรงเรียนบัลเล่ต์ชื่อดัง Balachine’s School of American Ballet เพื่อร่วมกันสร้างและเขียนบทหนังเรื่องนี้

Advertisement

เนื่องจากเป็นหนังที่เกี่ยวกับดนตรีและการเต้นรำ พล็อตเรื่องจึงอาจจะอ่อน แต่คุ้มค่าสำหรับคนชอบระบำรำฟ้อน ทั้งการเต้นแดนซ์แบทเทิลระหว่างกลุ่มคนงานกลางชานชาลารถไฟใต้ดิน ซึ่งออกแบบท่าเต้นโดย เดฟ สกอตต์ จากหนัง Step Up 2 แถมเขาร่วมแจมโดยเต้นโชว์อยู่ในกลุ่มคนงาน

การเต้นบัลเล่ต์ Swan Lake ลีลาหงส์สี่ตัว บนโต๊ะในผับแต่ดัดแปลงจังหวะให้คึกคัก การเต้นแทงโก้ระหว่างจอห์นนีและรูบี ที่สวยงามชวนให้นึกไปถึงหนังเก่าคลาสสิคมากเรื่อง Scent of Woman ที่อัล ปาชิโนเต้นแทงโก้กับเพลงไวโอลินที่หวานหยดย้อย การดวลไวโอลินระหว่างจอห์นนี่กับไคล์ (ริชาร์ด ซาวธ์เกท) คู่แข่งทั้งเรื่องดนตรีและความรัก

แต่สุดยอดต้องยกให้ฉากสุดท้าย การแข่งขัน String & Dance ที่กล้าฉีกกฎเกณฑ์ทางดนตรี เอาเครื่องสายผสานดนตรีบีทแดนซ์แนว Hip Hop เปิดฉากสร้างความฮึกเหิมด้วยกลอง ตามด้วยเสียงหวานของไวโอลิน จากทำนองช้าๆ ไปสู่จังหวะที่ร้อนแรงแฝงความไพเราะ ในลีลาที่กรรมการบางคนมีความเห็นว่า “เอาแต่ใจตัวเองมากๆ”

นักแสดงในหนังเรื่องนี้เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เล่นจริง เต้นจริง ไม่ได้ใช้ตัวแสดงแทน นางเอกเป็นนักบัลเล่ต์ ส่วนพระเอกเคยเล่นแต่กีต้าร์ จึงต้องเข้าคอร์สติวเข้มเล่นไวโอลินและฝึกแทงโก้ ถ้าดูลีลาสีไวโอลินของพระเอกไม่รู้เลยว่านี่เป็นมือใหม่เพิ่งฝึกไวโอลิน มาดเฉียบทั้งลีลาที่อ่อนหวาน และพลุ่งพล่าน ซ้ำหล่อมากๆ ขนตายาวสวยกว่าผู้หญิง เป็นหนุ่มหล่อแบบที่สาวๆ ยอมทำทุกอย่างเพื่อขอแลกรอยยิ้ม

เชียร์ให้ไปดู เป็นหนังมิวสิเคิลที่ดนตรีไพเราะ เพลงบางเพลงคุ้นเคย บางเพลงแต่งขึ้นเพื่อหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ เป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับศิลปะการดนตรี และสอนคนที่รักดนตรีว่า อย่ากังวลเรื่องความไม่สมบูรณ์แบบ เพราะความไม่สมบูรณ์แบบนี่แหละ จะเป็นแรงผลักให้เราก้าวไปข้างหน้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image