โผล่อีก ! “โพธิสัตว์” บ.ต่างชาติเปิดประมูลที่ปารีส 21-22 มิ.ย.นี้ “ทนงศักดิ์” เชื่อของไทย

เศียรพระอวโลกิเตศวรสัมฤทธิ์ ขนาด 11 ซม. อายุ 1,300 ปี ที่บริษัทคริสตีส์เปิดประมูลระหว่าง 21-22 มิ.ย.นี้ที่กรุงปารีส โดยระบุว่าพบที่กัมพูชา แต่นักวิชาการไทยบางรายเชื่อว่าเป็น “โพธิสัตว์ประโคนชัย” ในที่ราบสูงโคราช (ภาพจาก http://www.christies.com)

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทคริสตี้ส์ ซึ่งเป็นบริษัทประมูลมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ จะนำพระเศียรของโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสัมฤทธิ์ขนาด 11 ซม. อายุราว 1,300 ปี ออกประมูลที่กรุงปารีส ระหว่างวันที่ 21-22 มิถุนายนนี้ ด้วยมีราคาประเมิน 8,000-12,000 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราว 320,000-480,000 บาท โดยระบุว่าเป็นโบราณวัตถุที่พบในประเทศกัมพูชา แต่มีแหล่งที่มาจากกรุงเทพ เมื่อ 18 พฤศจิกายน ค.ศ.1969 เป็นสมบัติของนักสะสมชาวฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม นักวิชาการไทยบางรายเชื่อว่าเป็นโพธิสัตว์ในกลุ่มศิลปะแบบประโคนชัย ที่พบทางภาคอีสานของไทย ซึ่งเชื่อว่ามีจำนวนราว 300 องค์ โดยถูกลักลอบนำออกไปยังต่างประเทศเมื่อราว 50 ปีก่อน เพราะรูปแบบศิลปะของประติมากรรมที่ถูกนำมาประมูลนี้ไม่พบในกัมพูชา

นายทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักวิชาการอิสระ ผู้เคลื่อนไหวทวงคืนโพธิสัตว์ประโคนชัย กล่าวว่า ตนได้เห็นภาพจากเวปไซต์ของบริษัทประมูลแล้ว หากพิจารณาจากรูปแบบศิลปะ เชื่อว่าเป็นโพธิสัตว์ประโคนชัยซึ่งพบเฉพาะที่ราบสูงโคราช เนื่องจากศิลปกรรมกลุ่มนี้มีลักษณะพิเศษ ไม่พบที่กัมพูชา แต่มักเกิดความเข้าใจผิด เพราะมีการผสมผสานศิลปะเขมร

“เศียรนี้ มีทรงผมที่เรียกว่าชฎามงกุฎ คือเป็นมวยผมถักแล้วปล่อยให้ห้อยตกลงมา มีมุกประดับที่มวยผมด้วย หากสังเกตพระพักตร์ดูจะเห็นว่าเป็นหน้าตาแบบทวารวดีผสมศิลปะเขมร ซึ่งแน่นอนเลยว่าเป็นศิลปะกลุ่มประโคนชัยในที่ราบสูงโคราชของไทย ไม่ใช่ของกัมพูชา แต่คนมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นของกัมพูชา เพราะมีศิลปะเขมรและศิลปะจามผสมเข้าไปในศิลปท้องถิ่นที่เป็นศิลปะแบบทวารวดี กลายเป็นลักษณะเฉพาะ” นายทนงศักดิ์กล่าว

Advertisement
ทนงศักดิ์ หาญวงษ์
ทนงศักดิ์ หาญวงษ์

นายทนงศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าโบราณวัตถุชิ้นนี้ ไม่ได้ถูกลักลอบนำเข้าไปในกัมพูชาแล้วจึงส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 แต่น่าจะถูกลักลอบนำออกจากประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย โดยส่งไปในยุโรปโดยตรง แต่ต้องการหลบเลี่ยงที่จะใช้คำว่า “ประโคนชัย” อาจเพราะทราบว่ามีกลุ่มที่พยายามทวงคืนโบราณวัตถุ ซึ่งตนยืนยันว่า หากประเทศไทยต้องการให้ความสำคัญกับแหล่งมรดกโลกในเส้นทางอารยธรรมปราสาทหินพนมรุ้ง เมืองต่ำ พิมาย รวมถึงการเชื่อมโยงไปถึงเมืองพระนครในกัมพูชา ควรนำโพธิสัตว์ประโคนชัยกลับมา โดยเฉพาะพระอวโลกิเตศวรที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทน นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ซึ่งในป้ายจัดแสดงระบุชัดเจนว่ามาจากปราสาทปลายบัด 2 อ.ละหานทราย (ปัจจุบัน อ.เฉลิมพระเกียรติ) จ.บุรีรัมย์ เพราะเป็นพยานหลักฐานในด้านความรุ่งเรืองและมั่นคงของพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ หรือวัชรยาน ในที่ราบสูงโคราช

“โบราณวัตถุกลุ่มนี้สะท้อนให้เห็นว่าพุทธศาสนาที่มั่นคงที่สุดในบริเวณที่ราบสูงโคราชของไทยมีอิทธิพลสูงยิ่งกว่าฮินดูในฝั่งกัมพูชา เพราะฉะนั้นการได้รับรู้ข้อมูลของศิลปกรรมกลุ่มนี้ทั้งหมดนั่นหมายถึงว่าหลักฐานที่แสดงออกของชุมชน ที่ตั้งบริเวณที่ราบสูงโคราชทั้งหมดจึงพัฒนาเป็นราชวงศ์มหิทรปุระ แล้วกลับเข้าไปครองในกัมพูชา มันมีความสำคัญติดต่อกันสองดินแดน แทบจะถือว่าเป็นดินแดนอันหนึ่งอันเดียวกันด้วยซ้ำไป ในแง่หลักฐานจึงขอเรียกร้องให้ทวงศิลปกรรมสำริดประโคนชัยกลับมา ไม่ว่าจะโดยวิธีการเจรจา หรือการขอยืมแบบถาวร ซึ่งโดยนัยยะก็หมายถึง การให้โบราณวัตถุคืนแก่เจ้าของประเทศ ในขณะเดียวกัน ถ้าพิพิธภัณฑ์เดิมจัดนิทรรศการที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับโพธิสัตว์ประโคนชัย ก็สามารถยืมกลับไปจัดแสดงได้

“วิธีนี้มีความเป็นไปได้ในโลกสมัยใหม่ ถ้าทำได้ จะสามารถอธิบายเรื่องราวของดินแดนนี้ซึ่งกำลังขอขึ้นนทะเบียนมรดกโลก แล้งยังสามารถรู้รายละเอียดมากขึ้นจากโบราณวัตถุซึ่งเจ้าของประเทศ เจ้าของวัฒนธรรมศึกษาได้มากกว่าที่จะไปเก็บไว้ในต่างประเทศ แล้วไม่รู้อะไรเลย” นายทนงศักดิ์กล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image