Sing Street หนังเพลงเพราะๆ ของคนมีฝัน

Sing Street หนังเพลงเพราะๆ ของคนมีฝัน

Sing Street หนังเพลงเพราะๆ ของคนมีฝัน

เวลาดูหนัง นอกจากดาราที่แสดงแล้ว ผู้กำกับหนังก็เป็นเหมือนแบรนด์ของหนังนะ ผู้กำกับ Sing Street คือ จอห์น คาร์นีย์ อดีตมือเบสวงร็อคไอริช The Frames ที่ผันตัวเองมากำกับมิวสิควิดีโอและซีรีส์โทรทัศน์ในไอร์แลนด์บ้านเกิด ก่อนจะกำกับหนังเพลงทุนต่ำเรื่อง Once ที่สร้างชื่อเสียงจนคนรู้จักทั่วโลก ทั้งเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อ Falling Slowly ก็ได้รางวัลออสการ์ปี 2001 สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และหนังเรื่องนี้ยังได้รับการดัดแปลงเป็นละครเวทีที่ได้รางวัลโทนีย์อวอร์ดอีกด้วย

ปี 2014 เพลง Lost Stars จากหนัง Begin Again ที่เขากำกับ โด่งดังขนาดเข้าชิงรางวัลออสการ์อีกครั้ง แม้จะไม่ได้รางวัล แต่ก็กลายเป็นเพลงในดวงใจของหลายคน คนดูจดจำ จอห์น คาร์นีย์ ในฐานะผู้กำกับหนังเพลงที่ใช้เพลงถ่ายทอดอารมณ์ตัวละคร และเป็นสื่อในการเล่าเรื่องได้อย่างทำให้คนดูซาบซึ้งและเกิดอารมณ์ร่วม

มาถึง Sing Street จอห์น คาร์นีย์ ก็ไม่ทำให้คนดูผิดหวัง หนังมีเพลงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินเรื่องเช่นเคย แต่เป็นหนังย้อนยุค ประมาณปี 1980 มีเพลงฮิตของวงดังยุค 80 เช่น Duran Duran, A-HA, The Jam และเพลงใหม่ๆ ที่แต่งเพื่อใช้ในหนัง สื่อถึงความรักและความฝันของตัวละคร เป็นสไตล์เพลงยุค 80 เช่นเพลงรักหวานๆ แบบเพลง To Find You เพลงจังหวะสนุกๆ ที่ฟังแล้วกระชุ่มกระชวยเช่นเพลง The Riddle of the Model และอีกหลายเพลง

Sing Street เป็นหนังการก้าวข้ามพ้นวัยของวัยรุ่น (coming of age) เกี่ยวกับความรักของวัยรุ่น ในยุคที่เศรษฐกิจของไอร์แลนด์ตกต่ำขนาดหนัก คอเนอร์ (เฟอร์เดีย วอลซ์ ฟิลโล) ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต การแตกแยกของครอบครัว ถูกรังแกและกดดันอย่างหนักจากเพื่อน และอาจารย์ที่ไม่มีจิตวิญญาณของครูที่โรงเรียนแห่งใหม่ แต่ชีวิตยังพอสดใส เมื่อเขาพบ ราฟินา (ลูซี บอยน์ตัน) สาวรุ่นพี่ผู้ใฝ่ฝันจะเป็นนางแบบ ความรักทำให้เขารวมตัวกับเพื่อนๆ ตั้งวงดนตรี Sing Street (ล้อจากชื่อโรงเรียนใหม่ของเขา Synge Street) เพื่อให้ราฟินาหันมาสนใจและยอมเป็นนางเอก MV เพลงที่เขาแต่ง

Advertisement

ความรักและคำแนะนำจาก เบรนดอน (แจค เรย์นอร์) พี่ชายที่เหมือนเป็นคนไม่เอาไหน วันๆ เอาแต่สูบยากับฟังเพลงร็อค ทำให้คอเนอร์สามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ใช้ดนตรีเป็นสื่อระบายความรู้สึก พูดแทนความในใจ ที่ไม่ใช่แค่ความรัก แต่บอกถึงอารมณ์ต่างๆ เจ็บปวด สับสน สุข เศร้า เรียนรู้ชีวิตและหยิบมันมาเป็นแรงผลักดัน ที่จะมุ่งไปข้างหน้าเพื่อคว้าความฝัน

Sing Street เป็นหนังสร้างแรงบันดาลใจ ทั้งมีเสน่ห์ทั้งประทับใจจนน้ำตารื้น สอนให้เอาความรัก และความเจ็บปวดในชีวิตมาเป็นพลังในการทำความฝันให้เป็นจริง ราฟินาพูดเกี่ยวกับความรักที่ฟังแล้วอินมาก “That’s what love is, happy, sad.” ความรักและชีวิตมีรสชาติของความสุขปนเศร้า มีหวาน มีขม มีอารมณ์ไม่สมหวัง ที่สำคัญคืออย่าเอาปัญหาและอุปสรรคมาเป็นเหตุให้จมอยู่กับมัน จนไม่ลุกขึ้นทำอะไรเลย คำพูดนี้ฟังๆ แล้วให้อารมณ์ประมาณเดียวกับคำพูดใน Romeo and Juliet ที่ว่า Parting is such sweet sorrow.” การจากกันช่างเป็นความเศร้าที่แสนหวาน

Sing Street สร้างจากประสบการณ์วัยรุ่นของจอห์น คาร์นีย์ ซึ่งเขาบอกว่า “หนังเรื่องนี้คือเติมเต็มความฝันของสิ่งต่างๆ ที่ผมอยากทำตอนวัยเท่าตัวละคร แต่ไม่ได้ทำ” นอกจากเพลงทั้งเก่าและใหม่ที่แสนจะไพเราะแล้ว สิ่งดีงามในหนังเรื่องนี้คือ นักแสดง ที่ผู้กำกับใช้เวลานานกว่าหกเดือนในการค้นหาทั่วไอร์แลนด์ พวกเขาเป็นกลุ่มเด็กมหัศจรรย์ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราว ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบของแต่ละคน ได้อย่างกินใจและมีพลัง ทั้งพระเอก นางเอก พี่ชายพระเอก และนักดนตรีในวง ที่ดูเป็นไอ้ขี้แพ้ ไม่ค่อยมีเพื่อน แต่พวกเขามีทักษะและกำลังใจที่เข้มแข็ง ที่พร้อมจะผ่าฟันอุปสรรคทั้งปวง ดังเช่นเพลงท้ายเรื่องที่ผู้กำกับฝากไว้ Go Now

Advertisement

Go on be wrong.

Cause tomorrow you‘ll be right.

Don’t sit around and talk it over.

You’re running outta time.

Just face ahead.

No going back now.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image