‘สุจิตต์-ขรรค์ชัย’ ใส่เต็มเหนี่ยว ยัน ‘เมืองราด’ ของพ่อขุนผาเมืองอยู่ ‘สูงเนิน’ โคราช

‘สุจิตต์-ขรรค์ชัย’ ใส่เต็มเหนี่ยว ยัน ‘เมืองราด’ ของพ่อขุนผาเมืองอยู่ ‘สูงเนิน’ โคราช

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่วัดธรรมจักรเสมาราม อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราขสีมา นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) และนายสุจิตต์ วงษ์เทศ คอลัมนิสต์เครือมติชน ถ่ายทำรายการ ‘ขรรค์ชัย-สุจิตต์ ทอดน่องท่องเที่ยว’ ตอน ‘โคราชเก่า สูงเนิน นครราชสีมา เมืองราด พ่อขุนผาเมือง ต้นประวัติศาสตร์ อยุธยา, สุโขทัย’ ดำเนินรายการโดย นายเอกภัทร์ เชิดธรรมธร

นายสุจิตต์กล่าวว่า พื้นที่บริเวณนี้ นายขรรค์ชัยเคยเดินทางมาสำรวจเมื่อ พ.ศ.2512 พร้อมหม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล และศาสตราจารย์พิเศษศรีศักร วัลลิโภดม ในขณะนั้นยังคิดว่าเป็นพระพุทธรูปประทับยืน จึงมีการนำส่วนพระบาทตั้งขึ้นดังปรากฏในภาพถ่ายเก่า แต่ต่อมาทราบว่าเป็นพระนอน จึงนำส่วนพระบาทวางตะแคง พระเศียรหันไปทางทิศเหนือ ที่สำคัญที่สุดคือเป็นพระพุทธรูปหินทรายสมัยทวารวดีอายุกว่า 1,000 ปีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

“วัดพระนอนอยู่ภายในเมืองเสมาทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ เมืองนี้มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วยคูน้ำคันดิน 2 วง เป็นเมืองสำคัญ หากพัฒนาให้ดีจะเป็นปอดและหัวใจให้จังหวัดนครราชสีมา แต่สิ่งที่น่าห่วงต่อไปคือการถูกย่ำยีด้วยการคมนาคมสมัยใหม่ในอนาคตซึ่งเป็นเรื่องต้องระวัง ขณะนี้โคราชเติบโตไม่หยุด ซึ่งถูกต้องแล้ว เป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตาม ต้องให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น อย่างเมืองเสมา ซี่งมีนักวิชาการคนสำคัญๆ ของไทยเชื่อว่าคือเมืองราดของพ่อขุนผาเมืองในจารึกสุโขทัย ส่วนสูงเนินคือเมืองโคราชเก่า

Advertisement

“พื้นที่แถบนี้มีผู้อยู่อาศัยสืบเนื่องมา 2,500 ปี เขตอำเภอสูงเนินทั้งหมดมีคนหลายเผ่าพันธุ์ นับถือศาสนาผี ไม่ปรากฏหลักฐานว่าพูดภาษาอะไร แต่นับเป็นบรรพชนคนไทย หลักฐานสำคัญมากคือหินตั้ง ต่อมาพัฒนาเป็นเสมาหินซึ่งไม่มีในอินเดียและลังกา เป็นพัฒนาการของอีสานโดยเฉพาะ มีไว้สำหรับล้อมเขตศักดิ์สิทธิ์เป็นวงกลม ลักษณะเป็นลานกลางบ้านสำหรับทำพิธีกรรมก่อนรับพุทธศาสนา” นายสุจิตต์กล่าว

จากนั้น นายขรรค์ชัยและนายสุจิตต์เดินทางไปยัง ‘ปราสาทเมืองเก่า’ อโรคยศาลาสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โดยมีครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ โรงเรียนสูงเนิน, ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเมืองเก่า รวมถึงชาวบ้านและภิกษุสงฆ์ในท้องถิ่นร่วมรับฟังด้วยความสนใจ

Advertisement

นายสุจิตต์กล่าวว่า เรื่องราวเกี่ยวกับพ่อเมืองหายไปในประวัติศาสตร์ แต่เชื่อว่าพระองค์ไม่ได้ทรงหายไปไหน ทว่า ไปครองเมืองที่ใหญ่กว่า นั่นคือกรุงศรีอยุธยา มีร่องรอยปรากฏในพงศาวดารเหนือซึ่งกล่าวถึง ‘พระยาแกรก’ ซึ่งได้รับพระราชทานพระแสงขรรค์ชัยศรีจากพระเจ้าแผ่นดินเขมร ขึ้นเป็นกษัตริย์พระนามว่า ‘พระเจ้าสินธพอมรินทร์’ ที่ปราสาทเมืองเก่า เคยพบจารึกสำคัญของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โดยเมื่อราว 2 ปีก่อนพยายามตามหาเพื่อใช้รายงานข่าว แต่ไม่พบ กรมศิลปากรก็ตอบไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหน ตนติดตามทั้งในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (พช.) ต่างๆ แต่ก็ยังไม่พบ สุดท้ายทราบว่าอยู่ในคลังเก็บโบราณวัตถุของ พช.มหาวีรวงศ์ สำหรับสาเหตุที่ไม่พบในการค้นหาเกิดจากความผิดพลาดของการจัดทำทะเบียนโบราณวัตถุ โดยถูกบันทึกแหล่งที่มาว่า ‘ปราสาทเมืองแขก’

นายสุจิตต์กล่าวว่า ปราสาทในลักษณะเดียวกันนี้ยังพบเป็นระยะๆ ตั้งแต่อำเภอสูงเนิน อำเภอสีคิ้ว และอำเภอปักธงชัย นับเป็นพื้นที่สำคัญ สำหรับเหตุผลที่นักวิชาการเชื่อว่าเมืองเสมาคือเมืองราดในจารึกสุโขทัยตามที่กล่าวไปในตอนนั้น เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งเมืองราดต้องใกล้กัมพูชา จารึกวัดศรีชุมระบุว่ากษัตริย์เขมรพระราชทานสิ่งของให้พ่อขุนผาเมือง รวมถึงพระธิดาพระองค์หนึ่ง ซึ่งในอดีตผู้หญิงมีส่วนในการเชื่อมโยงอำนาจผ่านการแต่งงานนั่นเอง

นายขรรค์ชัยกล่าวว่า ตนเดินทางมาวัดธรรมจักรเสมารามครั้งแรกในรอบ 50 ปี นับแต่การเดินทางมาสำรวจเมื่อ พ.ศ.2512 อยากให้ภาครัฐและท้องถิ่นให้ความสำคัญกับแหล่งน้ำในพื้นที่ ทั้งแม่น้ำลำคลอง รวมถึงคูน้ำคันดินของเมืองโบราณ ควรมีการชักน้ำเข้ามาให้ร่มรื่น อุดมสมบูรณ์ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในปัจจุบัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image