ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
สืบเนื่องจากกระแสฮือฮาเรื่องการพบพระมาลาสมเด็จพระนเรศวร โดยเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. มีการกล่าวอ้างว่า มีการพบพระมาลาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่วัดพระธาตุเวียงแหง (วัดกองมู) บ้านป่าไผ่ ต.เมืองแหง อ.เวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมานักค้นคว้าด้านประวัติศาสตร์ อาทิ นายสุจิตต์ วงษ์เทศ , นายสุเจน กรรพฤทธิ์ และนายสมฤทธิ์ ลือชัยได้ออกมาคัดค้านว่า เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ อีกทั้งมาลามีสภาพสมบูรณ์มาก ทั้งที่พระนเรศวรสวรรคตไปนานกว่า 400 ปีแล้ว ที่สำคัญคือรูปแบบของมาลามีลักษณะคล้าย “กุ๊บละแอ” ซึ่งเป็นหมวกในวัฒนธรรมไทใหญ่
ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน นายสมฤทธิ์ ลือชัย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า หลังจากที่ตนคัดค้านเรื่องดังกล่าว ได้มีผู้ส่งภาพหมวกที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันมาให้เป็นจำนวนมาก เพื่อยืนยันว่าปรากฏอยู่ในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ เช่น วัดพระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง, วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย ไม่ใช่เฉพาะ “เวียงแหง”
นอกจากนี้ ยังมีภาพที่แสดงให้เห็นว่าหมวกดังกล่าวถูกใช้ในการ “ฟ้อนผี” รวมถึงในงานพิธีศพเจ้าเมืองอุบลอีกด้วย
นายสมฤทธิ์ ยังระบุด้วยว่า อย่าด่วนสรุปว่าหมวกใบดังกล่าวที่เวียงแหงคือพระมาลา มิฉะนั้น “ปู่เหงซาววา” ซึ่งเป็นบรรพชนของชาวไทใหญ่ที่มาตั้งถิ่นฐานรุ่นแรกๆในเวียงแหงจะโกรธได้