Now You See Me 2 หนังภาคต่อที่ไม่ธรรมดา

Now You See Me 2 หนังภาคต่อที่ไม่ธรรมดา

Now You See Me 2 หนังภาคต่อที่ไม่ธรรมดา

ใครว่าไงไม่รู้ แต่เราว่า Now You See Me 2 นี้สนุกกว่าภาคแรก การผสมผสานมายากลกับการโจรกรรมพร้อมกับหลอกล่อคนดูและตัวละครในเรื่อง ทำให้หนังภาคแรกน่าสนใจและแตกต่างกับหนังอาชญากรรมอื่นๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีภาคต่อของหนัง เพราะตอนจบภาคแรกก็เหมือนทุกอย่างลงตัวแล้ว

แต่ก็เป็นธรรมดาของหนังที่เมื่อภาคแรกประสบความสำเร็จทั้งในแง่รายได้ และยังได้รางวัล People’s Choice Award สาขาภาพยนตร์ทริลเลอร์ยอดเยี่ยม หนังภาคสองจึงมีตามมา

จตุรอาชา (The Four Horsemen) แอตลาส (เจสซี ไอเซนเบิร์ก) เมอร์ริท (วู้ดดี้ ฮาเรลลัน) แจ๊ค (เดฟ ฟรังโก) และลูล่า (ลิซซี แคปแลน) สาวมายากลคนใหม่ พร้อมกับดิแลน (มาร์ค รัฟฟาโล) FBI ผู้อยู่เบื้องหลังจตุรอาชา ออกโรงอีกแล้ว หลังจากต้องกบดานอยู่เป็นปีหลังจากปล้นธนาคารของอาเธอร์ (ไมเคิล เคน) และชำระแค้นแบรดลีย์ (มอร์แกน ฟรีแมน) ที่ทำให้พ่อดิแลนต้องตาย

แต่คราวนี้ แทนที่จตุรอาชาจะเป็นฝ่ายเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของคนอื่น กลับกลายเป็นพวกเขาและดิแลนถูกตลบหลัง ดิแลนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ในขณะที่ผู้ร่วมทีมทั้งสี่ถูกซ้อนกลส่งไปมาเก๊า ที่นี่พวกเขาได้พบกับวอลเตอร์ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) อัจฉริยะสติเฟื่องที่หลงใหลมายากลแต่ขาดพรสวรรค์ จึงหันหน้าสู่วิทยาศาสตร์และสร้างมายากลด้วยเทคโนโลยี

Advertisement

วอลเตอร์เจ็บแค้นแทนพ่อ (อาเธอร์) ที่ถูกจตุรอาชาปล้นแบงค์ ทั้งสี่ถูกบังคับให้โจรกรรมไมโครชิปที่สามารถเจาะคอมพิวเตอร์ได้ทั่วโลก งานมหาโหดที่พวกเขาต้องใช้มายากลและแผนซ้อนแผนเพื่อเอาตัวรอด จากการเอาคืนของฝ่ายอาเธอร์ และแบรดลีย์

หนังเรื่องนี้รวมนักแสดงดังมากฝีมือหลายคน แดเนียล แรดคลิฟฟ์ สลัดคราบพ่อมดน้อยแฮรี พอตเตอร์สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่บทน้อยไปหน่อย ศิลปินขวัญใจแฟนเพลงไต้หวันอย่าง เจย์ โชว์ แทบไม่มีบทอะไรเลย แต่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ถึงอย่างไรก็เป็นกำไรคนดู ได้ดูดาราดังโดยเสียตังเท่าเดิม

ทีมจตุรอาชาทั้งสี่เข้าขากันดี ลูกเล่นแพรวพราว มายากลภาคนี้เน้นทริคไพ่ ฉากสนุกที่ชวนลุ้นและเป็นไฮไลท์ของเรื่องคือฉากขโมยชิปขนาดเท่าไพ่ และส่งไพ่ต่อกันไปมาในห้องทดลอง เราได้เห็น Team Work ที่ทั้งน่ารักและน่าขัน อีกฉากที่เท่มากคือ ฉาก Rain Trick แอตลาสควบคุมฝนให้หยุดกลางอากาศ ให้ลอยกลับขึ้นฟ้า ด้วยท่าทีโดดเด่นมีพลังและมาดเป็นนักมายากลจริงๆ

Advertisement

ปรกติการถ่ายทำหนังมายากลมักจะใช้ CG หรือการตัดต่อเข้าช่วย แต่ผู้กำกับบอกว่า

“ผู้ชมต้องรู้สึกกับมายากลในเรื่องนี้ เหมือนเห็นมันแสดงอยู่ตรงหน้าจริงๆ …. เราตัดสินใจแสดงมายากลจริงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยฝึกนักแสดงให้เล่นกลเหล่านั้นได้จริงๆ สิ่งที่สนุกกว่านั้นคือ มีการเฉลยด้วยว่า ทำขึ้นมาได้อย่างไร”

นอกจากจะแสดงมายากลจริงๆ แล้ว แสงสี สเปเชียล เอฟเฟคท์ และดนตรีประกอบ ที่ใส่เข้าไปก็เร้าใจมาก เป็นการยกระดับขีดจำกัดของมายากลบนเวที สู่ปฏิบัติกลสุดเฉียบ ที่ยิ่งใหญ่บนจอภาพยนตร์

ทีมงานยังได้รวบรวมนักมายากลชั้นยอดมาช่วยในขั้นตอนต่างๆ ทั้งนักสะกดจิตชื่อดังอย่าง คีธ แบร์รี่ ซึ่งให้ความเห็นด้านเทคนิค และนักมายากลที่คนรู้จักทั่วโลกอย่าง เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ ที่เข้ามาร่วมการผลิตและการร่างฉากแต่ละฉากขึ้นมา

การปรากฏตัวของเหล่าจตุรอาชาคราวนี้ ส่วนใหญ่เป็นการแสดงกลางท้องถนนและที่สาธารณะ ไม่ใช่บนเวทีเหมือนภาคที่แล้ว ยิ่งทำให้หนังสนุก ชวนติดตาม และน่าค้นหา เรารู้ว่าหลักของการเล่นกลคือหลอกล่อให้คนดูหลงทาง เบนความสนใจคนดูให้ดูสิ่งที่ไม่สำคัญ เพื่อนักมายากลจะเล่นกลสิ่งสำคัญ

แต่ทั้งๆ ที่รู้ ทั้งคนดูและตัวละครในเรื่องก็ยังถูกหลอก ฉากหนีเอาตัวรอดการถูกจับกุมของดิแลนเป็นอีกฉากที่สนุก ไม่ใช่หนีด้วยการต่อสู้ แต่ใช้มายากลมาช่วยสกัดกั้นการถูกจับ เช่น ใช้กระจกสร้างภาพลวงตาให้ไขว้เขว พ่นไฟจากปาก เป็นการหนีที่เก๋ เท่ น่าดูมาก

บทหนังเข้มข้น ผสมผสานเรื่องจริงกับความเหลือเชื่อของมายากล และยังรักษาแนวเดิมคือหักมุมตอนจบ คนดูถูกหลอกแล้วหลอกอีก เมื่อมีการเฉลยทริค แล้วย้อนไปคิดตาม บางอย่างมันอาจไม่สมเหตุสมผล แต่เอาเถอะมันสนุกก็แล้วกัน

หนังภาคแรกไม่ทำให้เรารู้สึกว่าจะมีภาคต่อไป แต่ภาคนี้คนดูจะเกิดความรู้สึกผูกพันกับตัวละครมากขึ้น และคงต้องติดตามดูภาคต่อไปอย่างแน่นอน เป็นหนังบันเทิงที่อย่าคิดมากหรือมองหาเหตุผล ไปร่วมถูกหลอกและพิสูจน์คำพูดแบรดลีย์ที่ว่า

“ทุกสิ่งมีอะไรมากกว่าที่เห็นเสมอ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image