Terminator: Dark Fate ไม่แปลกใหม่

Terminator: Dark Fate ไม่แปลกใหม่

Terminator: Dark Fate ไม่แปลกใหม่

หนัง Terminator มีทั้งหมดห้าภาค ไม่นับทีวีซีรี่ส์ Terminator: The Sarah Connor Chronicles แต่ภาคที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือสองภาคแรก The Terminator (1984) และ ภาคที่สอง Terminator 2: Judgment Day (1991) ซึ่งเป็นฝีมือกำกับของเจมส์ คาเมรอน

ทั้งสองภาคเป็นหนังหุ่นสังหารที่ถูกยกให้เป็นตำนานหนังแอคชั่น เพราะครบทุกรส ทั้งสนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก แม้ Terminator จะมีภาคต่ออีกสามภาค Rise of Machines (2003) Salvation (2009) และ Genisys (2013) แต่ทั้งสามภาค ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเพราะเนื้อหาออกทะเลเกินไป

คนดูหลายคนมีความเห็นตรงกันว่า หนัง Terminator จบอย่างสมบูรณ์แล้วในภาคสอง ซาราห์ และลูกชาย จอห์น คอนเนอร์ สามารถทำลายจุดกำเนิดของสกายเน็ต และหุ่นสังหารทุกรุ่นได้อย่างสิ้นซาก

มีฉากจบที่เป็นภาพจำคือ T-800 (อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์) ชูนิ้วโป้งอำลาสองคนแม่ลูก ก่อนทำลายตัวเองในบ่อหลอมเหล็ก เพื่อไม่ให้มีชิ้นส่วนหลงเหลือไปต่อเชื้อสร้างใหม่ในอนาคต

Advertisement

เมื่อมีข่าวว่า เจมส์ คาเมรอน กลับมาสานต่องานตัวเองโดยเป็นโปรดิวเซอร์ และเขียนบท Terminator: Dark Fate ที่เป็นภาคต่อจาก Judgment Day แฟนคลับจึงให้ความสนใจกันมากว่าคาเมรอนจะเล่าเรื่อง Terminator ภาคนี้อย่างไร

โดยเฉพาะเมื่อมีการดึงนักแสดงเก่าจากภาคหนึ่งและสอง คือ อาร์โนลด์ (T-800) และ ลินดา แฮมิลตัน ในบท ซาราห์ คอนเนอร์ กลับมา โดยให้ ทิม มิลเลอร์ ผู้กำกับหนังที่ประสบความสำเร็จจาก Deadpool มากำกับแทน

คาเมรอนให้สัมภาษณ์ถึงหนังเรื่องนี้ว่า “ยังคงโทนของภาพยนตร์เดิม เป็นเรท R เข้มข้น จัดหนัก และเดินตามแบบฉบับภาคหนึ่งและ ภาคสอง”

Advertisement

นั่นคือเล่าเรื่องหุ่นสังหารจากอนาคตที่ถูกส่งตัวย้อนอดีตมาเพื่อกำจัดคนในปัจจุบัน และมีคนหรือหุ่นยนต์จากอนาคตที่ถูกส่งตามมา เพื่อคอยปกป้องคนที่เป็นเป้าหมายในปัจจุบัน

ในภาคนี้ หุ่นสังหาร คือ Rev-9 มาตัวเดียวแต่เหมือนมาสองตัว เพราะสามารถแยกร่างเป็นหุ่นเหล็กอีกตัวได้ ทุกส่วนในร่างกายใช้เป็นอาวุธได้หมด และเหมือนหุ่นตัวร้าย T-1000 ในภาคสอง ที่เป็นโลหะเหลวและสามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ที่มันสัมผัสหรือฆ่าได้

ผู้รับบทนี้คือ แกเบรียล ลูน่า (จาก Agent of S.H.I.E.L.D.) แม้พิษสงร้ายกาจและเทคโนโลยีล้ำกว่า T-1000 แต่บทบาทการแสดงยังไม่น่าจดจำเท่า โรเบิร์ต แพททริค ผู้สวมบท T-1000 ใน Judgment Day

ผู้ทำหน้าที่ปกป้องเป้าหมายครั้งนี้ไม่ใช่หุ่นยนต์ แต่เป็นทหารหญิงจากโลกอนาคตชื่อเกรซ (แมกเคนซี่ เดวิส) ที่ออกรบกับหุ่นยนต์จนบาดเจ็บ และยอมเปลี่ยนร่างกายตนเองเป็นมนุษย์ดัดแปลง เพื่อเพิ่มพลังให้ร่างกายมีความแข็งแกร่งทนทานกว่ามนุษย์ธรรมดา

เป็นตัวละครใหม่ที่มาดเท่ ทรงพลัง จนอยากเอาใจช่วยให้เธอมีอนาคตในการแสดงมากกว่าบทในอดีตที่ผ่านมา (ที่เธอเคยแสดงใน The Martian และ Blade Runner 2049)

เป้าหมายที่จะต้องถูกกำจัดและได้รับการปกป้อง คือ แดนี่ รามอส (นาตาลี เรเยส) หญิงสาวชนชั้นแรงงานธรรมดา เธอไม่ได้มีทายาทที่จะกลายเป็นผู้นำของมนุษยชาติในอนาคต เช่น ซาราห์ คอนเนอร์ แต่สำคัญอย่างไรต้องไปดูเอง บทบาทของเธอยังส่งพลังออกมาให้คนดูเกิดความประทับใจได้ไม่เท่าซาราห์ในวัยสาว

ซาราห์ และ T-800 เป็นฝ่ายช่วยปกป้องแดนี่ การกลับมาของซาราห์ เท่และยอมรับได้ แต่การกลับมาของ T-800 ยังไม่ค่อยสมเหตุสมผล และยังไม่เนียนพอ

Terminator: Dark Fate เป็นหนังที่ถ้าดูอย่างเอามัน ไม่คิดมาก ก็พอจะสนุก กับฉากแอคชั่นจัดเต็ม ตูมตาม

แต่ถ้าดูเนื้อหาและการเล่าเรื่อง ก็ขอบอกว่าไม่มีอะไรแปลกใหม่ พล็อตคล้ายเอาหนังภาคหนึ่งกับภาคสองมาผสมกัน และเพิ่มตัวละครให้มากขึ้น คนที่ไม่เคยดู Terminator มาก่อน คงจะชอบ แต่คนที่เคยดูก็คงรู้สึกว่าเนื้อหาเป็นแบบเดิมๆ

แต่ที่อยากเตือนคืออย่าเข้าโรงช้าเป็นเด็ดขาด เพราะจุดเปลี่ยนของเรื่องเริ่มต้นในตอนแรก หากเข้าช้าการปะติดปะต่อเรื่องราวอาจสะดุด ทำให้การดูหนังเสียอรรถรสไปอย่างน่าเสียดาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image