Little Women ‘สี่ดรุณี’ ฉบับล่าสุดที่สวยงามและลงตัว

Little Women ‘สี่ดรุณี’ ฉบับล่าสุดที่สวยงามและลงตัว

Little Women ‘สี่ดรุณี’ ฉบับล่าสุดที่สวยงามและลงตัว

หนังสือ Little Women ของ ลุยซา เมย์ อัลคอตต์ ตีพิมพ์เมื่อปี 1868 เป็นวรรณกรรมสุดคลาสสิคที่สมัยหนึ่งโรงเรียนมัธยมในประเทศไทย จัดให้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลา

เรื่องราวของสี่สาวพี่น้องและบุคคลรอบตัวพวกเธอ ที่ทุกคนเป็นคนดีหมด ไม่มีตัวร้าย หรือตัวอิจฉา เป็นหนังสือดีที่อ่านได้เพลินๆ เหมือนเล่าเรื่องราวธรรมดาของผู้หญิงสี่คนในยุคปลายสงครามกลางเมือง

ลุยซา เมย์ อัลคอตต์ เขียนเรื่องนี้จากชีวิตจริงวัยเด็กของเธอ ตัวละครต่างๆ คือคนในครอบครัว และเป็นครั้งแรกที่มีการเอาเรื่องของผู้หญิงมาพูดในแนวที่ขัดแย้งกับกรอบของสังคมสมัยนั้น ที่ความสำเร็จของผู้หญิงวัดจากการแต่งงาน

ประเด็นนี้ถูกสะท้อนออกมาในหนังตอนที่ โจ (เซียร์ชา โรแนน) นำเรื่องที่ตนเขียนไปเสนอสำนักพิมพ์ บรรณาธิการสั่งว่า “เขียนให้กระชับ ฉูดฉาด ถ้าตัวเอกเป็นผู้หญิง ตอนจบเธอต้องได้แต่งงานหรือไม่ก็ตาย”

Advertisement

และคำพูดของป้ามาร์ช ( เมอรีล สตรีป) ที่ว่า “ไม่มีใครทำตามใจตัวเองได้โดยเฉพาะผู้หญิง แกต้องหาคู่แต่งงานรวยๆ” เมื่อถูกแย้งว่า “ป้าไม่เห็นแต่งงานเลย” คำตอบคือ “ก็ฉันรวยนี่ยะ” นี่คือค่านิยมที่ขีดเส้นให้ผู้หญิงเดินในยุคนั้น

Little Women ถูกดัดแปลงมานำเสนอหลากหลายรูปแบบ เป็นหนัง เป็นละครเวทีทั้งแบบพูดและมิวสิคัล เป็นซีรีส์ทีวี แม้กระทั่งเป็นการ์ตูน ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลและได้รางวัลจากเวทีใหญ่ๆ หลายเวที ทั้งลูกโลกทองคำและออสการ์

ครั้งนี้หนังก็ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำถึงสองรางวัล ซึ่งแม้จะพลาดไปหมด แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์และคนดูเป็นส่วนใหญ่ (ล่าสุด หนังยังเข้าได้เข้าชิงออสการ์ 6 สาขา รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)

Advertisement

หนังเล่าเรื่องการก้าวข้ามวัย coming of age ของสี่สาวพี่น้องที่ชีวิตค่อนข้างลำบาก แต่ละคนมีนิสัยและความฝันไปคนละทิศละทาง

เม็ก (เอ็มมา วัตสัน) พี่สาวคนโต อยากเป็นนักแสดง โจ (เซียร์ชา โรแนน) สาวหัวขบถ ที่เชื่อมั่นในตัวเองและไม่อยากเป็นผู้หญิงแบบที่สังคมยุคนั้นกำหนด เธอประกาศว่า “ผู้หญิงมีความฝัน ความสามารถ และความสง่างาม ฉันเบื่อที่คนเอาแต่พูดว่า ผู้หญิงมีไว้รักเท่านั้น”

เบธ (เอลิซา สแกนเลน) สาวน้อยอ่อนหวาน สงบเสงี่ยม ฝีมือบรรเลงเปียโนของเธอสะท้อนถึงจิตใจที่งดงาม และเอมี่ (ฟลอเรนซ์ พิวจ์) น้องสาวสุดเฮี้ยว เจ้าอารมณ์ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นจิตรกรดัง

แม้จะนิสัยต่างกัน ปะทะกันบ้างตามประสาพี่น้อง แต่ทั้งสี่ก็เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันด้วยความรัก และก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ตามสไตล์ของแต่ละคน

ผู้กำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้คือ เกรต้า เกอร์วิก (หนัง Lady Bird ที่เธอกำกับ ได้เข้าชิงออสการ์ทั้งสาขาผู้กำกับและนักแสดงนำหญิง คือ เซียร์ชา โรแนน ที่กลับมาร่วมงานกันอีกใน Little Women)

เกอร์วิกไม่ทำให้คนดูผิดหวัง Little Women เป็นหนังพลังหญิงที่เล่าเรื่องอย่างนุ่มนวล อบอุ่น ไม่ได้กล่าวร้ายผู้ชายหรือเรียกร้องสิทธิสตรี สิ่งที่เธอนำเสนอเป็นเรื่องความฝันของสี่ดรุณีที่อยากทำในสิ่งที่พวกตนรัก

หนังเล่าตัดสลับไปสลับมาอย่างมีลูกเล่นและชวนติดตาม ระหว่างอดีต (ตอนเป็นเด็ก) กับปัจจุบัน ผ่านมุมมองของโจ ที่แม้เรื่องที่เล่าจะไม่เดินเป็นเส้นตรง แต่หนังดูเข้าใจง่าย ละเมียดละไม น่ารัก และอบอุ่นหัวใจ

เสริมด้วยทีมนักแสดงที่แข็งแกร่งมาก สี่สาวเข้าขากันดี โดดเด่นลดหลั่นกันไปตามบทบาท เซียร์ชา โรแนน เป็นตัวเดินเรื่องที่มีเสน่ห์ ทุกฉาก ทุกอารมณ์ จนคนดูหลงรักและเอาใจช่วย

รองมาคือ ฟลอเรนซ์ พิวจ์ น้องสาวเจ้าอารมณ์ที่ชอบสร้างเรื่องปวดหัวและพร้อมทำลายสิ่งที่พี่สาวรัก (แอบเผานิยายที่โจเขียน) พิวจ์ในเรื่องนี้ทำให้คนดูลืมไปเลยว่า ครั้งหนึ่งเธอเคยแสดงเป็นนักมวยปล้ำสาวที่มีตัวตนจริง ในหนัง Fighting with My Family เรื่องนี้แม้จะเกเร แต่ดูเป็นเลดี้สาวน้อยที่คนดูยอมให้อภัยเพราะความน่ารักของเธอ

นอกจากสี่สาว ก็ยังมี ลอรี่ (ทิโมธี ชาลาเมต์ จาก Call Me By Your Name) หนุ่มข้างบ้าน หล่อเหลา แสนดี แสนน่ารัก คุณแม่ผู้เข้มแข็ง (ลอร่า เดิร์น) ผู้สอนให้ลูกๆ รู้จักแบ่งปันและเอื้ออาทรต่อคนที่ลำบากกว่า และป้ามาร์ช (เมอริล สตรีป) ป้าสุดแสบที่ออกมาทีไรก็มีวาทะที่แทงจี๊ดในใจ

เมื่อดูจบ คนดูสัมผัสได้ถึงงานสร้างและคอสตูมที่ประณีตละเมียดละไม ดนตรีประกอบไพเราะที่เข้ากับเรื่องราว ทุกอย่างสวยงามลงตัว เป็นความรู้สึกดีๆ ที่ได้ดูหนังที่ทำให้แอบยิ้มตามสี่สาวยามพวกเธอมีความสุข แอบเหงาเศร้าและน้ำตาซึมเมื่อพวกเธอต้องเผชิญปัญหาและความทุกข์

แม้หนังจะชื่อ Little Women แต่ก็เป็นหนังที่ผู้ชมทุกเพศทุกวัยดูได้ ยิ่งผู้หญิงยิ่งไม่น่าพลาดกับหนังสวยงามที่ทำให้ดูแล้วมีความสุขอย่างหนังเรื่องนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image