แนะนำหนัง “คนผจญฉลาม” เรื่องล่าสุด และงานใหม่ “สปีลเบิร์ก”

แนะนำหนัง "คนผจญฉลาม" เรื่องล่าสุด และงานใหม่ "สปีลเบิร์ก

แนะนำหนัง “คนผจญฉลาม” เรื่องล่าสุด และงานใหม่ “สปีลเบิร์ก

the shallows

The Shallows

แค่ดูตัวอย่างหนัง The Shallows ก็รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้น่าสนใจ ตัวอย่างมีเพียงสั้นๆ แต่อธิบายเรื่องเกือบทั้งหมด เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะจบยังไง นางเอกจะรอดไหม หลายคนก่นด่าว่าเป็นตัวอย่างที่สปอยมาก แต่เรากลับรู้สึกว่า หนังต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ที่มีดาราแค่ผู้หญิงหนึ่งคนกับฉลามขาวหนึ่งตัว จะสร้างออกมาให้สนุกได้อย่างไร

ดูแล้วไม่ผิดหวังเลย หนังทั้งตื่นเต้นทั้งลุ้นจนอยากส่งเสียงเชียร์ พอนางเอกเจ็บ คนดูก็แทบจะร้อง “โอ๊ย” พอเธอจะหนีจากโขดหินไปที่ทุ่นลอยน้ำ คนดูก็เกร็งตามอยากจะกระโดดไปช่วยว่ายน้ำ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอไปได้ถึงทุ่น (จากตัวอย่าง) ผู้กำกับเก่งมากในการสร้างความเสียวสยอง เล่นกับอารมณ์คนดูที่จินตนาการ และหวาดระแวงว่าฉลามจะโผล่ขึ้นมาเมื่อไร เป็นหนังแนวระทึกขวัญที่ให้อารมณ์เดียวกับการดูหนังผี ที่บางฉากต้องหลับตาหรือหรี่ตาดู

ผู้กำกับหนังคือ จูเมต์ คอลเลท เซียร์รา ผู้กำกับชาวสเปนที่ถนัดกำกับหนังแนวนี้ จากผู้ลำดับภาพมากำกับมิวสิควิดีโอ และงานโฆษณาสินค้า ก่อนแจ้งเกิดเต็มตัวเมื่อกำกับหนัง House of Wax ในปี 2005 หนังเรื่องอื่นๆ ที่ดูแล้วระทึกเช่น Orphan (2009) Unknown (2011) และ Non-Stop (2014)

Advertisement

ส่วนนางเอกตอนแรกไม่รู้นะว่าคือ เบลค ไลฟ์ลี แค่รู้สึกว่าหน้าคุ้นๆ มารู้ที่หลังว่าเป็นเธอ ติดใจเบลค ไลฟ์ลี ตั้งแต่หนัง The Age of Adaline (2015) ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมเธอสวยสุดๆ แต่ฝีมือการแสดงไม่เด่นชัด แม้จะมีดีกรีนักแสดงแจ้งเกิดยอดเยี่ยมของซีเนมาคอนปี 2011 จากหนังเรื่อง The Town ที่ประกบดาราดัง เบน เอฟเฟลค และ เจเรมี เรนเนอร์

สำหรับเรื่องนี้ความยาวของหนังแค่เพียง 87 นาที แต่เบลคแสดงคนเดียวแทบทั้งเรื่อง และสามารถสะกดคนดูตั้งแต่ฉากแรกที่เธอปรากฏตัวในมาดสาวสวยหุ่น “เป๊ะ” จนถึงฉากสาวนักสู้ที่มีสติและมีพลังในการพยายามเอาชีวิตรอด

หนังสร้างให้เบลค (แนนซี่) เป็นนักศึกษาแพทย์ที่สูญเสียมารดา และหลบมาเที่ยวหาดลึกลับที่เมกซิโก ที่ซึ่งแม่เธอเคยมาเที่ยว เป็นหาดสวยสุดๆ จนเธอต้องบอกน้องสาวทางโทรศัพท์ว่า It’s perfect. ขณะที่เจ้าของถิ่นก็อวดด้วยความภูมิใจว่า It’s paradise. แต่สวรรค์ล่มภายในพริบตา เมื่อฉลามขาวขนาดใหญ่ที่บาดเจ็บ โผล่มาปกป้องพื้นที่ล่าเหยื่อของมัน ซึ่งก็คือซากปลาวาฬที่ตายลอยน้ำมา

Advertisement

เพื่อให้การแสดงสมจริง เบลคต้องฝึกเรียนรู้การเล่นกระดานโต้คลื่นให้ชำนาญ และฝีกร่างกายให้อดทนพอที่จะรับมือกับบทนี้

เธอพูดถึงการแสดงในเรื่องนี้ว่า “ฉันเคยใช้เวลาอยู่ใต้น้ำบ้าง…. เคยดำน้ำกับฉลามขาวและนักอนุรักษ์….พวกมันไม่ได้ดูเป็นสัตว์ร้ายร่างยักษ์ ..ฉลามเป็นสัตว์น่าทึ่ง.. มันอาศัยอยู่ในถิ่นของมัน มนุษย์เป็นผู้ทำร้ายฉลามก่อน ซึ่งไม่ใช่เพื่อเอาชีวิตรอด แต่เพื่อความบันเทิง…ฉันเข้าใจแรงจูงใจของฉลาม ความมุ่งมั่นตั้งใจเอาชนะ มันเป็นบททดสอบความตั้งใจของทั้งคู่ เหยื่อทั้งสองฝ่าย แต่มีเพียงฝ่ายเดียวที่จะสามารถเอาชีวิตรอด…”

The Shallows เป็นหนังที่คอหนังไม่ควรพลาด เนื้อเรื่องกระชับ ตรงประเด็น เป็นหนังเกี่ยวกับพลังในการเอาชีวิตรอด แสดงความมีสติของตัวละครที่ใช้ความรู้และประสบการณ์ ประเมินสิ่งแวดล้อมรอบด้าน และเก็บมาใช้ประโยชน์อย่างคาดไม่ถึง

แนนซี่โต้คลื่นด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น และมีต่างหู สร้อยคอเป็นเครื่องประดับติดตัว ในยามคับขันเธอหยิบสิ่งเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ทั้งหมด ฉากเย็บแผลตัวเองในเรื่องนี้ซาดิสม์มาก เสียวสยองจนคนดูต้องร้องออกมา แต่ในความทุกข์ เธอก็มีบางอย่างที่เหมือนอยู่เป็นเพื่อน และทำให้เธอไม่โดดเดี่ยวเกินไปนัก มุขนี้น่ารักดี และแสดงความอ่อนโยนในจิตใจสาวสวย ที่ชีวิตกำลังจะสิ้นหวัง

นอกจากหนังสนุก นางเอกสวยแล้ว ทัศนียภาพของหาดลึกลับนี้ก็สวยสุดใจ ยิ่งถ้าถ่ายภาพมุมสูงจะเห็นท้องทะเลสดใสสีเขียวมรกต ไม่น่าแปลกใจเมื่อพบว่า สถานที่ถ่ายทำคือที่เกาะลอร์ดโฮว์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเกาะที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้

ดูจบอยากพูดภาษาคนสมัยเก่า “ตื่นเต้นจริงๆ ให้ดิ้นตาย”

the-bfg-poster2

The BFG

มีศรัทธาส่วนตัวกับสตีเวน สปีลเบิร์ก ไม่ว่ากำกับเรื่องไหนก็ต้องตามไปดู มีความรู้สึกว่าหนังที่เขากำกับสนุกทุกเรื่อง

เช่น Jaws (1975 ) หนังชุด Indiana Jones ที่ แฮริสัน ฟอร์ดแสดง (ช่วงค.ศ.1981- ค.ศ.1984) E.T. :The Extra Terrestrial (1982) Schindler’s List (1993) Jurassic Park (1993) Catch Me If You Can (2002) Lincoln ( 2012) และล่าสุด Bridge of Spies (2015) หนังที่ทำให้ มาร์ค ไรแลนซ์ ได้รางวัลออสการ์สาขาสมทบชายยอดเยี่ยมปีล่าสุด และเขาก็มาแสดงเป็นยักษ์ใหญ่ใจดีในเรื่อง The BFG

ดูแล้วค่อนข้างผิดหวัง เพราะยี่ห้อสปีลเบิร์กมาตรฐานควรจะสูงกว่านี้ ไม่ใช่ไม่ดี แต่มันเป็นหนังเด็กมากๆ ความจริงก่อนไปดูก็รู้อยู่แล้วว่า นี่เป็นหนังวอล์ท ดิสนีย์ เรื่องแรก ที่กำกับโดยสปีลเบิร์ก แถมหนังยังสร้างจากวรรณกรรมเยาวชนของ โรอัลห์ ดาห์ล ผู้เขียนนิยายเกี่ยวกับเด็กๆ ที่นำมาสร้างหนังหลายเรื่องเช่น Charlie & the Chocolate Factory และ Matilda อีกทั้งเรื่อง The BFG นี้ก็เคยสร้างเป็นหนังการ์ตูนในปี 1989

ก็เมื่อเป้าหมายคือกลุ่มเด็ก หนังก็ต้องออกมาแนวนี้แหล่ะ เรียบๆ เรื่อยๆ เทคนิคภาพสวย ขาดความสมจริงและมีความเป็นแฟนตาซีสูง

โซฟี (รูบี้ บาร์นฮิลล์) นอนไม่หลับ เธอแอบเห็นว่ามียักษ์ใหญ่หูกางมาเดินเปะปะในกรุงลอนดอนยามค่ำคืน เพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหล ยักษ์หูกางจึงจับเธอไปในดินแดนยักษ์ และยังบอกอีกว่า เขาได้ยินเสียงกระซิบกระซาบทุกเสียงในโลกนี้ (ก็แน่ละ หูออกกางซะขนาดนี้) ที่นี้มิตรภาพต่างไซส์ระหว่างเด็กหญิงอายุสิบปีผู้กำพร้า อยากรู้อยากเห็น และไม่กลัวสิ่งใด กับยักษ์โดดเดี่ยวแสนเศร้าที่ถูกผองเพื่อนยักษ์รังแก เพราะเขาตัวเล็กกว่ายักษ์ทั่วไป และเป็นมังสวิรัติ ไม่กินเนื้อคนเนื้อสัตว์ ได้ผลิบานขึ้น นำไปสู่ความร่วมมือที่จะช่วยกันกำจัดยักษ์ร้ายตัวอื่นๆ ที่แม้วิธีการจะไม่ค่อยสมเหตุสมผล แต่ก็น่ารักน่าเอ็นดู

ชอบการตั้งชื่อยักษ์ในเรื่องนี้ ตลกและมีอารมณ์ขันมาก โซฟีเรียกยักษ์กินพืชและนักจับความฝันของเธอว่า BFG ย่อมาจาก Big Friendly Giant ขณะที่เพื่อนๆ ยักษ์เรียกอย่างดูหมิ่นว่า เจ้าแคระ ส่วนยักษ์กินเนื้ออื่นๆ ก็มีชื่อที่บอกยี่ห้อชัดเจนเช่น เฟลชลัมป์อีตเตอร์ บลัดบอทเทลอร์ มีดทริปเปอร์ บุชเชอร์บอย โบนครัชเชอร์ ดูจบแล้วนึกขึ้นได้ว่า แล้วเจ้า BFG นี่มีชื่อจริงๆ ไหม หรือชื่อเจ้าแคระแบบที่เพื่อนๆ เรียก

หนังเรื่องนี้ได้มือเขียนบทคือ เมลลิสา มาทิสัน ซึ่งเคยเขียนบท E.T. มาเขียนบทให้ และกลายเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของเธอ เพราะเธอตายขณะถ่ายทำหนัง ทั้งยังได้ จอห์น วิลเลียม ที่เคยเขียนดนตรีประกอบเรื่อง Jaws มาเป็นผู้แต่งเพลงประกอบ ดนตรีออกแนวเหงาๆ สื่ออารมณ์เศร้าและโดดเดียวของเพื่อนต่างสายพันธุ์

เทคนิคการถ่ายทำหนังเรื่องนี้น่าสนใจ และได้งานภาพที่สวยมาก การถ่ายทำเป็นส่วนผสมระหว่างไลฟ์แอกชั่นกับเพอร์ฟอร์แมน แคปเจอร์ แทนที่จะถ่ายทำในฉากที่ว่างเปล่าที่นักแสดงต้องจินตนาการเอง เรื่องนี้ถ่ายทำนักแสดงในชุดเพอร์ฟอร์แมน แคปเจอร์ที่แสดงในฉากเดียวกันกับตัวละครที่เป็นมนุษย์ธรรมดา

ฉากที่สวยที่สุดคือภาพดินแดนแห่งความฝันที่ BFG พาโซฟีไปดู ความฝันต่างๆ ถูกสมมุติเป็นดวงไฟหลากสี ฝันดี ฝันร้าย จะมีสีต่างกัน ความฝันเหล่านี้จะลอยวนเวียนอยู่รอบต้นไม้ใหญ่ ภาพที่ปรากฏสวยเหมือนภาพที่เนรมิตในเทพนิยาย ถ้าใครเผลอหลับเพราะฟังบทสนทนายืดยาวระหว่าง BFG และโซฟี อย่าลืมให้เพื่อนปลุกมาดูฉากนี้นะ สวยสุดยอดจริงๆ

อีกฉากที่น่ารักและน่าสนใจมากคือ เมื่อ BFG เดินท่อมๆ กลางกรุงลอนดอนในยามค่ำคืน เขามีการพลางตัวอย่างไรให้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม ไม่ให้คนจับได้ว่ามียักษ์สูง 24 ฟุตเดินเพ่นพ่านอยู่

The BFG เป็นหนังที่อบอุ่นและงดงามเหมาะสำหรับพาเด็กเล็กไปดู แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่ติดสไตล์กำกับหนังผจญภัย หนังตื่นเต้นหรือหนังแอคชั่นของสปีลเบิร์ก เชื่อแน่ว่าคุณจะเป็นอีกคนหนึ่งที่ BFG ทำหน้าที่ของเขา นั่นคือส่งความฝันไปให้คุณในโรงหนังที่คุณกำลังชมภาพยนตร์เรื่องนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image